ดูแลกระเป๋าเครื่องสำอางรับปีใหม่
ปีใหม่เวียนมาบรรจบอีกปีแล้ว มาทำความสะอาดกระเป๋าเครื่องสำอางด้วยการกำจัดของเก่าและเติมเครื่องสำอางชิ้นใหม่ๆ ลงไปในกระเป๋าเครื่องสำอางกันเถอะ ก็เหมือนกับการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ประจำปีนั่นแหละ แต่คุณสุภาพสตรีก็อย่าลืมทำความสะอาดโต๊ะเครื่องสำอางด้วย เช่น พิจารณาว่าคุณเก็บสีที่ปัดแก้มไว้นานแค่ไหนแล้ว หรือเปิดใช้มาสคาราอันใหม่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แล้วยังอายไลเนอร์ที่จับตัวเป็นก้อนนั่นอีก สมควรจะทิ้งลงถังขยะได้หรือยัง
ต่อไปนี้ เจเน็ต ปาร์โด ประธานบริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคลีนิกข์ มีคำแนะนำมาฝาก เครื่องสำอางมีวันหมดอายุ เจเน็ต บอกว่าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็มีวันหมดอายุได้เหมือนกัน แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าควรทิ้งอะไรเมื่อไหร่ ผู้เชี่ยวชาญของคลีนิกข์จะขอยกตัวอย่างและวิธีง่ายๆ เพื่อที่จะดูว่าอายแชโดว์หลอดนั้นควรลงถังขยะไปได้หรือยัง ด้วยขั้นตอนแรก คือ
ตรวจสอบของที่มีอยู่ทั้งหมด : ตั้งแต่สีปัดแก้ม ดินสอเขียนขอบตา จนถึงลิปกลอส เครื่องสำอางทุกตัวมีอายุการใช้งานของมัน การได้ทราบว่าคุณเก็บมันไว้นานเท่าไหร่แล้วจะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่ถ้าคุณมีลิปสติกและครีมรองพื้นอยู่เป็นกองล่ะ คุณจะเริ่มที่จุดไหนก่อนดี? วิธีตัดใจง่ายๆ คือ “ลองสำรวจของที่คุณมีทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะชอบสีหรือผลิตภัณฑ์ใดมากแค่ไหน แต่ทุกอย่างมันไม่ยั่งยืนในความเป็นจริง การที่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะทิ้งมันได้แล้วจะช่วยให้ผิวคุณมีสุขภาพดีได้ เพราะถึงแม้คุณจะดูแลผิวดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณยังคงใช้เครื่องสำอางเก่าๆ ทุกวัน ผิวของคุณก็มีโอกาสในการติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งจะนำไปสู่การเกิดสิวและการระคายเคืองได้” เจเน็ต บอกและยังแนะถึงอายุการใช้งานของแต่ละผลิตภัณฑ์ไว้อย่างละเอียด ซึ่งมีกฎข้อแรกๆ คือ ถ้าผลิตภัณฑ์เริ่มมีกลิ่นหืน แยกตัว แตกตัว หรือเปลี่ยนสี ก็ถึงเวลาที่มันจะลงไปอยู่ในถังขยะได้แล้ว
• ครีมรองพื้นแบบเหลว มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ (Water-Based) และน้ำมัน (Oil-Based) ซึ่งรองพื้นแบบนี้จะมีอายุประมาณ 12 และ 18 เดือน ตามลำดับ หลังจากเปิดใช้งาน
• คอนซีลเลอร์ สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 12 เดือน แต่ถ้ามันเริ่มจับตัวเป็นก้อนเวลาทาลงบนผิว ก็ควรจะทิ้งไปได้เลย
• แป้งฝุ่น มีอายุประมาณ 2 ปี ส่วนแป้งอัดแข็งโดยปกติจะเก็บไว้ได้ประมาณ 1 ปี เนื่องจากน้ำมันบนฟองน้ำจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียเร็วขึ้นถ้าไม่หมั่นทำความสะอาด เพื่อเก็บรักษาให้ได้นานขึ้นจึงควรจะเก็บแผ่นพลาสติกที่รองกั้นระหว่างแป้งกับฟองน้ำเอาไว้ตลอดเวลา
• อายแชโดว์ สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 ปี และถ้ามันเริ่มมีรอยแตกเมื่อไหร่ คุณก็ควรจะซื้ออายแชโดว์ใหม่ให้ตัวคุณเองได้แล้ว
• อายไลเนอร์ มีอายุ 3 ปีเช่นกัน แต่ให้แน่ใจว่าคุณได้เหลามันบ่อยๆ ถ้ามันแห้งหรือเขียนไม่ติดบนตาคุณแล้วละก็ ทิ้งมันไปซะ
• มาสคารา มีอายุการใช้งาน 4 เดือน ถ้าคุณใช้มันนานกว่านั้น มันจะแห้งและจับตัวเป็นก้อน และควรหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโดยไม่ใช้มาสคาราร่วมกับผู้อื่น
