หาคำตอบ! นี่คือยุคทองของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค?
ในปัจจุบัน เรามักจะได้ยินว่าคนทั่วไปนิยมใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันเป็นสินค้า “ออร์แกนิค” กันอย่างแพร่หลาย หรือก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดสารเคมีทุกชนิดที่จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น สินค้าออร์แกนิคจริง ๆ ไม่ได้เพียงเป็นสินค้าจากธรรมชาติเท่านั้น แต่กระบวนการทุกอย่างต้องปลอดสารพิษอันตราย ตั้งแต่กระบวนการปลูก การเลี้ยง ผ่านการดูแลอย่างพิถีพิถันตามหลักมาตรฐานสากล ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เดือนสิงหาคม 2561 ระบุว่า ตลาดสินค้าออร์แกนิคในประเทศ ถือเป็นธุรกิจสร้างเงินของ SME ไทยในปัจจุบัน โดยธุรกิจสินค้าออร์แกนิคนั้นมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มาตั้งแต่ปี 2561 โดยตลาดออร์แกนิคใหญ่ ๆ ของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป จีน ออสเตรเลีย ตลาดอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ก็มีอัตราการเติบโตราว ๆ ร้อยละ 10 ต่อปี และคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 20 ในช่วงระหว่างปี 2560-2564
ในเมื่อเราก็พอจะรู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทไหน Tonkit360 จะพาไปหาคำตอบ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มี การปรุงแต่งไม่มาก จึงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
คนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น
กระแสรักสุขภาพของคนรุ่นใหม่เติบโตอย่างรวดเร็วมาก เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมีความเสี่ยงที่จะได้รับสารพิษจากสิ่งแวดล้อมมากมาย มลภาวะในอากาศ อาหาร น้ำดื่ม สารเคมีตกค้างตามแหล่งต่าง ๆ ทั้งพิษจากโลหะหนัก สารตะกั่ว พลาสติก ปิโตรเคมี ภาชนะที่ใส่อาหาร โรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาด รวมถึงภาวะความเครียด ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง ซึ่งผลกระทบอาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่จะสะสมจนร่างกายเป็นอันตรายได้
เท่ากับว่าการใช้ชีวิตประจำวันปกติธรรมดาก็มีความเสี่ยงที่จะรับสารพิษเข้าสู่ร่างกายมากพออยู่แล้ว โดยเฉพาะกับคนวัยทำงานที่ต้องออกข้างนอกทุกวัน ไม่ค่อยมีเวลาดูแลสุขภาพ เวลามีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็มักจะเสิร์ชหาอาการจากอินเทอร์เน็ต และอาการใด ๆ ในโลกล้วนเป็นมะเร็งหรือโรคร้ายแรงอื่น ๆ เมื่อรู้สึกกังวลว่าการใช้ชีวิตในลักษณะนี้อาจทำให้ป่วยเป็นโรคร้ายได้จริง ๆ เข้าสักวัน หากมีแนวทางที่พอจะลดความเสี่ยงในการรับสารเคมีทั้งหลายเข้าสู่ร่างกาย และลดควางเสี่ยงโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มว่าคนจะเลือกแนวทางนั้นกันมากขึ้น
จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาตระหนักและใส่ใจสุขภาพการกินอยู่ที่ดี มองว่าสารพิษตามสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงและควบคุมได้ยาก จึงหันมาควบคุมปัจจัยที่ควบคุมได้ คือการอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายจะต้องมีสารพิษน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก็คือผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ที่มีกระบวนการผลิตแบบปลอดสารเคมีที่เป็นพิษ และเน้นมาจากธรรมชาติแทบทั้งสิ้น การหันมาเลือกบริโภคสินค้าออร์แกนิคจึงเติบโตขึ้นมากลายเป็นเทรนด์การบริโภค แล้วกลายเป็นวิถีการดำเนินชีวิตในรูปแบบใหม่ของคนที่ใส่ใจสุขภาพเลือกใช้กันในปัจจุบัน
สำหรับอาหารออร์แกนิค หรืออาหารประเภทเกษตรอินทรีย์ พืชผักจะเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนของการเตรียมดินปลูกพืช ที่ต้องปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 6 ปี เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ในการเพาะปลูกต้องไม่ตัดแต่งพันธุกรรม ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ผลผลิตที่ได้จึงเป็นผลิตผลที่มาจากการเจริญเติบโตตามธรรมชาติทุกกระบวนการ คงคุณค่าทางสารอาหารสูง ต้านโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนปศุสัตว์ ขั้นตอนการเลี้ยงสัตว์จะต้องเป็นธรรมชาติที่สุด สัตว์จะไม่ถูกขังกรง วิ่งเล่นได้ตามธรรมชาติ เพื่อที่สัตว์จะได้ไม่เครียด อาหารที่ให้สัตว์ต้องไม่ใช่อาหารสำเร็จรูป ไม่มียาฆ่าแมลงปนเปื้อน เป็นต้น
สำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้กับร่างกาย เช่น เครื่องสำอาง สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน แบบออร์แกนิค ก็ตอบโจทย์คนที่แพ้ง่าย เพราะมาจากธรรมชาติ ก็จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง ส่วนในคนทั่วไปก็มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสวนผสมของสารเคมีสังเคราะห์ให้น้อยที่สุด กังวลเรื่องสารปนเปื้อนที่อาจตกค้างในร่างกาย และอีกประการที่สำคัญที่หลาย ๆ ประเทศกำลังรณรงค์กันอยู่ก็คือ เครื่องสำอางต้องไม่ทดลองกับสัตว์ด้วย ฉะนั้น การหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ทางหนึ่ง เพิ่มความหลากหลายทางชีววิทยา จากกระบวนการผลิตที่ปราศจากสารเคมีอันตราย
เป็นกระแสนิยมตามยุคสมัย?
อย่างที่อธิบายไปข้างต้นว่ากระแสการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค เริ่มต้นมาจากการที่คนกลุ่มหนึ่งหันมาตระหนักและใส่ใจสุขภาพของตนเอง เมื่อใช้แล้วดี มีการบอกต่อ ก็เติบโตขึ้นมากลายเป็นเทรนด์การบริโภค อย่างไรก็ดี คนก็เห็นว่าเทรนด์นี้มีประโยชน์และเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกายของตนเอง จึงกลายมาเป็นวิถีการดำเนินชีวิตแบบใหม่ของคนที่ใส่ใจสุขภาพ
อีกประเด็นที่สำคัญ คือ นโยบายสนับสนุนส่งเสริมของภาครัฐเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ลงทุนเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ก็ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคในประเทศเพิ่มขึ้น เมื่อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เริ่มกลายเป็นที่นิยม ก็มีตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีตลาดส่งออกที่มีศักยภาพรองรับ ตลาดออร์แกนิคจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักที่ทำให้สินค้าออร์แกนิคกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็น่าจะมาจากการเข้าถึงและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี หลัก ๆ แล้วมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ 3 กลุ่ม สำหรับตลาดสินค้าออร์แกนิค
1. กลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ ซึ่งเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ตัดสินใจซื้อจากการติดตามไลฟ์สไตล์ของผู้มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ การอ่านรีวิวต่าง ๆ นิยมจับจ่ายซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งพฤติกรรมที่น่าสนใจคือ มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ชอบความสะดวกสบาย แต่ก็ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงหันมาเอาใส่ใจสุขภาพของทั้งตนเองและคนในครอบครัว ด้วยสินค้าคุณภาพดี
2. กลุ่มผู้สูงอายุ ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบในปี 2564 นี้ ทำให้ประชากรกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ ถึงจะอายุมาก แต่หลายคนยังแข็งแรงดี และอยากจะมีสุขภาพที่ดีไปนาน ๆ จึงต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงในการดูแลสุขภาพ อีกทั้งคนกลุ่มนี้หลายคนเป็นวัยเกษียณที่มีฐานะปานกลางขึ้นไป มีกำลังซื้อสูง ลูกหลานดูแล สามารถใช้โซเชียลมีเดียด้วยตนเอง และมีการหาข้อมูลวิธีการดูแลสุขภาพ
3. กลุ่มผู้ป่วย ผู้คนในปัจจุบันเผชิญปัญหาสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต มีความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิต โดยเฉพาะคนในสังคมเมือง ได้รับสารพิษสะสมในร่างกายจากสภาพแวดล้อมชุมชนเมือง และพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จึงหาวิธีที่จะดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้ดีขึ้น
ดังนั้น เมื่อมองในด้านของคุณภาพและความปลอดภัยต่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณค่าเฉพาะทาง ในมุมมองของผู้บริโภค จะมองว่าสินค้าออร์แกนิคเป็นสินค้าพรีเมียม ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อจึงเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยก่อนที่จะพิจารณาราคา ประกอบกับรายได้ของประชากรชนชั้นกลางที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงสูงขึ้น และข้อจำกัดด้านสุขภาพ จึงมองว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่คุ้มค่าที่จะลงทุน ยอมจ่ายแพงขึ้นอีกหน่อย เพื่อสินค้าที่ดี มีคุณภาพ และคุ้มค่าด้านความปลอดภัยต่อร่างกาย
แต่ปัจจุบัน เนื่องจากตลาดออร์แกนิคเติบโตเร็ว มีผู้ค้าในตลาดมากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น ทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ลงมาอยู่ในระดับที่ผู้คนจับต้องได้ง่ายขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้น เมื่อเทียบกับคุณภาพและความปลอดภัย ที่มีจุดขายว่ามาจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ ไม่อันตราย แม้ว่าจะราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปก็ยอมลงทุนเพื่อสุขภาพของตนเอง ทำให้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามกลายเป็นที่นิยมตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคแบบประเภทใดบ้างที่ได้รับความนิยม
ปัจจุบันตลาดสินค้าออร์แกนิคได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนทำให้หลากหลายแบรนด์พยายามที่จะทำผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพในหลายมิติ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอางออร์แกนิค ประเภทผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย เครื่องสำอาง จนกลายเป็นไอเทมฮิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อย แม้แต่ผู้ชายที่ปกติอาจไม่ค่อยสนใจเรื่องการดูแลผิว ก็หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคมากขึ้น ด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพของตนเอง และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันก็คือผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันนั่นเอง เช่น สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อาหารและเครื่องดื่ม อาจรวมถึงพวกข้าวของเครื่องใช้ในบ้านอีกหลาย ๆ อย่าง ที่เน้นการใช้งานเพื่อสุขภาพ ก็เริ่มที่จะใช้กระบวนการผลิตให้เป็นออร์แกนิคมากขึ้น เช่น หมอน ที่นอน ผ้าขนหนู ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ลดการแพ้การระคายเคือง ดีต่อสุภาพกาย และดีต่อสุขภาพใจ (ความสบายใจ)
ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคเหล่านี้ก็ต้องมีมาตรฐานรับรองด้วยเช่นกัน จะต้องมีฉลากรับรองคุณภาพบนบรรจุภัณฑ์สินค้า ผ่านการรับรองจากสถาบันหรือองค์กรตรวจสอบมาตฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค สำหรับมาตรฐานสินค้าออร์แกนิคในประเทศไทย ได้แก่
- สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกฉลาก “Organic Thailand”
- สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนในฐานะหน่วยงานรับรองจากสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ ตรวจรับรองจากองค์กรทั้งในและต่างประเทศ