Stella McCartney เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษเพื่อช่วยหยุดการทำลายป่าแอมะซอน
Stella McCartney เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษเพื่อสนับสนุนแคมเปญของกรีนพีซ (Greenpeace) เพื่อช่วยหยุดการทำลายป่าแอมะซอน ซึ่งถูกใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการเกษตรและปศุสัตว์ คอลเลคชั่นพิเศษในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการรวมความตั้งใจในการปกป้องธรรมชาติและสัตว์ป่า และการเฉลิมฉลองการครบรอบ 20 ปีของ Stella McCartney และการครบรอบ 50 ของกรีนพีซเข้าไว้ด้วยกัน Stella McCartney ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นพิเศษนี้ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นฤดูร้อน 2021
โดยนำเสนอไอเทมที่มาพร้อมกับลวดลายกราฟฟิค ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายสไตล์วินเทจที่สื่อถึงการขับเคลื่อนเพื่อธรรมชาติ ซึ่งจะปรากฏบนเสื้อยืด 2 ดีไซน์และสเวตเชิ้ตอีก 2 ดีไซน์ โดยไอเทมทั้งหมดจะถูกตัดเย็บขึ้นจากผ้าฝ้ายออแกนิกเนื้อนุ่ม และมีให้เลือกในสีฟ้าอ่อน (pale blue) และสีขาว (white marble)
“Stella McCartney เป็นแบรนด์ที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อโลกมาตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ และฉันก็ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนองค์กรที่ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างกรีนพีซ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการครบรอบของเราทั้งคู่ และเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ฉันไม่ได้ต้องการเพียงแค่ให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ หากแต่ในมุมมองและการตัดสินใจของพวกเรา ฉันยังหวังว่าโลกของเราจะได้รับการใส่ใจมากยิ่งขึ้น ผืนป่าที่มีค่าอย่างแอมะซอนไม่ควรถูกทำลายเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการปศุสัตว์ทั่วโลก และวิธีการง่ายๆ เช่นการลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ในแต่ละมื้ออาหาร ก็สามารถช่วยลดการทำลายป่าแอมะซอนและปกป้องระบบนิเวศและสภาพภูมิอากาศให้แก่คนในรุ่นต่อไปได้” Stella McCartney กล่าว
คอลเลคชั่นพิเศษนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากถ้อยแถลง McCartney A to Z และสืบเนื่องจากโอกาสพิเศษในการครบรอบ 20 ปี Stella ยิ่งมุ่งมั่นที่จะนำการตระหนักรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมมาสู่อุตสาหกรรมแฟชั่น โดยยืนหยัดต่อคุณค่าของแบรนด์ในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และใช้ไอเทมหรูซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมาใช้ในการสื่อสารเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก Stella พัฒนาการเป็นผู้นำทางด้านการปกป้องโลกผ่านนวัตกรรมและการลงทุนเพื่อสร้างสรรค์วัสดุทางเลือก และไม่เคยใช้หนังสัตว์ หรือขนสัตว์เลยตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 2001 โดยนำเสนอรองเท้าและกระเป๋าต่างๆ ซึ่งรวมถึงกระเป๋า Falabella กระเป๋ารุ่นไอคอนิกของแบรนด์ในรูปแบบที่ปราศจากการใช้วัสดุจากสัตว์อย่างสิ้นเชิง
ในปี 2020 อัตราการทำลายป่าแอมะซอนมีค่าสูงสุดในรอบ 12 ปี การเผาป่ามักจะเกิดขึ้นหลังจากการถางป่าเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการทำปศุสัตว์ และในปี 2020 ทางการได้แถลงให้เห็นว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ของสหราชอาณาจักรถูกเผาทั่วประเทศบราซิล การเผาถูกใช้ในการเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกหญ้าหรือถั่วเพื่อใช้ในการปศุสัตว์ของฟาร์ม ซึ่งเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมต่างๆ จะถูกส่งไปขายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารทั่วสหราชอาณาจักรและทั่วโลก ผลกระทบเชิงลบนี้ส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากการทำลายป่าจะทำให้คาร์บอนไดออกไซด์กว่าพันล้านตันถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ และในขณะเดียวกันก็ลดปริมาณต้นไม้ที่จะช่วยดูดซับแก๊สเรือนกระจก
การทำลายป่านี้ นอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์นับล้านในพื้นที่ป่าแอมะซอน และพื้นที่อยู่อาศัยสำคัญอื่นๆ รวมถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกแล้ว ชนพื้นเมืองชาวบราซิลยังเป็นกลุ่มคนที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าวโดยตรง ซึ่งเป็นภัยต่อถิ่นที่อยู่อาศัยและการดำรงชีวิตของพวกเขา และองค์กรกรีนพีซที่ตั้งอยู่ในอยู่ภูมิภาคต่างๆ มากกว่าใน 40 ประเทศทั่วโลก จึงต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมต่างๆ รับผิดชอบต่อการทำลายป่า
นับตั้งแต่ปี 2014 Stella McCartney ได้มุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ไม่ก่อให้เกิดการทำลายป่า โดยไม่เคยใช้ทรัพยกากรจากป่าดึกดำบรรพ์หรือพื้นที่ป่าที่ต้องการการฟื้นฟู ซึ่งแบรนด์สามารถดำเนินการตามความตั้งใจนี้ได้ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา โดยวัสดุหลักอย่างเส้นใยวิสโคสที่เลือกใช้นั้นได้มาจากต้นไม้ที่ปลูกโดยได้รับการรับรองในสวีเดน อีกทั้งยังใช้กระดาษและไม้ที่ได้จากแหล่งผลิตที่ไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมไปถึงไม้ที่ใช้ทำส้นรองเท้า Elyse และนอกเหนือจากแคมเปญ #ThereSheGrows ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรันเวย์โชว์จากคอลเลคชั่นฤดูหนาว 2019 ที่นับเป็นกระบอกเสียงสำคัญให้แขกผู้เข้าชมและสาธารณชนได้ตระหนักถึงการปกป้องระบบนิเวศน์ของป่าฝน Leuser ในสุมาตราแล้ว ในคอลเลคชั่นฤดูหนาว 2020 แขกผู้เข้าชมโชว์ยังจะได้รับต้นอ่อนกลับไปปลูกที่บ้าน หรือปลูกที่ปารีสเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการปลูกต้นไม้ในท้องถิ่น เพื่อช่วยฟื้นฟูโลกใบนี้อีกด้วย
พบกับคอลเลคชั่นพิเศษ Stella McCartney x Greenpeace ได้ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น M
Line: @stellamccartneyth
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