• ลิปสติก อยู่ได้นาน 1-2 ปี วิธีสังเกตที่ง่ายที่สุดคือ ลองดมกลิ่นดู และควรจะทิ้งหากกลิ่นของมันเปลี่ยนไปจากเดิม
• ยาทาเล็บ เก็บได้นาน 12 เดือน ถ้าเก็บรักษาอย่างถูกวิธี และเมื่อมันเริ่มแยกตัวและทำให้เล็บคุณมีสีเหลือง ก็ถึงเวลาบอกลามันได้แล้ว
• แปรงแต่งหน้า คุณภาพดีๆ ไม่มีวันหมดอายุถ้าคุณทำความสะอาดอย่างดีด้วย Brush Cleanser สูตรอ่อนโยน และปล่อยให้แห้ง ซึ่งควรจะทำทุก 2-3 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคุณด้วย สำหรับผิวที่มีความมันมากก็ควรจะทำความสะอาดให้บ่อยขึ้น อาจเป็นสัปดาห์ละครั้งก็ได้
หาเครื่องสำอางใหม่ทดแทน เมื่อทิ้งเครื่องสำอางที่หมดอายุลงถังขยะแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะไปหาเครื่องสำอางใหม่มาทดแทนแล้ว ต่อไปนี้คือเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ สำหรับของในกระเป๋าเครื่องสำอางที่คุณจะขาดไม่ได้
ค้นหาครีมรองพื้น : ลองหยิบครีมรองพื้นกับคอนซีลเลอร์ของคุณออกมาสิ (ยอมรับเสียเถอะว่าคุณมีมากกว่า 1 หรือ 2 ชิ้น) และดูว่าโทนสีของมันเข้ากับสีผิวของคุณจริงๆ รึเปล่า อย่าเก็บรองพื้นไว้เผื่อเวลาที่คุณจะมีสีผิวเข้มขึ้นหรือจางลงอีกเลย ลองหาตัวที่เหมาะกับสภาพผิวและเข้ากับสีผิวของคุณในปัจจุบันดีกว่า โดยเลือกสีกลางๆ เข้าไว้
อายไลเนอร์ : สีที่ควรมีติดกระเป๋าเครื่องสำอาง ได้แก่ สีดำ เทาดำ และน้ำตาล ดูดีกับผู้หญิงทุกคน เก็บพวกสีแฟชั่นไว้ให้น้อยที่สุด และซื้อไว้สักชิ้นก็พอ อย่าลืมอายแชโดว์สีกลางๆ อย่างสีเบจ มอคคา สีชมพูอ่อน และสีเทา เป็นสีที่ใช้แต่งได้ทุกวัน แต่ถ้าคุณอยากเผยอีกด้านของตัวคุณละก็ ควรจะหาซื้อสีสันที่เข้ากับฤดูกาลไว้สักหน่อย
เปลี่ยนลิปสติกแท่งใหม่ : โยนลิปกลอสที่หัวแปรงหลุดลุ่ยและเก่าเต็มทีทิ้งไปได้แล้ว หรือถ้าคุณต้องพยายามกวาดลิปสติกที่ติดก้นปลอกอยู่ละก็ คงจะถึงเวลาที่คุณต้องลงทุนซื้อลิปสติกใหม่แล้วล่ะ ลองเลือกซื้อสัก 2 สี สีที่ใช้ง่ายดูเป็นธรรมชาติสำหรับกลางวัน และอีกสีสันสนุกๆ สำหรับเวลากลางคืน ผู้เชี่ยวชาญของคลีนิกข์สามารถช่วยคุณเลือกสีที่เข้ากับผิวของคุณได้ และถ้าจะให้ดีลงทุนซื้อลิปสติกสีโปรดของคุณสัก 2 แท่ง โดยเก็บแท่งหนึ่งไว้ใช้ที่บ้าน และอีกแท่งสำหรับพกพา
ใช้เครื่องสำอางอย่างปลอดภัย เจเน็ต ปาร์โด ประธานบริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคลีนิกข์ ให้คำแนะนำการใช้เครื่องสำอางอย่างปลอดภัย ด้วยวิธีปฏิบัติตัวอย่างง่ายๆ บวกกับการใช้วิจารณญาณของคุณเองในการเก็บรักษาเมกอัพ และครีมบำรุงผิวให้คงประสิทธิภาพและปลอดภัยในการใช้
• อย่าใช้เครื่องสำอางร่วมกัน แม้แต่กับเพื่อนที่สนิทที่สุดของคุณ
• ใช้อุปกรณ์แบบใช้แล้วทิ้ง หรือสำลีก้านทุกครั้งเมื่อลองผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง และขอให้พนักงานขายทำความสะอาดบริเวณฝาเปิดทุกครั้งก่อนที่จะลองบนผิวของคุณ
• อย่าเติมของเหลวใดๆ ลงในผลิตภัณฑ์เพื่อทำให้มันกลับสู่สภาพเดิม เพราะการเติมอะไรลงไปอาจเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อแบคทีเรียได้
• ถึงแม้จะไม่เห็นความผิดปกติอย่างชัดเจน ก็ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทันทีหากเกิดอาการระคายเคืองหรือปฏิกิริยาแพ้ และรีบไปพบแพทย์ทันที
• ถ้าคุณมีอาการติดเชื้อที่ตา ให้โยนผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งตาทุกชนิดทิ้งทันทีที่เกิดอาการ
• เก็บเครื่องสำอางให้พ้นแสงแดด แสงไฟ และความร้อน ปัจจัยที่จะลดประสิทธิภาพของสารกันเสียในผลิตภัณฑ์ ควรเก็บในที่เย็นและแห้ง
• ปิดฝาผลิตภัณฑ์ให้สนิท และเก็บในที่ปลอดฝุ่นทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน