5 ไลฟ์สไตล์ของผิวใสสุขภาพดี
สิ่งที่ทำเฉพาะกิจ ย่อมไม่มีประสิทธิผลเท่าสิ่งที่ทำเป็นประจำ ดังนั้น การดูแลความสวยงามและสุขภาพผิวที่ดี จึงควรต้องทำในทุกวันอย่างสม่ำเสมอ และนี่คือ 5 ไลฟ์สไตล์สะดวกสบายที่ WP นำมาฝากค่ะ ถ้าปฏิบัติได้เป็นกิจวัตร รับรองว่าผิวของคุณจะใส เปล่งประกายออร่าได้ยิ่งกว่าเซรั่มทรีตเมนต์หลอดละสามหมื่นแน่นอน อ่านแล้วทำเลย
1. กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ กินอาหารอุดมวิตามินเอ เช่น นมสด ผลิตภัณฑ์จากนม ตับ ฟักทอง แครอท ผักบุ้ง ตำลึง อาหารพวกนี้นอกจากจะช่วยทำให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อในร่างกายอีกด้วย กินอาหารอุดมด้วยวิตามินซี เช่น ผักผลไม้ทั้งหลาย วิตามินซีในผักผลไม้จะช่วยทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กินอาหารอุดมด้วยวิตามินอี เช่น จมูกข้าวสาลี ธัญพืชต่างๆ วิตามินอีจะช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ป้องกันแผลเป็น กินน้ำมันปลา ซึ่งมีกรดไขมันโอเมก้า-3 จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูมีสุขภาพดี ดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร หรือ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว กินวิตามินเอ ซึ่งดีต่อสุขภาพของผิวหนังและการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายและสายตา ถ้าขาดวิตามินเอ ผิวหนังจะแข็ง และเป็นเกล็ดฝอยไปอุดต่อมน้ำมัน และต่อมเหงื่อ วิตามินเอที่ควรกินมีอยู่ 2 ชนิด คือ แคโรทีนซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย พบอยู่ในอาหารที่มีสีส้มสดและสีเหลือง ได้แก่ แครอท มะเขือเทศ และผักใบเขียว อีกชนิดคือ เรตินอล มีอยู่ในน้ำมันตับปลา ไข่ นม และเนย กินธาตุสังกะสี ปกติในผิวหนังมีปริมาณธาตุสังกะสีค่อนข้างสูง แต่เมื่อร่างกายเจริญเติบโตเข้าวัยหนุ่มสาวก็ยิ่งต้องการธาตุสังกะสีมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การกินอาหารที่มีสังกะสีป็นประจำจึงช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน การซ่อมแซมเนื้อเยื้อ และเสริมสมดุลการทำงานในระบบฮอร์โมนต่างๆ ของร่างกายได้ครบถ้วน ควรกินอาหารที่มีโปรตีน เช่น หอยนางรม เนื้อวัว ตับวัว ขาไก่ กินอาหารที่มีกากใย เช่น ข้าวกล้อง เมล็ดธัญพืช ผักและผลไม้ก็ช่วยให้การขับถ่ายดี ลดน้ำตาลในเลือดอันเป็นสาเหตุของสารพัดโรค ลดปริมาณอาหารที่มีไขมันสูง ลดอาหารที่มีรสเค็มจัด และพยายามดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยที่สุด เพราะอาหารเหล่านี้จะเพิ่มความดันของเลือดให้สูงเกินปกติ อันจะส่งผลต่อระบบสมดุลผิว 2.ทำอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ ถ้าอารมณ์หงุดหงิด โกรธง่าย จะทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดไม่ดี ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ไม่อยากอาหาร ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้สุขภาพผิวแย่ไปด้วย 3.พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ 8-10 ชม. ช่วยให้ผิวได้รับการซ่อมแซมในระหว่างหลับอย่างเต็มที่ การพักผ่อนยังรวมถึงการผ่อนคลายในรูปแบบต่างๆ ด้วย เช่น การเล่นโยคะ บริหารร่างกาย นั่งสมาธิ อ่านหนังสือ 4.ออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จะช่วยให้โลหิตนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายพิษหรือของเสียออกจากร่างกายทางเหงื่อ ผิวพรรณจึงดูสดใส เปล่งปลั่ง และมีเลือดฝาด เพื่อผิวและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ควรหาเวลาออกกำลังให้สม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 20 นาที 5.ดูแลความสะอาดของผิวพรรณ การอาบน้ำอุ่นอุณหภูมิพอเหมาะ (ประมาณ 38 องศาเซลเซียส) จะช่วยทำความสะอาดผิวหนังได้ดีมาก และยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้อ่อนเพลียได้ง่าย สำหรับสบู่ที่ใช้ทำความสะอาดผิวควรมีค่า pH5 หรือน้อยกว่านั้น และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำชนิดโฟม เพราะทั้งสบู่ที่มีฤทธิ์แรงและโฟมจะทำลายไขมันตามธรรมชาติที่เคลือบอยู่บนผิว ทำให้ผิวแห้ง หลังอาบน้ำยังควรต้องทาครีมบำรุงผิวให้ทั่วตัว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว