ผัก 9 ชนิดที่ไม่แนะนำให้กินดิบ อาจก่อให้เกิดอันตรายในผู้ป่วยบางโรค

ผัก 9 ชนิดที่ไม่แนะนำให้กินดิบ อาจก่อให้เกิดอันตรายในผู้ป่วยบางโรค

ผัก 9 ชนิดที่ไม่แนะนำให้กินดิบ อาจก่อให้เกิดอันตรายในผู้ป่วยบางโรค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าผักจะเป็นอาหารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย และเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่สามารถขาดได้ เพราะผักให้สารอาหารที่ดีแก่ร่างกายอย่างมหาศาล แต่ทั้งนี้การกินผักก็ควรกินอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการกินผักดิบ ถือเป็นข้อต้องห้ามสำหรับผักบางชนิดเลยทีเดียว เพราะการกินผักบางชนิดแบบดิบ มีส่วนทำให้ร่างกายได้รับอันตรายได้ ดังนั้นเราจึงรวบรวมผักที่ไม่แนะนำให้กินดิบ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ป่วยบางโรคมาฝากกัน จะมีผักชนิดใดบ้างนั้นไปอ่านพร้อมๆ กันเลยค่ะ 


1.เห็ด
เห็ดสดที่มีเนื้อสีขาวทั่วไปนั้น มักตรวจพบสารอะการิทีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารที่สามารถก่อมะเร็งชนิดหนึ่งได้ แต่สารดังกล่าวนี้จะสลายไป หากผ่านการปรุงสุกอย่างถูกต้อง ดังนั้นเห็ดจึงเป็นผักที่ห้ามกินดิบโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของผู้บริโภค


2.มันสำปะหลัง
การกินมันสำปะหลังดิบในส่วนหัว ราก และใบ อาจทำให้ร่างกายได้รับพิษถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากพิษดังกล่าวจะไปขัดขวางการทำงานของระบบหัวใจและทางเดินโลหิต ซึ่งส่งผลให้ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์สมองน้อยลง หรือบางรายที่มีอาการที่ไม่รุนแรงก็อาจจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง


3.หน่อไม้
หน่อไม้สดมีสาร Cyanogenic Glycoside ซึ่งเป็นสารที่สามารถเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย หากร่างกายได้รับสารชนิดนี้ในปริมาณมาก ก็จะเข้าไปจับฮีโมโกลบินในร่างกาย ทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน มีอาการทุรนทุราย หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้


4.ถั่วงอก
เนื่องจากถั่วงอกเป็นผักที่มีการปนเปื้อนแบคทีเรียซัลโมเนลลาและอีโคไล อีกทั้งยังมีสารโซเดียมซัลไฟต์ซึ่งเป็นสารฟอกขาว โดยสารเหล่านี้มีส่วนทำให้ร่างกายเกิดอาการคลื่นไส้ หายใจขัด ปวดท้อง และความดันโลหิตต่ำ จึงควรปรุงสุกก่อนกินเพื่อเป็นการทำลายเชื้อแบคทีเรียและสารฟอกขาวเสียก่อน


5.ถั่วฝักยาว
ในส่วนของถั่วฝักยาวนั้นจะมีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงสูงมาก ดังนั้นการกินถั่วฝักยาวแบบดิบ โดยเฉพาะในเมนูส้มตำ ย่อมทำให้ร่างกายได้รับสารพิษเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะผ่านการล้างมาแล้วก็ตาม จึงแนะนำให้กินแบบสุกจะปลอดภัยกว่า


6.ดอกกะหล่ำ
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไฮโปไทรอยด์ไม่ควรกินดอกกะหล่ำแบบดิบเด็ดขาด เนื่องจากผักชนิดนี้มีกอยโตรเจนซึ่งเป็นสารที่ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายดึงไอโอดีนจากเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ และอาจก่อให้เกิดโรคคอหอยพอกตามมาได้


7.บร็อกโคลี
บร็อกโคลีเป็นผักที่มีน้ำตาลชนิดที่ต้องถูกทำให้ย่อยด้วยความร้อนเสียก่อนจึงจะไม่ก่อให้เกิดอาการท้องอืด และยังมีฮอร์โมนบางชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นความเสี่ยงในการเป็นโรคไทรอยด์ ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวนี้จะย่อยสลายไปเมื่อโดนความร้อน


8.ผักโขม
ผักโขมดิบมีกรดออกซาลิก ซึ่งเป็นตัวขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมไปใช้ ดังนั้นใครที่อยู่ในภาวะขาดธาตุเหล็กหรือแคลเซียม ควรหลีกเลี่ยงการกินผักโขมแบบดิบจะปลอดภัยต่อร่างกาย


9.กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีดิบมีสารออกซาเลต ซึ่งหากร่างกายได้รับสารชนิดนี้ในปริมาณมาก ก็จะไปจับกับแคลเซียมที่กรวยไต จนกลายเป็นสารแคลเซียมออกซาเลต เมื่อกรวยไตมีสารชนิดนี้ในปริมาณมาก ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่วในไตได้


จะเห็นได้ว่าผักดิบแต่ละชนิดมีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสารเหล่านี้จะย่อยสลายไปเมื่อถูกความร้อน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะต้องหลีกเลี่ยงการกินผักดิบ แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการปรุงสุกไม่ว่าจะเป็นผักหรืออาหารใดๆ ก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook