อาการที่ควรรู้! ผลจากการใช้พาราเซตามอลเกินขนาด

อาการที่ควรรู้! ผลจากการใช้พาราเซตามอลเกินขนาด

อาการที่ควรรู้! ผลจากการใช้พาราเซตามอลเกินขนาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าหลายคนเคยมีพฤติกรรมคุ้นชินกับการกินยาพาราเซตามอล ปวดนิดปวดหน่อยก็เลือกที่จะกินยาดักไว้ก่อน เพื่อหวังไม่ให้อาการหนักกว่าเดิม แต่ทราบหรือไม่ว่าการกินยาพาราเซตามอลที่มากจนเกินไป ก็มีส่วนทำลายร่างกายได้เช่นกัน โดยเฉพาะเสี่ยงทำลายตับ ดังนั้นวันนี้เราจึงขอแชร์อาการที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาดมาให้ทุกคนได้ทราบและทำความเข้าใจกันค่ะ


ยาพาราเซตามอล คืออะไร
ยาพาราเซตามอลคือ ยาสามัญประจำบ้านที่ใช้ในการลดไข้และเพื่อบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังเป็นยาที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงได้ง่าย และยังจัดเป็นยาที่ไม่อันตราย แต่ในขณะเดียวกันการใช้ยาชนิดนี้อย่างไม่ถูกต้องก็ย่อมทำให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะการใช้ยาในปริมาณที่เกินขนาด


การออกฤทธิ์ของยาพาราเซตามอล
ยาพาราเซตามอลมีการออกฤทธิ์โดยการยับยั้งสารเคมีบางชนิดที่อยู่ในสมองของมนุษย์ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับอาการปวด อย่างเช่น สารโพสตาแกลนดิน และทำการชักนำให้เกิดกลไกการลดอุณหภูมิหรือลดไข้ในร่างกาย


การใช้ยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง
ในส่วนของการใช้ยาพาราเซตามอลที่ถูกต้องและควรปฏิบัติตามมีดังนี้

1.การกินยา 1 ครั้ง จะใช้ยาขนาด 10-15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)

2.กินยาครั้งละ 1-2 เม็ด ทุกๆ 4-6 ชั่วโมง

3.กินได้ทั้งก่อนหรือหลังอาหาร

4.ไม่ควรกินเกินวันละ 8 เม็ด หรือประมาณ 4 กรัมต่อวัน

5.เป็นยาที่รักษาตามอาการ ดังนั้นหากไม่มีอาการปวดไม่จำเป็นต้องกินยาชนิดนี้

6.หากลืมกินยา สามารถกินได้ทันทีเมื่อนึกขึ้นได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาแต่อย่างใด

7.จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีภาวะการทำงานของตับบกพร่องหรือมีน้ำหนักตัวน้อย เพราะอาจจะต้องปรับขนาดยา


อาการที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด

สำหรับอาการที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด จะมีการแสดงออกของอาการในระยะเวลา 1-3 วัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระยะดังนี้

ระยะที่ 1 จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก เบื่ออาหาร โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ภายใน 24 ชั่วโมง หรือบางรายก็ไม่แสดงอาการใดๆ

ระยะที่ 2 หลังจากกินยาเกินขนาดระหว่าง 24-48 ชั่วโมง หากไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อมีการเจาะเลือดจะพบว่าเอนไซม์ทรานซามิเนสเริ่มสูงขึ้น ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้เป็นเอนไซม์ที่แสดงถึงการบาดเจ็บของตับนั่นเอง

ระยะที่ 3 หลังจากกินยาไปแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง จะมีอาการตับอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร มีภาวะแทรกซ้อนเหมือนอาการตับอักเสบทั่วไป ซึ่งหากอาการรุนแรงอาจทำให้มีอาการสมองเสื่อมจากโรคตับจนถึงขั้นเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาในทันที

จะเห็นได้ว่าการใช้ยาพาราเซตามอลให้ทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างชัดเจน แต่หากผู้ป่วยให้ความสำคัญแต่เพียงข้อดีจนเกิดการใช้ยาที่เกินขนาด ก็อาจทำให้เผชิญกับข้อเสียโดยไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายของตัวเอง ควรศึกษาการใช้ยาแต่ละชนิดให้ละเอียดและรอบคอบ ไม่ควรยึดติดเพียงแต่ว่ายาชนิดนั้นเป็นยาอันตรายหรือไม่เพียงเท่านั้น เพราะยาทุกชนิดหากใช้ไม่ถูกต้อง ก็ย่อมทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้เสมอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook