ทำเล็บเจลบ่อยๆ สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวมือและเล็บของเราได้ไหม?

สำหรับสาวๆ ยุคนี้ เล็บเจลสีสวยมันเหมือนกับเป็นอวัยวะเสริมที่ต้องทำเติมความเป๊ะให้กับตัวเองกันใช่มั้ย ไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นสาวๆ หลายๆ คนให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มความเป๊ะปังให้กับมือของตัวเอง แต่...รู้กันรึเปล่าว่าการทำเล็บเจลบ่อยๆ นั้นส่งผลอะไรต่อสุขภาพเล็บของเราบ้าง ในวันนี้เราก็จะมาไขข้อสงสัยของสาวๆ หลายคนว่าเล็บเจลทำบ่อยๆ ส่งผลอะไรให้กับคนทำรึเปล่า

โดยปกติทั่วไปแล้วแค่การทาเล็บเวลาจะทำความสะอาดก็แค่ใช้น้ำยาล้างเล็บถูๆ แค่นี้ก็เอาออก แต่สำหรับเล็บเจลนั้น เรียกว่าต้องการการดูและแบบพิเศษขึ้นมาหน่อย โดยการใช้น้ำยาล้างเล็บที่มีสาร Acetone มานาบเล็บไว้ประมาณ 10-15 นาที ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้เล็บบางและเปราะมากขึ้น เล็บของเราจึงแตกและลอกง่ายกว่าปกติ แต่มันยังไม่หมดค่ะ พอเวลาผ่านไป การทำแบบนี้บ่อยๆ จะทำให้แผ่นเล็บยิ่งสาหัส และยิ่งไปกว่านั้นยังทำร้ายเนื้อรอบเล็บและทำให้ผิวแห้งกร้าน เรียกว่าส่งผลเสียเต็มๆ กับเล็บของเราเลยด้วย

และนอกจากส่งผลต่อเล็บแล้วนั้น มันยังส่งผลกระทบถึงผิวมือของเราด้วย โดยเครื่องอบเล็บเจลนั้นยังต้องอาศัยการฉายแสง UV เป็นพลังงาน ดังนั้นแปลว่ามือของเราจึงสัมผัสกับแสงยูวีโดยตรง และผิวในส่วนนั้นก็จะถูกทำร้ายโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย ดังนั้นการดูแลที่ดีที่สุดคือควรทาครีมกันแดดบนมือเพื่อไม่ให้แสงยูวีโดนผิวโดยตรง และควรแจ้งกับช่างทำเล็บไว้ก่อนเลยว่า ไม่ต้องตะไบหรือตัดหนังเยอะ ไม่เช่นนั้นผิวอาจเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้

ดังนั้นเราขอแนะนำว่าการทำเล็บเจล ทำได้ แต่ไม่ควรที่จะทำบ่อยจนเกินไป ควรเว้นระยะให้ห่างให้ผิวมือและเล็บได้พักบ้าง และควรป้องกันผิวมือทุกครั้งในการทำเล็บ เพื่อให้ผิวมือและเล็บของเราดูสวยและอ่อนเยาว์น่ามอง