รู้ทันคออักเสบ อาการเรื้อรังที่ส่งผลให้เกิดอาการตีบรั่วของหัวใจ
สาวๆ หลายคนอาจเคยได้ยินโรคคออักเสบกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในอากาศ และผลกระทบจากโรคนี้ถือว่าร้ายแรงกว่าที่คิด ดังนั้นเราจึงชวนให้ทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคดังกล่าวนี้ เพื่อสามารถป้องกัน สังเกตอาการ และรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคคออักเสบนี้ได้อย่างครอบคลุมกันค่ะ
คออักเสบ คืออะไร
คออักเสบ หรือ Pharyngitis คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อทั้งไวรัสและแบคทีเรียภายในอากาศ ซึ่งโรคชนิดนี้สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ทุกวัย และหากผู้ป่วยเป็นเด็กก็เสี่ยงต่อการทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น โรคหัวใจรูมาติก
อาการของคออักเสบ
อาการของโรคคออักเสบจะมีความแตกต่าง ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อดังนี้
1.อาการที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ลักษณะของอาการจะมีเสียงแหบ มีอาการคอแห้ง คอแดง มีไข้ต่ำกว่าการติดเชื้อจากแบคทีเรีย น้ำมูกไหล ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย ผื่นขึ้นตามผิวหนัง และอาจมีอาการร้อนใน และในส่วนของผู้ป่วยเด็กจะมีอาการท้องร่วงร่วมอยู่ด้วย
2.อาการที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ลักษณะของอาการจะมีไข้ ปวดเมื่อยไม่สบายตัว ปวดศีรษะ มีจุดสีแดงหรือรอยขาวรอยเทาที่คอ คอบวมแต่เมื่อกดจะไม่มีอาการปวด และในส่วนของผู้ป่วยเด็กจะมีอาการปวดท้องและคลื่นไส้อาเจียนร่วมอยู่ด้วย
สาเหตุที่ทำให้เกิดคออักเสบ
สาเหตุที่ทำให้เกิดคออักเสบคือเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับโรคไข้หวัด โรคคอตีบ โรคอีสุกอีใส หรือโรคกลุ่มอาการ Croup และนอกจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคคออักเสบแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการคออักเสบได้อีกด้วย เช่น
1.เกิดจากอาการผิดปกติในลำคอ เช่น กล้ามเนื้อในลำคอเกิดอาการระคายเคือง มีอาการตึง หรือมีเนื้องอกอยู่ในลำคอ
2.เกิดจากผลกระทบของการเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคไซนัส กรดไหลย้อน หรือโรคที่ส่งผลต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสในลำคอ
3.เกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดคออักเสบ
4.เกิดจากการสูบบุหรี่ ซึ่งควันบุหรี่มีส่วนทำให้เกิดการติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน
วิธีรักษาคออักเสบ
ในส่วนของวิธีการรักษาโรคคออักเสบนั้นควรรักษาตามอาการจนกว่าเชื้อจะถูกกำจัดผ่านภูมิคุ้มกันของร่างกาย พร้อมทั้งการดูแลตัวเองด้วยวิธีดังนี้
1.อาการคออักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ควรรักษาด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากๆ หมั่นดื่มน้ำอุ่น กินอาหารที่ย่อยง่าย ห้ามปล่อยให้คอแห้ง และกินยาลดไข้หรือยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง
2.อาการคออักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย รักษาด้วยการกินยาที่สามารถฆ่าเชื้อได้ตามแพทย์สั่ง ซึ่งจำเป็นต้องกินยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7-10 วัน อย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดกินยาด้วยตัวเองเมื่อรู้สึกว่าอาการดีขึ้น เพราะจะส่งผลให้การรักษาไม่เป็นผลสำเร็จ และอาจทำให้เกิดการดื้อยาได้
วิธีป้องกันคออักเสบ
สำหรับวิธีการป้องกันคออักเสบนั้น สามารถทำได้ด้วยการให้ความสำคัญในการล้างมือก่อนและหลังทำกิจกรรมต่างๆ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือการดมควันบุหรี่ สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่ระบาด และหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ที่เป็นคออักเสบ ซึ่งแม้วิธีดังกล่าวจะไม่สามารถป้องกันได้โดยตรง แต่ก็ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อได้พอสมควร
คออักเสบเรื้อรังส่งผลให้เกิดอาการตีบรั่วของหัวใจ
ในส่วนของคออักเสบที่ส่งผลให้เกิดอาการตีบรั่วของหัวใจนั้น เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเต็ปโตคอคคัสกลุ่มเอ หรือเรียกว่า Group A Streptococcus ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้จนกลายเป็นอาการคออักเสบเรื้อรัง ส่งผลต่อหัวใจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยเด็กจะยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นไข้รูมาติก ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด ก็อาจจะยิ่งเพิ่มอาการอักเสบของหัวใจจนทำให้เกิดอาการตีบรั่วของหัวใจได้
อาการตีบรั่วของหัวใจที่เกิดจากการเป็นโรคคออักเสบเรื้อรังนั้น อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ซึ่งถือเป็นผลกระทบที่เกิดจากการเป็นโรคคออักเสบที่หลายคนอาจมองว่าเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ง่าย แต่อย่าลืมว่าโรคต่างๆ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด ก็มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิตได้เสมอ