พิจารณาตัวเอง! พฤติกรรมสุดทน เสี่ยงโดนเพื่อนร่วมงานแบน
เป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน ที่จะมีทั้งคนรัก คนชัง คนชื่นชม คนนินทา ด้วยความที่ต่างที่มา ต่างเพศ ต่างวัย ก็ย่อมมีเรื่องไม่เข้าอกเข้าใจกันได้เป็นธรรมดา ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าพฤติกรรมเหล่านั้นจะเปลี่ยนไม่ได้ หากรู้จักที่จะทำงานให้เป็นมืออาชีพ ดังนั้น เพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนจึงไม่แสดงอาการหรือพูดออกมาตรง ๆ ว่าไม่ชอบพฤติกรรมเรา เพราะหวังว่าสักวันเราจะพิจารณาตัวเองได้ว่าทำไมเพื่อนร่วมงานถึงทำตัวแปลก ๆ ใส่ แต่ถ้าเนิ่นนานแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคิดได้ ถ่วงการทำงานไม่ให้ราบรื่นอยู่เสมอ ถึงวันนั้นอาจถึงขั้น “โดนแบน” ก็เป็นได้
แล้วพฤติกรรมแบบไหนที่เสี่ยงจะโดนคนในออฟฟิศแบน Tonkit360 ได้รวบรวมมาให้ 5 พฤติกรรม จะได้ลองนำไปสังเกตตัวเอง ว่าการที่เพื่อนร่วมงานส่งสัญญาณแปลก ๆ มานั้น เป็นเพราะเรามีพฤติกรรมแบบนี้หรือเปล่า
ทำงานเอาหน้า เอาดีเข้าตัว
น่าจะเป็นนิสัยสุดเพลียอันดับต้น ๆ ของเพื่อนร่วมงานที่ใคร ๆ ก็หมั่นไส้เลยก็ว่าได้ งานเล็ก ๆ ไม่ งานใหญ่ ๆ ทำ ทำเอาหน้า ประจบประแจงเก่ง เหยียบย่ำคนอื่นเพียงแค่ให้ตัวเองมีผลงาน ใครจะเดือดร้อนก็ไม่สน จริงอยู่ที่ใคร ๆ ก็อยากประสบความสำเร็จ อยากโดดเด่น อยากเจริญในหน้าที่การงาน แต่มันก็มีวิธีที่ไม่เบียดเบียนใคร ความพยายามเป็นคนหิวแสง ชอบเอาความดีความชอบมาเป็นของตัวเองอยู่ตลอด ไม่มีใครทำใจให้ชอบได้หรอกนะ
ไม่รับผิดแต่รับชอบ
คงเคยเจอกันมาไม่มากก็น้อยแหละ กับพวกที่มีอะไรก็โทษคนอื่นไปหมดทั้งที่ทำงานอยู่ด้วยกัน มีปัญหาโทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง และบางทีก็เป็นความผิดตัวเองด้วยซ้ำ แต่หาแพะมารับเพื่อเอาตัวรอด ในทางกลับกัน พอเป็นเรื่องดี ๆ ปุ๊บหน้าบานออกตัวแรงรับคำชมเฉย ราวกับว่าทุ่มเทอยู่คนเดียว นี่จึงเป็นเพื่อนร่วมงานอีกประเภทที่ใคร ๆ ก็อยากจะหนีให้ไกล ฉะนั้น ถ้าเพื่อนร่วมงานแสดงอาการเอือม ๆ ใส่ ลองพิจารณาตัวเองดูละกันว่าเป็นคนประเภทนี้หรือเปล่า
ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวเพื่อนร่วมงาน
ชีวิต เวลา และของส่วนตัวของใครเข้าอย่าไปยุ่ง เว้นแต่เขาจะมาขอคำปรึกษาเอง และอีกอย่างการทำงานอย่างมืออาชีพต้องรู้จักบริหารเวลา ในกรณีทำงานเป็นทีมและไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย อย่าไปก้าวก่ายเวลาส่วนตัวของใคร เลิกงานก็คือเลิกงาน วันหยุดคือวันหยุด มีอะไรไว้คุยเวลางานหรือคุยช่วงที่อยู่ออฟฟิศ จะได้ไม่ไปทำให้บรรยากาศในการพักผ่อนของคนอื่นเสีย เพราะเขาก็มีอย่างอื่นต้องทำ บ่อย ๆ เข้า จะพาลให้บรรยากาศในการทำงานแย่ไปด้วย
พูดแต่ไม่ทำ
ง่าย ๆ ก็คือ พวกเก่งแต่ปาก ดีแต่พูด วิจารณ์เก่ง พูดมาก และไม่เคยลงมือทำ แต่พอคนอื่นทำ คนประเภทนี้ก็จะหานู่นหานี่มาตำหนิติเตียนบั่นทอนกำลังใจคนทำงาน ซึ่งส่วนมากก็หาสาระหรือประโยชน์ไปใช้ปรับปรุงพัฒนางานไม่ได้ วิจารณ์เอาสะใจอย่างเดียว การแสดงความคิดเห็นในขอบเขตของการทำงาน คือการติเพื่อก่อ เพื่อนร่วมงานต้องสามารถนำไปพัฒนางานให้ดีขึ้นได้ อย่าสร้างแต่ความรำคาญและบรรยากาศที่ไม่น่าทำงาน
นินทาเป็นอาจิณ
การติฉินนินทาไม่เคยเป็นเรื่องดี และก็ไม่มีใครชอบให้ตัวเองเป็นหัวข้อในการสนทนาทุกช่วงพักไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ซึ่งถ้าเราแสดงออกชัดเจนว่าเป็นตัวแม่ของวงนินทาล่ะก็ ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยว่าตัวเองก็จะเป็นหัวข้อสนทนาในวงอื่น ตอนนินทาคนอื่นน่ะมันสนุก แต่ต้องรู้ด้วยว่าคนอื่นก็อาจจะนินทาตัวเองได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังทำให้หมดความน่าเชื่อถือ เพื่อนร่วมงานไม่ชอบหน้า กลัวจะถูกเอาไปนินทา ไม่อยากจะพูดด้วยแม้แต่เรื่องงาน