พอว่างก็เล่นแต่เกม จัดการ “แฟนติดเกม” อย่างไรดี?
ไหน! ใครมีแฟนติดเกมหนักมากยกมือขึ้น จริง ๆ แล้วปัญหานี้เป็นลิสต์ปัญหาต้น ๆ ของคู่รัก ที่มักก่อให้เกิดปากเสียง อาการน้อยอกน้อยใจ หรือทะเลาะกันใหญ่โตเลยด้วยซ้ำ แล้วสมัยนี้ก็ไม่ได้มีแค่หนุ่ม ๆ เท่านั้นที่ติดเกมจนแฟนสาวงอน แต่สาว ๆ หลายคนก็ติดเกมจนแฟนหนุ่มงงเหมือนกัน ทำให้คนทั้งคู่ห่างเหินกันไปเรื่อย ๆ เอาง่าย ๆ ว่าขนาดนั่งอยู่ห้องเดียวกัน แค่จะกินข้าว เขาหรือเธอยังไม่ผละออกจากเกมมาร่วมโต๊ะเลย ทีนี้ก็ไม่ต้องพูดถึงเวลาอื่นแล้ว
คนเราคบกันก็ย่อมอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ้าง คือไม่ได้หวังว่าต้องอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ขอแค่มีเวลาให้กันบ้างก็พอ หลังจากทำงานทำการ กว่าจะมีเวลาว่างเจอกัน แต่พอว่างเมื่อไรเป็นต้องเล่นแต่เกม แบบนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้น เราก็ควรจะต้องหาวิธีทวงคืนคนรักจากเกมบ้างแล้วถูกไหม ก่อนเขาหรือเธอจะหันไปคบกับเกมแทน!
อย่าบังคับให้เขาเลือกและเลิก
ก็คล้ายกับการที่เราไม่ชอบให้แฟนมาบังคับให้เลิกทำในสิ่งที่ชอบหรือความสุขของเรานั่นแหละ ถ้าเราติดซีรีส์หนักมาก หรือเป็นขาช้อปตัวยง เราก็คงไม่พอใจถ้าเขาหรือเธอให้เราเลือกระหว่างสิ่งที่ชอบกับพวกเขา หรือเลิกทำสิ่งนั้น อย่างแรกคือพฤติกรรมนี้อาจมีมาก่อนที่จะมาคบกัน อย่างที่สองคือนิสัยเอาชนะ ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ อย่างสามคือถ้าจะขอร้องแกมบังคับให้เขาหรือเธอเปลี่ยนตัวเองเพื่อเรามันก็ไม่แฟร์เท่าไร คนเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อเอาใจใครขนาดนั้น และสุดท้ายคือทะเลาะกัน เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ ทางที่ดีคือคุยเพื่อหาตรงกลาง เจอกันคนละครึ่งทางดีกว่า
ลงไปเล่นด้วยซะเลย
ถ้าเกมคือความสุขของเขาหรือเธอ มันก็คงยากหน่อยที่จะดึงเขาหรือเธอออกมา เพราะฉะนั้นอาจจะง่ายกว่าถ้าเราลงไปเล่นด้วยซะเลย ดีไม่ดีนี่อาจกลายเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้คุณกับแฟนกระชับความสัมพันธ์มากขึ้น ได้ใช้เวลาร่วมกัน ก็ลองลงไปเล่นดูก่อน อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืน แค่ไปเล่นด้วยพอเป็นพิธี เพื่อลองเข้าไปอยู่ในโลกที่เขาหรือเธอชอบ แถมยังดูว่าเราเองยังเอาใจใส่เขาหรือเธออยู่เหมือนกัน ถึงจะไม่ปลื้มเท่าไรก็เถอะ เอาเป็นว่าได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นด้วย ไม่ต้องมาทะเลาะกันให้หงุดหงิดใจทุกวัน
ดึงความสนใจด้วยกิจกรรมอื่น
ถ้าเมื่อไรก็ตามที่แฟนของคุณว่างแล้วเป็นอันต้องพุ่งเข้าใส่เกม ก็ขอให้รู้ว่าเขาหรือเธอติดมันจนถึงขั้นว่าถ้าไม่ได้เล่นก็เหมือนชีวิตขาดอะไรไปอย่างแล้ว เหมือนเขาหรือเธอบรรจุเกมลงไปเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำทุกวัน ซึ่งถ้าช่วงเวลานั้นเขาหรือเธอไม่ได้เล่นเกม มันก็จะเป็นช่วงเวลาว่างอันโหวงเหวง ดังนั้น คุณก็แค่ต้องหากิจกรรมอะไรก็ได้มาแทรกแทนเวลานั้น เช่น ชวนออกกำลังกาย ชวนทำอาหาร ชวนทำสวนปลูกต้นไม้หน้าบ้าน หรือจะร้องรำทำเพลงเล่นดนตรีก็ได้ ขอแค่เป็นกิจกรรมที่สนุก ไม่น่าเบื่อ ให้ความรู้สึกที่ไม่ต่างจากเล่นเกมมากนัก
ก็แค่ (ต้อง) เข้าใจว่าเขาหรือเธอเจอเกมก่อนเรา
อย่างที่บอกว่าพฤติกรรมติดเกมเนี่ย ส่วนใหญ่แล้วเขาหรือเธอไม่ได้เพิ่งจะมาติดตอนที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนหรอก แต่เป็นมานานมากแล้ว หลาย ๆ คนเป็นมาตั้งแต่สมัยเรียน ถ้าเป็นแบบนี้ จะให้ง่ายที่สุดก็คือต้องทำความเข้าใจและยอมรับความจริงให้ได้ว่าคุณแฟนน่ะเจอเกมก่อนเรา! อาจจะเจอกันก่อนมานานมาก ๆ เลยด้วย (เจ็บปวดกันไป) ก่อนหน้านี้เกมอาจเป็นความสุขหรือเป็นทุกอย่างของเขาหรือเธอก็ได้ มันก็มีเหตุผลทางจิตวิทยาที่อธิบายพฤติกรรมของคนติดเกมอยู่เหมือนกัน ในเมื่อแฟนกับเกมสนิทกันขนาดนี้ ปล่อยได้ก็ปล่อย วันนี้เต็มที่ไปเลยที่รัก
ไม่ไหวก็อย่าฝืนเลย
หากใครจะว่าว่าเรื่องแฟนติดเกมเป็นเรื่องเล็กก็คงไม่เชิง (ถ้าไม่รู้เองว่าติดหนักขนาดไหน) ลองคิดเอาล่ะกันว่ากว่าคนเราจะพูดคำว่าไม่ไหวได้เนี่ย มันจะต้องผ่านเวลา ผ่านความอดทนมานานแค่ไหน ต้องทะเลาะกันแต่เรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แบบนี้มาเท่าไร ถูกไหม? เพราะปกติเรามักจะอ้างเหตุผลนู่นนั่นนี่ขึ้นมาสารพัดที่จะพยายามเข้าใจและประคับประคองชีวิตรัก ไม่ว่าเขาหรือเธอจะทำให้รู้สึกแย่แค่ไหนก็ตาม แต่ความอดทนคนมีจำกัด ถึงเวลาที่ทนไม่ไหวก็คือไม่ทน และบางคนก็เด็ดขาดมากพอที่บอกเลิกกันไปด้วยเหตุผลแค่ว่าเขาหรือเธอติดเกมหนักมากนี่แหละ