อิสระทางการเงินมีไม่ยาก ทำได้ด้วยนิสัย 9 ข้อ
อิสระทางการเงินคือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน เพราะนั่นหมายถึงคุณมีเงินเก็บเพียงพอต่อการใช้ชีวิต มีการลงทุนที่มีดอกผล และมีเงินสดอยู่ในมือมากพอที่จะตอบสนองการใช้ชีวิตตามที่คุณต้องการได้ เหนืออื่นใด อิสระทางการเงินที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลที่ดีต่อชีวิตเกษียณของคุณเอง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสร้างอิสระทางการเงินให้กับตนเองได้ เพราะหลายคนยังติดอยู่กับหนี้สินจากการสร้างเนื้อสร้างตัว ทั้งบ้าน รถ บัตรเครดิต ดังนั้น เรามาฝึกนิสัย 9 ข้อให้ติดตัว เพื่อทำให้ตัวคุณมีอิสระทางการเงิน และมีชีวิตที่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง
1. ตั้งเป้าหมายในชีวิต
แต่ละคนมีเป้าหมายในชีวิตไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องตั้งเป้าหมายในชีวิตขึ้นมาเพื่อให้เกิดอิสระทางการเงิน เพราะเป้าหมายที่ตั้งไว้จะทำให้คุณวางแผนได้อย่างชัดเจนว่าต้องการมีชีวิตแบบไหน มีเงินออมเท่าไรถึงจะพอกับการใช้ชีวิตที่เป็นอิสระทางการเงิน เมื่อตั้งเป้าได้แล้วให้จดบันทึกลงสมุด และวางแผนตามขั้นตอนอาทิ อายุเท่านี้จะมีบ้านมีรถ อายุเท่านี้มีเงินออมเท่าไร อายุเท่านี้ปลอดจากภาระหนี้ทั้งหมด เท่านี้คุณก็จะมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
2. ทำงบประมาณค่าใช้จ่าย
ทำบัญชีรายจ่ายในครัวเรือนนั้นสำคัญมาก เพราะจะทำให้เห็นว่าแต่ละเดือนคุณมีค่าใช้จ่ายคงที่อะไรบ้าง และจะทำให้คุณยับยั้งชั่งใจในการใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ขณะเดียวกันคุณจะเห็นว่ามีเงินที่เก็บออมเอาไว้อยู่เท่าไรและหากเพิ่มอีกเดือนละเท่าไรจะทำให้คุณสำเร็จได้ตามเป้าหมาย
3. จ่ายบิลเครดิตการ์ดเต็มจำนวน
ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครดิตการ์ดนั้นมีดอกเบี้ยสูง เมื่อใช้แล้วควรจ่ายยอดเต็มอย่าจ่ายบางส่วนจนเป็นนิสัย เพราะยอดหนี้ที่เพิ่มขึ้นก็มีดอกเบี้ยวิ่งตามเป็นเงาตามตัว และเป็นส่วนที่จะทำให้คุณไม่มีอิสระทางการเงิน หากแต่บัตรเครดิตก็มีข้อดีในการที่คุณจะเอาไว้ใช้เพื่อซื้อของชิ้นใหญ่ หรือใช้เพื่อการเดินทาง แต่ต้องท่องจำไว้ว่า เมื่อต้องจ่ายคืนให้จ่ายเต็มจำนวน
4. ฝากเงินด้วยการหักจากบัญชีเงินเดือนแบบอัตโนมัติ
การฝากเงินด้วยการหักบัญชีเงินเดือนแบบอัตโนมัติ จะทำให้คุณเก็บเงินได้เร็วกว่า เพราะบัญชีฝากดังกล่าวคุณจะไม่สามารถถอนได้ ถ้าไม่เกิดเหตุจำเป็น เหนืออื่นใดเงินออมจำนวนดังกล่าวจะไม่ผ่านมือคุณให้เกิดความลังเล หรือเอาเงินที่คิดจะฝากไปใช้ก่อนเวลาอันควร
5. มองหาการลงทุนที่เหมาะสม
การลงทุนที่เหมาะสมจะนำมาซึ่ง Passive Income ที่จะนำดอกผลในระยะยาวมาให้กับคุณ ทั้งการลงทุนในกองทุนรวมที่มีการบริหารจัดการที่ดีมีเงินปันผลที่เหมาะสม ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือพันธบัตรรัฐบาล เหล่านี้ล้วนเป็นการลงทุนที่คุณสามารถตั้งต้นได้ด้วยตนเองและมีความเสี่ยงต่ำ อันจะทำให้คุณได้เก็บดอกผลกินอย่างสบายในอนาคต
6. รู้จักการต่อรอง
หลายคนเวลาซื้อสินค้าหรือบริการมักจะไม่กล้าต่อรอง ส่วนหนึ่งเพราะกังวลว่าจะเสียหน้า ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ราคาขายจริงกับราคาที่ตั้งไว้มักมีส่วนต่างกันเสมอ ดังนั้นการต่อรองในการซื้อสินค้าหรือบริการนั้นจะทำให้คุณประหยัดไปไม่น้อย และทำให้คุณได้เรียนรู้การใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง
7. ลงทุนในการศึกษา
การศึกษาต่อหรือเรียนเพิ่มเติมในแขนงวิชาที่จะช่วยเพิ่มทักษะในการทำงาน จะทำให้คุณทำเงินได้มากขึ้น และทำให้คุณได้รับโอกาสเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ไม่ยาก หากแต่การเลือกเรียนนั้นต้องดูตามความต้องการของตลาดด้วยเช่นกันเพื่อให้สิ่งที่คุณเรียนมานั้นต่อยอดได้อย่างแท้จริง
8. ใช้ชีวิตที่พอเพียง
หลายคนเมื่อมีรายได้มากขึ้นก็เริ่มใช้ชีวิตหรูหรามากขึ้นเรื่อย ๆ เอาเข้าจริงแล้วชีวิตที่พอเพียงไม่ได้หมายความว่าคุณต้องประหยัดจนทำให้ตัวเองลำบาก หรือลดความเป็นอยู่จนกระเบียดกระเสียร แต่ความพอเพียงคือการใช้ชีวิตอย่างพอดี เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะมีรถหรูเพื่อไปอวดเพื่อน ทั้งที่รถยี่ห้ออื่นก็ไปถึงจุดหมายได้เหมือนกัน และเงินส่วนที่ต้องส่งรถหรูนั้นหากนำมาเก็บออมจะยิ่งทำให้คุณมีอิสระทางการเงินได้เร็วขึ้น แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ
9. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
การรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และการลงทุนเพื่อดูแลรักษาร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพทุกปี ไปหาหมอฟันอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง รวมไปถึงไปพบแพทย์เมื่อมีอาการเจ็บป่วย ไม่วินิจฉัยโรคเองด้วยการ search google เหล่านี้จะทำให้ร่างกายของคุณแข็งแรงอยู่ในระดับหนึ่ง และเมื่อร่างกายดี จิตใจก็จะดีตามไปด้วย และส่งผลให้คุณมีกำลังใจในการไปได้ถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้