5 วิธีรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 อย่างเข้าใจที่จิตแพทย์แนะนำ

5 วิธีรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 อย่างเข้าใจที่จิตแพทย์แนะนำ

5 วิธีรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 อย่างเข้าใจที่จิตแพทย์แนะนำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้ชีวิตท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของคนเราอย่างมาก ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้มีรายงานเมื่อต้นปี 2563 ว่า ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 นั้นมีจำนวนผู้คนที่ตกอยู่ในภาวะเครียดและเป็นโรคซึมเศร้าทั่วโลกประมาณ 264 ล้านคน และเมื่อเกิดวิกฤติดังกล่าวเข้ามา ผู้ป่วยเหล่านี้อาจมีอาการกำเริบได้ แม้จะยังคงได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้จึงสำคัญ เราจึงนำวิธีการรับมือกับสถานการณ์ Covid-19 ตามที่จิตแพทย์แนะนำมาแชร์ให้ทราบดังนี้


1.ติดตามข่าวสารเท่าที่จำเป็น
แน่นอนว่าการติดตามข่าวสารการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างให้ความสำคัญ จนบางครั้งอาจจะเกิดการเสพข่าวดังกล่าวนี้มากจนเกินไป จนทำให้เกิดอาการแพนิค หรือวิตกกังวลตามมา ดังนั้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวให้ดี เพื่อสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากที่สุด จึงควรติดตามข่าวสารเท่าที่จำเป็น และเลือกติดตามเฉพาะแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เช่น ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขหรือของรัฐบาล เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดโอกาสในการเสพข่าวปลอมได้ดี


2.ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดจากกระทรวงสาธารณสุข เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การกินร้อนช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการสัมผัส สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อได้ และยังช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีอีกด้วย


3.หมั่นตรวจสอบอาการทางร่างกายและจิตใจ
การตรวจสอบอาการทางร่างกายและจิตใจ เช่น การเฝ้าระวังอาการซึมเศร้า การนอนที่ผิดปกติไปจากเดิม การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก รวมทั้งพฤติกรรมต่างๆ ที่อาจมีส่วนทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกาย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเฝ้าสังเกตให้ดี เนื่องจากอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายในสถานการณ์เช่นนี้ และหากพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานหรือความสัมพันธ์ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน


4.พยายามใช้ชีวิตอย่างปกติที่สุด
แน่นอนว่าการพยายามใช้ชีวิตให้เหมือนปกติในสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้ย่อมทำได้ยาก แต่หากพยายามดำเนินชีวิตให้เหมือนปกติมากที่สุด ก็จะส่งผลดีต่อตัวเองมากเท่านั้น ซึ่งสำหรับบางคนอาจเกิดผลกระทบจากการทำงาน เช่น ถูกเลิกจ้าง หรือถูกลดเงินเดือน ก็ต้องพยายามดูแลสภาพจิตใจให้ดีต่อไป อย่ามัวแต่จดจ่อกับเรื่องแย่ๆ แต่ควรหันมาให้กำลังใจตัวเองและเดินหน้าต่อไป ทำให้ชีวิตมีคุณค่าในทุกวันย่อมดีกว่า


5.ไม่ควรทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
การอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีเช่นนี้ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง โดยเฉพาะการเอาแต่เครียดมากๆ จนทำให้เกิดความเครียดระยะยาว ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดภาวะท้อถอย หมดหวัง หรือนำไปสู่การตัดสินที่ผิดพลาดต่อชีวิตได้ง่าย


เชื่อว่าการรับมือกับสถานการณ์ COVID-19 นั้นถือเป็นสิ่งท้าทายสำหรับใครหลายคนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาวะเครียด จำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำให้ตัวเองสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากที่สุด แต่อย่าลืมว่าผู้ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ดีในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมได้รับผลกระทบน้อยกว่าผู้ที่ละเลยในการรับมือกับสถานการณ์อยู่แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook