10 เรื่องต้องรู้ของคนชอบกินอะโวคาโด
เรื่องต้องรู้ของคนชอบกินอะโวคาโด อะโวคาโด (Avocado) เนยแห่งป่า ผลไม้มหัศจรรย์ที่มาพร้อมรสชาติแปลกใหม่และสรรพคุณดีงาม แถมทุกวันนี้ยังหาซื้อได้ง่ายๆ ตามซูเปอร์มาร์เก็ต แต่มือใหม่หัดกินอะโวคาโดก็มักต้องเจอกับปัญหาปวดใจบ่อยๆ ไม่ว่าจะผ่ามาเจออะโวคาโดที่ยังไม่สุกต้องทำยังไงต่อ หรือสุกจนเกินไปจนเละจนต้องทิ้งไปทั้งอย่างนั้น รวมถึงผ่าแล้วไม่สวยเหมือนในร้าน ฯลฯ ในบทความนี้เรารวม 10 เรื่องที่ต้องรู้สำหรับคนที่อยากจะกินอะโวคาโดได้อย่างมือโปรมาไว้ให้แล้ว
10 เรื่องต้องรู้ของคนชอบกินอะโวคาโด
1.อะโวคาโด เป็นผักหรือผลไม้กันแน่?
อะโวคาโด มีอีกชื่อว่า ลูกเนย จัดเป็น “ผลไม้” มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก มักมีผลทรงกลมรีคล้ายลูกแพร์ เปลือกหนา มีเมล็ดกลมใหญ่เมล็ดเดียวตรงกลาง เนื้อในมีสีขาวอมเหลืองหรือเขียวอมเหลืองขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีรสชาติจืดๆ มันๆ คล้ายเนย ที่หลายคนได้กินแล้วต้องติดใจ!
2.อะโวคาโดที่เห็นในบ้านเรามีพันธุ์อะไรบ้าง?
อะโวคาโดที่วางขายในบ้านเราแบ่งเป็น 2 กลุ่ม แบบปลูกในประเทศ คือ “พันธุ์บัคคาเนีย” (Buccanear) ผลทรงกลมที่ถึงจะสุกแล้วผิวก็ยังเป็นสีเขียวเข้มอยู่ และ “พันธ์ฮอล” (Hall) ผลทรงคล้ายหยดน้ำที่เราคุ้นเคย ส่วน “พันธุ์แฮสส์” (Hass) มีผลทรงเดียวกับพันธ์ฮอลแต่ผิวจะขรุขระกว่า มีทั้งที่ปลูกในไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สังเกตง่ายๆ ว่าผลจะมีขนาดใหญ่กว่าพันธุ์ที่ปลูกในประเทศและมีราคาสูงกว่าด้วย
3.มีวิธีดูอะโวคาโดที่สุกแล้วยังไง?
อะโวคาโดที่กินอร่อยคือแบบสุกเพราะเนื้อจะนิ่ม วิธีสังเกตคือให้ลองบีบเบาๆ หากกดแล้วนิ่มมือบุ๋มเล็กน้อยแสดงว่าพร้อมกินแล้ว หากกดไม่ลงแสดงว่ายังไม่สุก นอกจากนี้ยังดูจากสีของเปลือกได้ด้วย
• เปลือกสีเขียวสด – ยังไม่สุก เนื้อแข็ง ไม่พร้อมกิน
• เปลือกสีน้ำตาลอมเขียว – ค่อนข้างสุก เนื้อแน่นอยู่ตัวหั่นง่าย หากยังไม่กินก็นำไปแช่เย็นเก็บไว้ได้เลย
• เปลือกสีน้ำตาลเข้มอมม่วง หรือดำ – สุกได้ที่แล้ว เนื้อนิ่ม บดง่าย
4.เราจะบ่มอะโวคาโดให้สุกได้ยังไง?
รู้ไหมว่าอะโวคาโดนั้นจะเก็บก่อนที่จะสุก (ripen)ทำให้เราเห็นอะโวคาโดที่วางขายจะมีทั้งสีเขียวเนื้อแข็งที่ยังไม่สุกไล่ไปจนแบบที่เป็นสีน้ำตาลเข้มอมดำ (หรือดำ) คละกันไป แต่ถ้าคุณมีแผนว่าจะทานอะโวคาโดในอีก 3-4 วันให้หลัง คุณสามารถซื้อแบบเปลือกสีเขียวมา “บ่ม” ให้สุกด้วยการ เอาอะโวคาโดใส่ในถุงกระดาษรวมกับแอบเปิ้ลหรือกล้วย วางไว้บริเวณที่อากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงเกิน 25 องศาเซลเซียส ก๊าสเอทิลีน (Ethylene)จากกล้วยและแอบเปิ้ลจะไปกระตุ้มให้ให้อะโวคาโดสุกเร็วขึ้น
5.เทคนิคการผ่าอะโวคาโดอย่างง่าย
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ผ่าทั้งเปลือกดังนี้
1.วางอะโวคาโดบนเขียงหรือ ถือในมือตามถนัด กดคมมีดลงไปตามแนวยาวของลูกจนคมมีดถึงเม็ดแล้วหมุนอะโวคาโดเป็นวงกลมโดยคมมีดกดยังไปตามแนวเม็ดจะเป็นการแบ่งอะโวคาโดออกเป็น 2 ส่วน
2.จับอะโวคาโดด้วย 2 มือแล้วปิดสวนทางกันแล้วดึงเบาๆอะโวคาโดจะแยกออกเป็น 2 ส่วน
3.เอาเม็ดออกโดยการใช้กดคมมีดลงที่เม็ดแล้วบิดไปมาเบาๆเม็ดจะหลุดออกมา
4.แกะเปลือกอะโวคาโดออก อะโวคาโดที่สุกได้ที่สามารถใช้มือปอกเปลือกออกได้เลย
5.ทาเนื้ออะโวคาโดด้วยน้ำมะนาวให้ทั่วเพื่อกันไม่ให้เนื้อเปลี่ยนสีแล้วหั่นเป็นทรงตามชอบ
6.หากผ่าออกมาแล้ว อะโวคาโดยังไม่สุกต้องทำยังไง
ถ้าผ่าอะโวคาโดออกมาแล้วปรากฏว่ายังไม่สุกอย่างเพิ่งตกใจ หรือ โยนทิ้งไป ทาน้ำมะนาวที่เนื้อ อะโวคาโด ประกบเข้าด้วยกันห่อด้วยพลาสติกแรปนำไปแช่ในตู้เย็น 2-3 วันค่อยเอาออกมาเปิดดูว่าสุกรึยังถ้าไม่ก็ห่อด้วยพลาสติกแรปแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเหมือนเดิมและหมั่นเช็คทุก 2-3 วันว่าสุกได้ที่รึยัง
7.ทำยังไงไม่ให้เนื้ออะโวคาโดเปลี่ยนสี
เมื่อเนื้ออะโวคาโดสัมผัสอากาศนานเกินไปจะเปลี่ยนเป็นสีดำเนื่องจากปฏิกิริยาของเอมไซน์ ดังนั้นควรบีบน้ำมะนาวลงบนเนื้ออะโวคาโดเพื่อป้องกันไม่ให้ดำด้วย ซึ่งวิธีนี้ใช้ได้กับอะโวคาโดที่เหลือครึ่งลูกอีกด้วย หรือ จะใช้น้ำมันทาบางที่ให้ทั่วก่อนที่ห่อด้วยพลาสติกแรปหรือ อะลูมินั่มฟลอย์ น้ำมันจะเป็นตัวกั้นให้อากาศทำปฏิกิริยากับเนื้ออะโวคาโดแล้วเปลี่ยนแบบเดียวกับน้ำมันมะนาวนั้นเอง
8.อะโวคาโดกินกับอะไรได้บ้าง
วิธีกินอะไวคาโดที่ง่ายที่สุดคือกินกับสลัด หรือนำไปทำเครื่องจิ้มสไตล์เม็กซิโกที่เรียกว่ากัวคาโมเล่ (guacamole) แต่ในปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นหลายเมนูก็มีอะโวคาโดเป็นส่วนประกอบเช่นกัน อาทิ กินกับไข่ปลาแซลมอน หรือนำมาเป็นหน้าซูซิและโรลต่างๆ ส่วนทางยุโรปนิยมนำมาทำหน้าโทสต์หรือแซนด์วิชเนื้อที่นวลเนียนของอะโวคาโดยังทำให้เหมาะกับนำมาทำเครื่องดื่มประเภทสมูทตีส์อีกด้วย
กัวคาโมเล่ทำง่าย สูตรเฮลตี้ เสิร์ฟคู่มันหวานอบและไก่ฉีก
แจกสูตร ซัลซามะเขือเทศ เพิ่มประโยชน์ด้วยอะโวคาโด
สูตรตอร์ติญ่าอกไก่อะโวคาโด เมนูอร่อยทำง่าย ได้พลังงานเต็มเปี่ยม
9.อะโวคาโดดีต่อสุขภาพจริงหรือ?
อะโวคาโดได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะอาหารเพื่อสุขภาพชั้นยอด ทั้งมีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ลดน้ำหนัก เป็นแหล่งของกรดไขมันดี มีโฟเลตสูง บำรุงผิวหนังและเส้นผมให้ชุ่มชื้น และสำหรับสายสุขภาพหรือชาววีแกน เนื้ออะโวคาโด (บด) ยังสามารถใช้แทนเนยสดหรือน้ำมันได้ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์กลุ่มเนยเทียมที่ทำจากอะโวคาโดด้วย
10.อะโวคาโดมีแคลอรี่สูงจริงหรือ?
จริงอยู่ว่าอะโวคาโดนั้นมีปริมาณแคลอรี่อยู่ที่ 322 แคลอรี่และ ไขมัน 29.5 กรัมต่อลูก (ส่วนใหญ่มักจะเลือกทานแค่ ½ ลูกเท่านั้น ) แต่กลับกันอะโวคาโดกลับมีคุณสมบัติช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักอย่างชัดเจน จากการทานอะโวคาโดรวมกับเมนูอาหารลดน้ำหนัก ที่นอกจากจะไม่ทำให้อ้วน เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง ยังขจัดไขมันไม่ดี(LDL) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลเสียต่อร่างกาย และเพิ่มไขมันดีในเลือด(HDL) และการทานอะโวคาโดรวมด้วยทำให้รู้สึกอิ่มนานกว่าการทานแต่ผักและผลไม้อีกด้วย