5 อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องควรรีบพบแพทย์ด่วน

5 อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องควรรีบพบแพทย์ด่วน

5 อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องควรรีบพบแพทย์ด่วน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลากหลายอาการที่เกิดขึ้นกับคนท้อง อาจเป็นสัญญาณเตือนบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในขณะที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นคุณแม่จึงต้องรู้ว่ามีอาการใดบ้างที่เมื่อเกิดขึ้นในขณะที่กำลังตั้งครรภ์แล้วต้องรีบพบแพทย์แต่โดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียตามมา ดังนั้นวันนี้เราได้รวบรวม 5 อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ และถือเป็นสัญญาณอันตรายที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์มาแชร์ให้คุณแม่ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ


1.เลือดออก
อาการเลือดออกในขณะตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อในช่องคลอด ติดเชื้อในปากมดลูก เกิดภาวะรกเกาะต่ำ รวมทั้งมีภาวะเจ็บครรภ์คลอด ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ล้วนทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีเลือดออกมาได้เสมอ ดังนั้นไม่ว่าจะเพราะสาเหตุใดที่ทำให้เลือดออกก็ตาม คุณแม่ควรรีบพบแพทย์แต่โดยด่วน โดยไม่ต้องสนใจว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ได้กี่เดือน เพราะนั่นถือเป็นความผิดปกติที่ควรได้รับการรักษาทันที


2.ลูกดิ้นผิดปกติ
โดยปกติแล้วทารกจะเริ่มดิ้นเมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ประมาณ 20 สัปดาห์ขึ้นไป โดยช่วงสัปดาห์ที่ 28 นั้นจะเริ่มรู้สึกถึงการดิ้นของทารกที่มากขึ้น จนบางครั้งคุณแม่จะรู้สึกได้ว่าเหมือนทารกในครรภ์กำลังเตะ ถีบ หรือขยับแขนขาอยู่ ซึ่งคุณหมอจะให้คุณแม่หมั่นนับจำนวนการดิ้นของลูกเพื่อประเมินสุขภาพครรภ์เบื้องต้น แต่หากนับการดิ้นตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงหัวค่ำต่ำกว่า 10 ครั้ง นั่นถือเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณแม่ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด


3.แพ้ท้องหนักมาก
แม้อาการแพ้ท้องจะเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่การแพ้ท้องที่มีความผิดปกติคืออาการแพ้ท้องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ตั้งครรภ์ได้เกิน 14 สัปดาห์แล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วอายุครรภ์ 14 สัปดาห์ อาการแพ้ท้องเริ่มหายไปเองตามธรรมชาติ ดังนั้นหากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการแพ้ท้องในช่วงที่ตั้งครรภ์ได้นานกว่า 3 เดือนแล้ว ไม่สามารถกินอาหารจนน้ำหนักลด และเกิดภาวะร่างกายขาดสารอาหาร ควรรีบพบแพทย์ให้ตรวจดูอาการเบื้องต้นโดยด่วน


4.เจ็บคลอดก่อนกำหนด
โดยธรรมชาติแล้วอาการเจ็บครรภ์เตือนจะมีความสัมพันธ์กับการทำงาน การเดินหรือการยืนเป็นเวลานาน ซึ่งล้วนทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีอาการเจ็บท้องได้ แต่เมื่อนั่งพักอาการเจ็บท้องก็จะหายไปเอง แต่หากอาการเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็อาจนำมาสู่การคลอดก่อนกำหนดได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการเจ็บท้องมากขึ้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อให้ทำการตรวจสอบการบีบตัวของมดลูก เพื่อทำการประเมินการเปิดของปากมดลูกต่อไป


5.น้ำคร่ำแตก
เมื่อมีอาการน้ำเดิน โดยทั่วไปจะส่งผลให้เกิดการคลอด ซึ่งน้ำคร่ำจะออกมาจากช่องคลอด และมีการแตกของถุงน้ำคร่ำ หากอาการนี้เกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ครบกำหนด นั่นคือสัญญาณของการคลอด ดังนั้นไม่ว่าจะมีอายุครรภ์กี่เดือน หากมีอาการน้ำคร่ำแตก ควรรีบพาคุณแม่ไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

ในการตั้งครรภ์แต่ละไตรมาส คุณแม่ตั้งครรภ์ย่อมต้องเจอกับหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเอง ดังนั้นหากเป็นอาการผิดปกติตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น รวมทั้งอาการอื่นๆ เช่น มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น มีอาการปวดท้องรุนแรง ปัสสาวะน้อย รู้สึกแสบเมื่อปัสสาวะ มีอาการคันรุนแรง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยตลอดการตั้งครรภ์ ควรรีบพบแพทย์แต่โดยด่วน ไม่ควรปล่อยไว้เด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณแม่และทารกในครรภ์นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook