แจก 35 เมนูอาหารไทย อาหารตามสั่ง พร้อมวิธีทำ ทำเองได้ อัพเดตมกราคม 2566
อยู่บ้านยาวๆ เช่นนี้ นอกจากต้อง WFH วนไปทุกวันแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยการเข้าครัวทำอาหารกินกันด้วยนะคะสาวๆ อาหารที่ทำเอง นอกจากจะสะอาดปลอดภัยแล้ว ยังได้รสชาติถูกปากอีกด้วย ชอบกินรสไหนก็ทำกินเองตามสะดวก วันนี้ Sanook Women รวม 30 เมนู "อาหารไทย" พร้อมวิธีทำแบบง่ายๆ มาให้สาวๆ ได้เซฟเก็บไว้ทำกินเองแบบไม่รู้เบื่อแล้วค่ะ
เรียกว่าคัดมาให้แล้ว จัดว่าเด็ดทุกเมนู จะมี "อาหารไทย" เมนูไหน มีสูตรการทำอย่างไรบ้าง มาติดตามกันเลย
วิธีทำ ปลาร้าทรงเครื่อง
วัตถุดิบ ปลาร้าทรงเครื่อง
- ปลาร้า 300 กรัม
- หอมแดง 100 กรัม
- กระชาย 100 กรัม
- ตะไคร้ 60 กรัม
- พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1-2
วิธีทำ เมนูอาหาร ปลาร้าทรงเครื่อง
- นำปลาร้าลงสับบนเขียง โดยค่อยๆ นำส่วนผสมลงไปสับรวมกันทีละชนิด
- สับแค่พอหยาบไม่ต้องละเอียดมากนะคะ เวลารับประทานจะได้มีเนื้อสมุนไพรให้เคี้ยวกรุบๆ หอมกลมกล่อมอยู่ในปากเชียวล่ะ (ซูดน้ำลายแพร๊บบบ)
- กลับมาที่วิธีการกันต่อ สับเสร็จแล้วบีบมะนาวให้ทั่ว ชอบเปรี้ยวก็บีบมากหน่อย แล้วสับผสมอีกเล็กน้อย จากนั้นโรยใบมะกรูดซอยละเอียด แค่นี้ก็ใส่ถ้วยรับประทานกับผัดสดได้เลย แบบดิบๆ ยั่วๆ สายนัวร์อร่อยชัวร์
- เพื่อความปลอดภัยทางกายและใจ เราชอบรับประทานปลาร้าแบบสุก เสร็จสรรพจากการสับผสมจึงนำลงกระทะ ผัดกับน้ำมันร้อน ๆ หอมคลุ้งทั้งบ้าน เห็นทีมื้อนี้ต้องหม่ำข้าวเยอะหน่อยแล้วเรา
"แกงรัญจวน"
วัตถุดิบ แกงรัญจวน
- ข่า
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- โหระพา
- น้ำพริกกะปิ
- หมูสามชั้นทอดกรอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร แกงรัญจวน
- หมูสามชั้นทอดกรอบตุ๋นกับเครื่องต้มยำ (ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด)
- ระหว่างตุ๋นหมู เด็ดใบโหระพาไปพลาง อยู่ป่าปลูกโหระพาไว้มาก ๆ มีประโยชน์หลาย เวลาเก็บก็เก็บมาเผื่อเยอะ ๆ จะได้แตกใหม่ ไม่ต้องกลัวเหลือ ใบโหระพาปลูกเองไม่ช้ำง่ายเหมือนซื้อตลาด เก็บใส่กล่องแช่เย็นไว้ได้ 2-3 วัน ตอนเช้า ๆ ทำไข่น้ำแล้วใส่ใบโหระพา ตบพริกขี้หนูใส่เรียกน้ำย่อย ซดน้ำโฮก ๆ ชื่นใจ
- ตุ๋นจนหมูญาติดีกับฟันปลอมของเราแล้ว ปรุงรสด้วยเกลือ ปรุงพอเป็นรสพื้นฐาน ไม่ต้องจัดจ้านมาก พอจะกินก็ใส่ใบโหระพามาก ๆ หน่อย แล้วตักน้ำพริกกะปิถ้วยเก่าราดหน้าสักสองช้อน รับรอง...ไม่ต้องปรุงรสเพิ่ม ทั้งนี้หมายถึงต้องมีฝีมือตำน้ำพริกกะปิดีอยู่แล้วนะ
หมกหัวปลีหมูสับ
วัตถุดิบ หมกหัวปลีหมูสับ
- หัวปลี 3 หัว
- หมูสับ 2 ขีด
- หัวกะทิ 2 ขีด
- พริกแกง (โขลกใหม่) 3 ขีด
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส (ฟ้าไทย) 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบแมงลัก ตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร หมกหัวปลีหมูสับ
- โขลกเครื่องแกงใหม่เพื่อเพิ่มความหอมกรุ่นให้อาหาร ส่วนผสมคือ พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ในสัดส่วนพอ ๆ กัน เพิ่มผิวมะกรูดเล็กน้อย โขลกพอหยาบไม่ต้องละเอียดมาก
- หั่นหัวปลี แช่น้ำที่ผสมน้ำมะขามเปียกลงไปด้วยสักพัก จึงสะเด็ดน้ำออก การใช้น้ำมะขามเปียกเป็นภูมิปัญญาจากรุ่นปู่ย่าที่ช่วยให้หัวปลีขาว ไม่ดำจนไม่น่ากิน และทำให้หัวปลีมีรสชาติดี ไม่ฝาด
- นำพริกแกงที่ได้มาขยำรวมกับหมูสับก่อน จากนั้นใส่หัวปลีลงไปขยำตาม (แต่เบามือลง) ตอกไข่ ใส่หัวกะทิผงปรุงรส และน้ำปลา ลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตบท้ายด้วยใบแมงลัก (ในภาพเป็นใบเมงลักที่ปลูกเอง ใบเล็กไม่ค่อยสวยแต่หอมมาก)
- นำมาห่อในใบตอง โดยฉีกใบตองประกับหลังชนหลัง ตัดมุมทั้งสี่ ห่อเข้าจากสองข้างแล้วผูกเตี่ยว กลัดด้วยไม้กลัด เรียงบนลังซึ้งสำหรับนึ่ง ระหว่างห่อใบตอง ตั้งน้ำรอไว้ หากตั้งบนน้ำเดือดจะช่วยย่นระยะเวลาได้
- นึ่งนาน 25 นาที เพื่อให้หมูสุกดี ใครห่อหมกใหญ่ก็รออีกหน่อยเพื่อความอร่อยเต็มคำ ใบตองเปลี่ยนสีพร้อม ๆ กับสีเนื้อหนังของหมกหัวปลีหมูสับที่เปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีคล้ำลงแต่อมชมพู เสร็จสรรพจึงจัดจานพร้อมลองลิ้มชิมรส
แหนมผัดไข่ใส่ขิง
- แหนมหมู 185 กรัม
- ไข่เป็ด 2 ฟอง
- ขิงซอย 50 กรัม
- กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมใหญ่ 1 ผล
- พริกแดง ตามชอบ
- ต้นหอม ตามชอบ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1 ซีก
วิธีทำ เมนูแหนมผัดไข่ใส่ขิง
- นำแหนมมาขยี้ให้ออกจากกัน หรือหั่นเป็นชิ้นก็ได้ตามชอบ
- ผัดกระเทียมในน้ำมันร้อนๆ ตามด้วยขิงซอย
- เทแหนมลงไปผัดจนเริ่มสุก ใครชอบเกรียมๆ ผัดต่อไปอีกหน่อย
- แบ่งพื้นที่แหนมไว้ด้านหนึ่ง แล้วตอกไข่ลงไป ใครชอบไข่ไก่ก็ใช้ไข่ไก่ได้
- ใช้ตะหลิวยีไข่ให้แตกเบาๆ จากนั้นปรุงรสด้วยซอสหอยและน้ำปลา
- ตักเนื้อแหนมลงบนไข่ (ก่อนไข่สุก) จากนั้นใส่หอมใหญ่และพริกลงไป
- พลิกไข่กลับด้าน ทิ้งไว้ครู่หนึ่งเพื่อให้เนื้อไข่ติดกับเนื้อแหนม
- ไข่สุกแล้วผัดผสมให้เข้ากัน ปิดไฟ แล้วใส่ต้นหอม
- ท้ายสุด บีบมะนาวหนึ่งซีกช่วยดึงรสชาติ
ข้าวผัดไข่
วัตถุดิบ ข้าวผัด
- ข้าวสวย 1 จาน
- ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ 2 ฟอง
- หอมแดงและกระเทียม ปริมาณตามชอบ
- เครื่องปรุงรส : ซอสหอยนางรม น้ำปลา น้ำตาล มะนาว
วิธีทำ เมนูอาหาร ข้าวผัด
- ใส่เครื่องปรุงลงไปในข้าวสวยเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องพะวักพะวงหยิบเครื่องปรุงเวลาผัด ชอบรสแบบไหนเน้นเครื่องปรุงนั้นได้ตามใจ เพราะตอนผัดข้าวผัดไข่ เราจะให้ไฟแรง ๆ
- ติดไฟ ตั้งกระทะ เทน้ำมัน ร้อนแล้วใส่หอมแดงซอยและกระเทียมลงไปผัดพร้อมกันจนหอมหวลชวนเรียกน้ำย่อย
- ตอกไข่ลงกระทะแล้วขยี้ๆ ย้ำยีให้หนำใจ ท่ามกลางไฟแรงที่กำลังเผาผลาญแต่อย่ารอให้มอดไหม้ รีบใส่ข้าวตามก่อนไข่แห้ง
- ผัดข้าวที่ปรุงแล้วลงในไข่ก่อนจะสุก เพื่อให้เนื้อไข่ติดข้าว แต่ถ้าใครชอบไข่เป็นชิ้น ๆ ไม่ละลายไปกับข้าว ก็ทำได้โดยผัดไข่ให้สุกเป็นชิ้น ๆ ไม่ต้องยีให้เละ ก่อนใส่ข้าว แต่ถ้าใครชอบแบบเรารีบผัดข้าวขยี้กับไข่รัว ๆ
- อย่าได้กลัวว่าข้าวจะเปียกแฉะ เพราะไฟแรง ๆ จะช่วยให้เม็ดข้าวฉ่ำไข่เริ่มแห้ง ๆ ร่วน ๆ ขอเพียงอย่าละวางตะหลิว จงเร่งผัดคลุกเคล้าให้เข้าจังหวะ เคาะกระทะเป็นช่วง ๆ ราวกับแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งก็ได้อารมณ์
ส้มตำไหลบัววัตถุดิบ ส้มตำไหลบัว
- ไหลบัว 200 กรัม
- กระเทียมไทย 10 กลีบ
- พริกขี้หนูสวน 5-7 เม็ด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- แครอทขูด มะเขือเทศ กุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว ตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร ส้มตำไหลบัว
- โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูเข้าด้วยกันก่อนเป็นอันดับแรก ตามด้วยถั่วฝักยาว กุ้งแห้ง และถั่วลิงสง ตำต่อให้พอแหลก จากนั้นปรุงรสด้วยมะนาว น้ำตาลปี๊ปและน้ำมะนาว ตำ ๆ บด ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน ใครชอบนัว ๆ อยากใส่ผงนัวหรือผงชูรสก็ได้
- ปรุงเสร็จจึงตามตัววัคถุดิบเนื้ออ่อน อย่าใส่ก่อนเพราะเดี๋ยวจะเละไม่น่ารับประทาน จึงค่อยใส่ไหลบัวตาม ต่อด้วยแครอท มะเขือเทศ
- ใส่ไหลบัวแล้วไม่ต้องลงแรงตำ แค่พอกด ๆ เบา ๆ ด้วยสากกระเบือ ถ้าแรงเหลือให้ใช้ทัพพีคนผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ห่อหมกปลาช่อนใบยอ
วัตถุดิบ ห่อหมกปลาช่อนใบยอ
- ปลาช่อนไซส์ใหญ่ 4-5 กิโลกรัม
- หัวกะทิ 4 กิโลกรัม
- พริกแกงเผ็ด 6 ขีด
- ไขไก่ 10 ฟอง
- เกลือ 2 ช้อนชา
- ใบมะกรูดหั่นฝอย
- พริกแดงหั่นซอย
- ใบยอ มากน้อยตามชอบ
- ใบตองสำหรับเย็บกระทง
วิธีทำ เมนูอาหาร ห่อหมกปลาช่อนใบยอ
- เย็บกระทงใบตองเตรียมไว้ เรียงบนซึ้งหรือหม้อนึ่งให้เรียบร้อย จากนั้นเตรียมเนื้อปลา หากใช้ปลาตัวใหญ่ต้องแล่เนื้อเป็นชิ้นให้สวยงาม หากไม่มีสามารถใช้ปลาตัวเล็กได้หั่นชิ้นปลาปกติ สำคัญคือล้างให้สะอาดหมดเมือกคาวค่ะ
- ผสมน้ำแกงกับหัวกะทิให้เข้ากันก่อน จากนั้นตอกไข่ไก่ลงไป เติมเกลือ คนผสมให้เข้ากันดี แล้วใส่เนื้อปลาลงตาม จากนั้นก็คน ๆ ๆ ด้วยทัพพีไปเรื่อย ๆ ค่ะ ถึงจุดนี้คุณป้าเผยเคล็ดลับความอร่อยของการทำห่อหมกมาด้วยค่ะ
- จากนั้นนำใบยอที่ล้างสะอาดฉีกเป็นชิ้นวางในกระทงใบตองที่เตรียมไว้ แล้วบรรจงตักเนื้อปลาใส่กระทงทีละชิ้นสองชิ้นให้พอเต็ม
- ราดน้ำแกงเสริมทัพให้ชุ่มฉ่ำ เตรียมพริกแดงไว้ก่อน เดี๋ยวโรยหน้าให้สีสวยหลังนึ่งไปสักพัก จะใส่มากน้อยก็ตามแต่ชอบ
- จากนั้นนำลงไปนึ่งในหม้อที่สุมไฟจนน้ำเดือดเตรียมไว้แล้ว นึ่งไปยาวๆ ราวครึ่งชั่วโมง ใครชอบกะทิขาวๆ แต่งแต้มราดเพิ่มเสียตอนนี้ก่อนโรยหน้าด้วยพริกแล้วนึ่งต่ออีกสิบนาที เท่านี้เป็นอันเสร็จสรรพ
หมูทอดกระเทียมวัตถุดิบ หมูทอดกระเทียม
- เนื้อหมูติดมันหรือสามชั้น 200 กรัม
- กระเทียมไทย 100 กรัม
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
- พริกไทย น้ำตาล แป้งมัน เล็กน้อย
วิธีทำ เมนูอาหาร หมูทอดกระเทียม
- โขลกกระเทียมไทยพอแหลก จากนั้นนำเนื้อหมูมาผสมกับเครื่องปรุงรส โรยแป้งมันเล็กน้อย เอาแค่พอให้เนื้อหมูกรอบเบาๆ นะคะ แต่ถ้าใครชอบรับประทานแป้งกรอบๆ ก็ใส่เพิ่มได้ค่ะ ปรุงแล้วขยำให้เข้ากัน แยกกระเทียมไว้ก่อน
- นำเนื้อหมูลงไปทอดในน้ำมัน พอหมูเริ่มสุกเหลืองแล้วค่อยใส่กระเทียมที่โขลกไว้ลงไปทีหลังค่ะ
- เมื่อกระเทียมเริ่มเปลี่ยนสีให้ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันเลยโดยไม่ต้องรอให้กระเทียมเหลืองนะคะ เพราะความร้อนจากน้ำมันจะสามารถทำให้กระเทียมไหม้ได้อยู่
- แค่นี้เราก็ได้กระเทียมเหลืองทองกรอบๆ พร้อมเนื้อหมูกรุบกรับนิดๆ แต่นุ่มนิ่มและไม่แข็งเกินไปมารับประทานแล้วค่ะ ตักราดข้าว จะทอดไข่ดาวสักฟอง หรือราดซอสพริกหรือน้ำพริกน้ำปลาได้ตามชอบเลยค่า
ผัดพริกแกงเนื้อ
วัตถุดิบ ผัดพริกแกงเนื้อ
- เนื้อสับ
- พริกแกง
- ใบกะเพรา
- พริกอ่อน
- มะเขือพวง
- น้ำปลา
- เหล้าไทย
วิธีทำ เมนูอาหาร ผัดพริกแกงเนื้อ
- คุณยายใช้เตาถ่าน นำกระทะตั้งไฟ แล้วนำเนื้อสับลงกระทะ รวนไปมาจนแห้ง ระหว่างรวนเหยาะน้ำปลา คราวนี้คุณยายใช้เนื้อสับราวครึ่งกิโล เหยาะน้ำปลาราวหนึ่งทัพพี จากนั้นเติมเหล้าแบนหรือเหล้าไทยบ้านเรานี่ล่ะค่ะ ใช้ประมาณครึ่งทัพพี รวนผสมจนเนื้อแห้ง แล้วตักออกจากกระทะก่อนค่ะ
- ใช้กระทะใบเดิมเติมน้ำมัน แล้วตักพริกแกงราว ¾ ทัพพีลงไปผัดจนหอม
- นำเนื้อสับที่รวนไว้ลงไปผัด .. เห็นตอนนี้แล้วอยากตักออกมาราดข้าวกินแล้วค่ะ แฮร่
- เติมน้ำเปล่าลงไปให้พอท่วมเนื้อค่ะแล้วตามด้วยมะเขือพวง สูตรคุณยายเน้นน้ำแกงเยอะหน่อยตามความชอบ ท่านบอกว่าทิ้งสำรับไว้นาน ๆ เนื้อจะดูดซับน้ำแกงให้แห้งลงเองค่ะ น้ำเยอะช่วยให้ผักสุก กินคล่อง แต่ถ้าใครชอบแห้ง ๆ ก็ลดน้ำได้ตามสะดวกค่ะ
ข้าวผัดซีอิ๊ว
วัตถุดิบ ข้าวผัดซีอิ้ว
- ข้าวสวย หรือข้าวเย็น 1 จานพูน ๆ
- เนื้อสัตว์ที่ชอบ 200 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียบทุบ 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมหัวใหญ่ 1 หัว
- มะเขือเทศ 2 ผล
- คะน้า 2 ต้น
- ซีอิ้วดำ (ชนิดหวาน) 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่นและน้ำตาล ตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร ข้าวผัดซีอิ้ว
- เรามาการปรุงเนื้อสัตว์กันก่อนค่ะ วันนี้อยากกินเนื้อวัวแต่ถ้าใครชอบเนื้อหมูเนื้อไก่ก็ทำวิธีเดียวกันนี้ได้นะคะ เริ่มจากนำเนื้อสัตว์มาขยำกับกระเทียมทุบ ซอสหอยนางรม และพริกไทยป่น
- ขยำๆ ให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อนะคะ
- จากนั้นนำลงไปผัดกับน้ำมันร้อนๆ ในกระทะ
- เมื่อกระเทียมหอมหวนและเนื้อกำลังสุกดี ตอกไข่ลงไปยีให้แตก แล้วนำเนื้อลงไปผัดคลุกเคล้า
- ตามด้วยข้าวสวย ราดซีอิ้วดำ ซอสปรุงรส และน้ำตาล ผัดให้เข้ากันค่ะ
- ได้ข้าวผัดสีเข้มทั่วกันดีแล้ว นำผักคะน้าลงไปผัดจนสุก
- ตามด้วยหอมใหญ่และมะเขือเทศ ผัดๆๆ ร้อนระอุดีแล้วดับแก๊ส ตักใส่จานพร้อมอร่อยได้เล้ยยยยย
ยำไข่ขยี้
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- พริกขี้หนูซอย 20 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 30 กรัม
- เกลือ 10 กรัม
- มะนาว 2 ลูกใหญ่
- แตงกวา 2 ลูก
- มะเขือเทศ 1 ลูก
- ผักขึ้นฉ่าย 2 ต้น
- แครอทขูดตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร ยำไข่ขยี้
- ทอดไข่ในกระทะโดยใช้ตะหลิวขยี้ ๆ ยีไข่ให้แตก
- พลิกกลับไปมาจนไข่สุกดี ระหว่างนี้ใช้ตะหลิวตัดไข่เป็นชิ้น ๆ พอดีคำ แล้วพักไว้
- ปรุงน้ำยำโดยใส่น้ำตาลมะพร้าว เกลือ พริกขี้หนู ลงไปชามผสม บีบมะนาวตามแล้วผสม
- คนให้เข้ากันจนน้ำตาลและเกลือละลาย จะได้น้ำยำสีหวานๆ สวยน่ากินแบบนี้
- เทไข่ขยี้และผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ลงไป
- คนผสมเบา ๆ ผักจะได้กรอบ ๆ แต่ชุ่มฉ่ำน้ำยำ
- เสร็จแล้ว ยำไข่ขยี้ อยากให้ลองทำสูตรนี้กันดูสักที การันตีว่าติดใจ
ฉู่ฉี่ปลาทอด
- ปลาทอดกรอบ (ชนิดใดก็ได้ตามชอบ)
- พริกแกงเผ็ด 300 กรัม
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า ½ ถ้วย
- ผักชีใบเลื่อย
วิธีทำ ฉู่ฉี่ปลาทอด
- เริ่มจากทอดปลาจนกรอบเตรียมไว้ จะใช้ปลาชนิดใดก็ได้ตามที่มีหรือชอบ วันนี้บ้านเรามีปลาเบี้ยวคุณแม่จึงจัดแจงทำความสะอาดคลุกเคล้าเกลือดับคาวเล็กน้อยแล้วทอดด้วยไฟกลางจนเหลืองกรอบ หรือบ้านไหนมีปลาทอดเหลือจากมื้อเก่า ๆ ก็นำมาทำฉู่ฉี่ได้เช่นกัน
- หั่นนำผักชีใบเลื่อยเป็นฝอยเล็ก ๆ เตรียมไว้ สำหรับใช้ใส่ช่วงท้ายและโรยหน้า จะเห็นว่าสูตรนี้ไม่ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยเพื่อหลีกเลี่ยงรสขมและอาศัยความหอมเฉพาะเครื่องแกง
- นำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดในกระทะที่ตั้งน้ำมันไว้ร้อนแล้ว ผัดจนมีกลิ่นหอมฉุน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา
- เติมน้ำลงเล็กน้อยเพื่อป้องกันพริกแกงไหม้ก็พอ ใส่น้ำตาลทรายแล้วผัดผสมให้เข้ากัน
- ชิมรสตามชอบ จะได้เป็นพริกแกงผัดเข้มข้นหน้าตาแบบนี้
- จากนั้นนำปลาทอดลงไปคลุกเคล้า ผัดให้เข้ากันขณะตั้งไฟอยู่ คนเบา ๆ รักษาตัวปลา
- โรยผักชีใบเลื่อยลงไป คนผสมให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟบนจาน โรยหน้าผักชีและพริกชี้ฟ้าแดงอีกหน่อย
ยำแหนมสด
- แหนมตุ้ม 180 กรัม
- กะหล่ำหั่นฝอย 80 กรัม
- หอมแดง 60 กรัม
- มะนาว 1-2 ผล
- พริกแห้งทอด 6 กรัม (10 เม็ด)
- ถั่วลิสง น้ำปลา พริกป่น ขิงดอง ตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร ยำแหนมสด
- นำแหนมตุ้มออกจากถุง (แหนมตุ้มมีหนังหมูมาด้วยไม่ต้องหาเพิ่ม) ยีให้แตกออกจากกันในหม้อ ตั้งไฟรวนให้สุกระหว่างรวนบีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก
- รวนเสร็จยกลงจากเตา หั่นหอมแดงเตรียมนำมาคลุกเคล้ายำแหนมกับสวนผสมอื่นๆ
- สูตรนี้ใส่พริกป่น เพราะคนทำชอบพริกป่นหอมๆ (คั่วเองตำเอง) ใครชอบพริกขี้หนูสดมากกว่าก็ใช้ได้
- โรยหน้าด้วยขิงดอง พริกทอด ถั่วลิสงคั่ว แค่นี้ก็เอาอยู่ ไม่ต้องมีผัดสดก็ได้เพราะมีกะหล่ำปลีและขิงดองแล้วในจาน ลองทำชิมกันดู
ปลาทับทิมนึ่งบ๊วย
- ปลาทับทิม 1 ตัว
- ขิงซอย 80 กรัม
- บ๊วยดองพร้อมน้ำ 60 กรัม
- กระเทียมดอง 80 กรัม
- หมูสามชั้น 150 กรัม
- ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
- ผักกาดขาว ใบขึ้นฉ่าย ปริมาณตามชอบ
ส่วนประกบ น้ำจิ้ม
- กระเทียมไทย 2 หัว
- พริกขี้หนู 20 เม็ด
- น้ำปลา 7 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 3 ช้อนชา
วิธีทำ เมนูอาหาร ปลาทับทิมนึ่งบ๊วย
- ผสมซอสปรุงรสและน้ำมันหอยลงในชามผสม
- หั่นเนื้อกระเทียมดองเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงไปคลุกผสมกับบ๊วย บี้เนื้อบ๊วยออกจากเม็ด แล้วแยกเม็ดทิ้งไปด้วยนะคะ
- นำปลาทับทิมที่ล้างทำความสะอาดและบั้งเนื้อเรียบร้อยแล้วลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว
- ใช้หม้อที่มีขนาดที่สามารถวางตัวปลาทั้งตัวลงไปได้ ใส่น้ำแค่ก้นหม้อไม่ต้องถึงกับท่วมตัวปลานะคะ ตั้งไฟจนน้ำเดือดจากนั้นวางขิงและหมูสามชั้นลงไป รอน้ำเดือดอีกครั้ง
- วางตัวปลาและราดน้ำซอสลงไป จากนั้นปิดฝาหม้อนึ่งไฟปานกลาง ประมาณ 20 นาที
- ระหว่างรอปลาสุกผสมน้ำจิ้มเตรียมไว้
- ปลาเริ่มสุกแล้ว วางผักกาดขาวทับลงไปเลยค่ะแล้วนึ่งต่อครู่จนผักสุก ไม่ต้องเติมน้ำเพิ่มนะคะ เดี๋ยวน้ำผักจะออกมาอีกค่ะ
- ใส่ใบขึ้นฉ่ายเป็นขั้นตอนสุดท้าย ปิดฝาแล้วยกลงจากเตาได้เลย
แกงส้มใต้กุ้งสด
- กุ้งสด 500 กรัม
- หน่อไม้ดองลวก 500 กรัม
- หัวไชเท้า 1 หัว
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1 ลูก
- เครื่องแกง
- หอมแดง 7-8 หัว
- กระเทียม 1 หัว
- ขมิ้น 30 กรัม
- พริกแห้ง 15-20 เม็ด
- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ เมนูอาหาร แกงส้มใต้กุ้งสด
- โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด โดยเริ่มจากตำหอมแดง กระเทียม ขมิ้น พริกแห้ง จากนั้นจึงใส่กะปิและเติมเกลือโขลกผสมภายหลัง
- ต้มน้ำให้เดือดใส่ผงปรุงรสลงไป จากนั้นใส่หัวไช้เท้าลงหม้อ ต้มต่อจนหัวไชเท้าเริ่มสุก
- ตักพริกแกงส้มที่โขลกไว้ลงไปละลายในหม้อ
- น้ำแกงหอมกรุ่นเดือดพล่านแล้วใส่หน่อไม้ดองที่ล้างและลวกแล้วลงไป ต้มต่อให้น้ำเดือดพล่านอีกครั้งแล้วจึงใส่กุ้ง
- ใส่กุ้งลงหม้อแล้วไม่ต้องคน ให้ปิดฝาหม้อไว้ครู่หนึ่ง กุ้งสุกแล้วปิดไฟ บีบมะนาวลงไป แล้วค่อยคนผสมก่อนตัดใส่ชามพร้อมเสิร์ฟ
ไก่นึ่งใบกะเพรา
- สะโพกหรืออกไก่ 500 กรัม
- ใบกะเพรา 2-3 กำ
- หอมแดง 150 กรัม
- พริกชี้ฟ้า 50 กรัม
- รากผักชี 4-5 ต้น
- ขมิ้น 30 กรัม
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ เมนูอาหาร ไก่นึ่งใบกระเพรา
- นำหอมแดง พริก ขมิ้น รากผักชี โขลกผสมให้เข้ากัน
- นำไก่ที่ล้างทำความสะอาดแล้วลงไปคลุกเคล้ารวมกับซอสหอยนางรม เกลือ และน้ำตาลปี๊บ
- คลุกเคล้าจนน้ำตาลละลายแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
- นำหม้อนึ่งตั้งไฟ ใช้ใบตองรองพื้น ถ้าไม่มีใบตองจะวางในภาชนะที่มีก็ได้ โดยใช้ใบกะเพราวางรองชั้นล่างและคลุมด้านบนอีกครั้ง
- นึ่งไฟกลางประมาณ 30-40 นาทีจนไก่สุก จึงเตรียมลงจากเตาแล้วจัดจานวางสำรับ
น้ำพริกปลาทู
- เนื้อปลาทูทอด
- พริกขี้หนูสวน
- หอมแดง
- กระเทียม
- น้ำปลา
- น้ำมะนาว
- น้ำตาล
- น้ำต้มสุก
วิธีทำ เมนูอาหาร น้ำพริกปลาทู
- ตามตำราให้นำพริก หอมแดง กระเทียม ไปย่างให้สุก แล้วลอกส่วนที่ไหม้ออก ไม่มีเตาถ่านก่อไฟย่างก็จัดแจงลงไปคั่วในกระทะแทน อาจจะไม่หอมเท่าการสะดุ้งไฟโดยตรง แต่ก็ใช้ได้ เราใช้พริกขี้หมูเพราะชอบเผ็ด บางสูตรใช้พริกหยวกก็ใช้ได้เช่นกัน เริ่มคั่วพริกให้สุกนิ่มก่อน
- นำหอมแดง กระเทียม ลงกระทะคั่วตาม เนื้อไหม้บางส่วนเล็กน้อยไม่เป็นไร หากส่วนไหนไหม้มากไม่สบายใจให้ลอกออก
- นำพริก หอมแดง กระเทียมที่สุกแล้วลงครก โขลกให้เข้ากัน หากไม่แน่ใจว่าควรใช้สัดส่วนเท่าใด อาจใช้วิธีง่าย ๆ คือ กะประมาณทั้งสามอย่างในสัดส่วนเท่ากัน
- โขลกให้พอหยาบ ตักรับประมาณแล้วมีเนื้อหนังเครื่องน้ำพริกให้เคี้ยวเพลินๆ
- นำเนื้อปลาทูทอดหรือนึ่งสุกแล้วลงไปโขลกผสมต่อ หลังจากเครื่องน้ำพริกได้เนื้อหยาบตามต้องการ
- ตักส่วนผสมที่โขลกได้มาปรุงรส โดยบีบมะนาว เติมน้ำปลา น้ำตาล และน้ำต้มสุกเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ
วิธีทำแกงปลาดุกผักแขยง
- ปลาดุก 1 กิโลกรัม
- พริกแกงเผ็ด 3 ขีด
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- ฟักทอง 2 ขีด
- ผักแขยง ปริมาณตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร แกงปลาดุกผักแขยง
- เริ่มจากเตรียมชิ้นปลาดุกสำหรับแกง ล้างทำความสะอาดให้หมดเมือก ผู้เขียนใช่วิธีล้างน้ำเปล่าโดยใช้น้ำผ่านก่อน จากนั้นโรยเกลือป่นเคล้าให้ทั่วแล้วล้างน้ำผ่านให้สะอาด
- ขั้นตอนแกงเนื้อปลา นำพริกแกงเผ็ดผัดกับน้ำมันจนหอม เติมน้ำปลาขณะผัด จากนั้นเติมน้ำให้พอประมาณให้ท่วมเนื้อปลา ตั้งจนเดือดแลวใส่จึงปลาลงไป จากนั้นปิดฝาไว้รอจนปลาเริ่มสุก
- ระหว่างรอหันไปล้างทำความสะอาดและหั่นฟักทองเป็นชิ้นเตรียมไว้ ขนาดไม่ต้องหนามาก ปลาใกล้สุกแล้วใส่ฟักทองลงไป เพิ่มความหอมมันให้แกง ใครไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็ได้ ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับความอร่อย
- ฟักทองได้ที่จึงตามด้วยผักแขยง ใช้ส่วนยอดไม่เกินหนึ่งคืบ เด็ดเป็นช่อ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงไปในน้ำแกง พักเดียวผักแขยงก็สลดสลบเหมือบเช่นเดียวกับผักใบในเครื่องแกงอย่างกะเพราหรือโหระพา เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ปิดไฟเตรียมสำรับได้
กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย
วัตถุดิบ กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย
- กุ้งแกะเปลือก 330 กรัม
- กระเทียมไทย 15 กลีบ
- พริกไทยดำ 2 ช้อนชา
- เกลือ ½ ช้อนชา
- แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนชา
วิธีทำ กุ้งทอดกระเทียมพริกไทย
- นำกระเทียมมาสับให้พอหยาบ จากนั้นนำมาคลุกเคล้ากับกุ้งที่แกะเปลือกเตรียมไว้
- นำพริกไทยลงครก โขลกให้แหลกแค่พอหยาบเช่นกัน ใครชอบละเอียดหน่อยก็จัดเลย จากนั้นนำมาลงชามผสม
- ตามด้วยใส่เกลือและแป้งทอดกรอบ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะไฟปานกลาง น้ำมันร้อนดีแล้ว นำกุ้งที่คลุกผสมไว้ลงทอด จนสุกเหลืองน่ารับประทาน
ผัดกะเพราเนื้อสับ
วัตถุดิบ ผัดกะเพราเนื้อสับ
- เนื้อสับ 300 กรัม
- ใบกะเพรา 1 กำ
- กระเทียม 1 หัว
- พริกขี้หนู ตามชอบ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล น้ำปลา ตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร ผัดกะเพราะเนื้อสับ
- โขลกกระเทียมพริกขี้หนูให้แหลก ระหว่างนี้ตั้งกระทะเทน้ำมันรอไว้เลย
- นำลงไปผัดกับน้ำมันจนหอม ให้กระเทียมเริ่มเหลืองเลยค่ะ
- นำเนื้อสับลงไปผัดกับพริกกระเทียม จนเนื้อร่วนสุกเลยค่ะ เราไม่เติมน้ำใด ๆ ใครกลัวกระทะไหม้เติมน้ำเล็กน้อยได้ค่ะ
- ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาล น้ำปลา ชิมเอาตามชอบนะคะ ใครไม่ชอบหวานไม่ต้องเติมน้ำตาลค่ะ
- ซอสหอยนางรมช่วยให้เนื้อฉ่ำๆ ใครไม่ชอบใส่น้อยหน่อยได้นะ จะได้ผัดกะเพราแบบแห้งๆ หน่อย
- ผัดเครื่องปรุงจนผสมกันดีกับเนื้อสับแล้วจึงใส่ใบกะเพราลงไป จากนั้นใช้ฝาหม้อปิดกระทะไว้ก่อนครู่หนึ่งแล้วปิดไฟ ก่อนผัดผสมให้เข้ากันจะช่วยให้หอมใบกะเพรายิ่งขึ้นค่ะ
ขนมจีนแกงเขียวหวานทูน่า
วัตถุดิบ ขนมจีนแกงเขียวหวาน
- ทูน่าในน้ำแร่ 1 กระป๋อง (ใหญ่)
- กะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง
- น้ำพริกแกงเขียวหวาน 1 ซอง
- มะเขือเปราะ
- พริกแดง/เหลือง
- โหระพา
วิธีทำ เมนูอาหาร ขนมจีนแกงเขียวหวาน
- ตั้งไฟละลายน้ำพริกแกงเขียวหวานกับกะทิให้เข้ากัน
- กะทิเดือดทั่วแล้วใส่ทูน่ากระป๋องพร้อมน้ำแร่ในกระป๋องลงไปได้เลย จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาลชิมรสให้ได้ตามชอบ
- ได้รสชาติตามต้องการแล้วใส่มะเขือลงไป เริ่มสุกดีแล้วตามด้วยพริกและใบโหระพา คนให้เข้ากันเป็นอันเรียบร้อย
- เรียงจับขนมจีนตามต้องการ แล้วราดแกงเขียวหวานทูน่า จากนั้นลุยโลด ขอบอกว่างานนี้ทูน่ากระป๋องเดียวกินได้หลายคนเลยล่ะ
หลนเต้าเจี้ยว
วัตถุดิบ หลนเต้าเจี้ยว
- เต้าเจี้ยวขาว (ใช้เฉพาะส่วนเนื้อ) 1 ถ้วย
- หัวกะทิสด 3 ถ้วย
- หางกะทิ 2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- หัวหอมแดง 5-7 หัว
- ต้นหอมผักชีหั่นท่อน อย่างละ 2-3 ต้น
- น้ำตาลปี๊ป 2-3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ
- พริกหนุ่ม พริกชี้ฟ้า หรือพริกจินดา (ตามชอบ)
- ผักเคียงตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร หลนเต้าเจี้ยว
-
นำกะทิทั้งส่วนหัวและหาง เทใส่ภาชนะนำขึ้นตั้งไฟคนไม่ให้กะทิแตกมัน
-
นำเต้าเจี้ยวขาวล้างน้ำให้สะอาด (3-4 ครั้ง) แล้วกรองด้วยกระชอนตาถี่ พักให้สะเด็ดน้ำ
-
นำเต้าเจี้ยวลงโขลกให้แหลก แล้วจึงใส่หัวหอมแดงลงไปโขลกหยาบๆ
-
เมื่อกะทิเดือดและน้ำงวดลงเล็กน้อย ให้ใส่เต้าเจี้ยวและหัวหอมแดงที่โขลกแล้วลงไป
-
ใช้ทัพพียีให้เต้าเจี้ยวคลายตัวออก แล้วรอให้เดือดอีกครั้ง
-
ตอกไข่ใส่ลงไป ตีให้ไข่แดงพอแตกออก
-
เดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย (ค่อยๆ เติมน้ำตาลอาจมากหรือน้อยตามความหวานที่เราชอบ) จากนั้นชิมรสดูก่อน หากไม่เค็มให้เติมเกลือทีละน้อย (หลนเต้าเจี้ยวจะออกรสหวานนำเค็มตาม)
-
ใส่พริกลงไปแล้วรอเดือดอีกครั้ง จึงโรยหน้าด้วยต้นหอมผักชีหั่นท่อน
-
ตักเสิร์ฟพร้อมผักเคียงที่ชอบ
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกหมู
วัตถุดิบ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกหมู
- กระดูกหมู 300 กรัม
- หมูสับ 2 ขีด
- หัวไชเท้า 1 ถ้วยตวง
- กระเทียมบุบ 3-5 กลีบ
- รากผักชีบุบ 3 ราก
- เส้นบะหมี่ไข่ (บะหมี่เหลือง) ตามต้องการ
- ไข่ไก่ (นำมาต้มยางมะตูม) 3-4 ฟอง
- ลูกชิ้นหมู (ตามชอบ)
- ผักสดสำหรับรวก ครั้งนี้เราใช้ กวางตุ้ง และถั่วงอก
- ต้นหอมผักชีโรยหน้า
- ถั่วลิสงป่น
- กระเทียมเจียว
- รากผักชี
- เกลือ
- น้ำตาลทราย
- ซีอิ๊วขาว
- เครื่องปรุงรส น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊วขาว พริกป่น พริกดองน้ำส้ม
วิธีทำ น้ำซุป
-
ล้างกระดูกหมูให้สะอาด
-
เติมน้ำเปล่าลงในหม้อประมาณ 1.5 ลิตร ใส่กระดูกหมู หัวไชเท้าหั่นชิ้น รากผักชี
-
ตั้งให้เดือด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรสหมู (หรือผงปรุงรสสำหรับทำก๋วยเตี๋ยวน้ำใส) ½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา
-
เคี่ยวกระดูกหมูด้วยไฟอ่อน กระทั่งนุ่ม ประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ระหว่างนี้ถ้าน้ำลดลงมากให้เติมเพิ่มได้ และชิมรสให้ได้ตามต้องการ โดยควรปรุงรสให้รสอ่อนไว้ก่อน)
วิธีปรุง เมนูอาหาร ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกหมู
- แบ่งบะหมี่ตามปริมาณพอเหมาะ นำไปลวกจนสุกแล้วจัดใส่ชามพร้อมผักลวก ผ่าไข่ต้มยางมะตูมวางลง ตามด้วยลูกชิ้น และกระดูกหมู (พักไว้)
- เตรียมชามผสม ตักถั่วป่น 1-2 ช้อนโต๊ะ หมูสับ 1 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุงรส น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกป่น พริกดองน้ำส้ม (เครื่องปรุงรสตามชอบ) ตักน้ำซุปร้อนๆ ใส่ลงไป แล้วยีหมูสับให้สุกทั่วถึง
- นำน้ำปรุงราดลงที่ส่วนผสมข้อ 1 โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชีซอย พริกไทยป่น และกระเทียมเจียว พร้อมเสิร์ฟ
- เสร็จแล้วค่ะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูกหมู เมนูเส้นทำง่าย อร่อยเองได้ที่บ้าน จะกินซ้ำกี่ชามก็ได้
มาม่าต้มยำหมูสับ ใส่ผักหวาน
วัตถุดิบ มาม่าต้มยำหมูสับ ใส่ผักหวาน
- ผักหวานบ้าน ตามชอบ
- มาม่ารสต้มยำ 2 ซอง
- หมูสับ 150 กรัม
- ถั่วลิสงตำหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรสฟ้าไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ เมนูอาหาร มาม่าต้มยำหมูสับ ใส่ผักหวาน
- ลวกผักหวานในน้ำเดือด นำขึ้นแล้วน็อคน้ำเย็นช่วยรักษาสีและความกรอบ จากนั้นลวกเส้นมามาม่าแค่พอเส้นสุก อยากให้นิ่มจนเกินไปพักไว้
- รวนหมูในหม้อ แล้วเทน้ำเพิ่มตั้งไฟให้เดือด ใส่ผงปรุงรสลงไป
- เมื่อน้ำเดือดพล่านแล้ว ใส่หอมแดง เครื่องปรุงรสจากซอง พริกป่น และ ถั่วลิสงลงไป คนผสมครู่หนึ่งแล้วปิดไฟ ลองชิมรสจากนั้นจึงเติมน้ำปลาและมะนาว
- จัดวางเส้นมาม่าและผักหวานที่ลวกไว้ใส่ชาม
- ราดน้ำต้มยำที่ปรุงไว้ลงไป เป็นอันเรียบร้อย
วิธีทำยำไข่เยี่ยวม้า
วัตถุดิบ ยำไข่เยี่ยวม้า
- ไข่เยี่ยวม้า 4 ฟอง
- ขิงดองซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดงจินดา 6-8 เม็ด
- พริกขี้หนู 4-6 เม็ด
- หอมแขก 2 หัว
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ เมนูอาหาร ยำไข่เยี่ยวม้า
- ปอกเปลือกไข่เยี่ยวม้าออกอย่างเบามือ จากนั้นนำลงไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3-5 นาที แล้วค่อย ๆ แกว่งในน้ำ เพื่อให้เนื้อไข่ขาวแข็งตัวและช่วยขจัดคราบปูนขาวที่ค้างอยู่ออกไปค่ะ
- ผ่าไข่ออกเป็นเสี้ยวด้วยเส้นด้าย วางเรียงในจานเตรียมไว้
- ซอยขิงดอง หอมแขก พริกขี้หนูและพริกจินดา
- ปรุงน้ำยำโดยละลายน้ำตาลมะพร้าวกับน้ำปลาให้ดี บีบมะนาวลงไป ชิมให้ได้รสตามชอบ จากนั้นใส่พริก หอมแขกและขิงดองลงไป ชิมอีกครั้งเพราะขิงดองที่ใช้อาจทำให้รสเปลี่ยน ชิมแล้วปรุงผสมเพิ่มเติมได้ตามชอบ
- นำน้ำยำราดลงตัวไข่เยี่ยวม้าที่จัดเตรียมไว้ เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ เตรียมอิ่มอร่อยกับข้าวต้มกุ๊ยร้อน ๆ แต่ถ้วยเดียวคงไม่พอ เจอยำไข่เยี่ยวม้าเข้าไปต้องขอเบิ้ลข้าวต้มเพิ่มอย่างแน่นอน
วิธีทำยำไก่ยอ
วัตถุดิบ ยำไก่ยอ
- ไก่ยอ 150 กรัม
- หอมแขก 1-2 หัว
- หอมใหญ่ ½-1 หัว
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดงจินดา 4-6 เม็ด
- พริกขี้หนู 4-6 เม็ด
- ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
- มะเขือเทศ 4-6 ลูก
วิธีทำ เมนูอาหาร ยำไก่ยอ
- ผสมน้ำยำโดยละลายน้ำตาลมะพร้าวกับน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำมะขามเปียกให้เข้ากันดี จากนั้นซอยพริกแดงและพริกขี้หนูลงไปผสม ชิมรสหรือเติมสัดส่วนตามชอบ
- นำไก่ยอลวกน้ำเดือดหรือเข้าไมโครเวฟ แล้วหั่นเป็นชิ้นลงไปคลุกผสมน้ำยำให้ซึมเข้าเนื้อไก่ยอก่อน
- จากนั้นจึงใส่ผักต่าง ๆ ตามหลัง โดยซอยหอมใหญ่ หอมแขก และใบขึ้นฉ่ายให้พร้อมก่อน
- ปิดท้ายด้วยมะเขือเทศสีสวย เพิ่มรสชาติและเติมสีสันให้กับยำไก่ยอได้เป็นอย่างดี
ยำกระเพาะปลา สูตรน้ำตาลเคี่ยว
วัตถุดิบ ยำกระเพาะปลา สูตรน้ำตาลเคี่ยว
- กระเพาะปลาทอดกรอบ
- หมูแผ่นทอดกรอบ
- น้ำตาลทราย
- เกลือ
- พริก น้ำมะนาว
- น้ำปลา
- หอมใหญ่
- แครอท
- ต้นหอมผักชี
วิธีทำ เมนูอาหาร ยำกระเพาะปลา สูตรน้ำตาลเคี่ยว
- การผสมน้ำยำ เริ่มจากการทำน้ำตาลเคี่ยวเตรียมไว้เป็นอันดับแรก โดยใช้น้ำตาลทราย 200 กรัม เกลือ 2 ข้อนชา และน้ำเปล่า 1 แก้ว เคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อมข้นหนืดเล็กน้อย จากนั้นจึงนำน้ำตาลเคี่ยวตามปริมาณที่เหมาะสมกับวัตถุดิบที่ต้องการทำมาปรุงรสเพิ่มกับพริก น้ำมะนาว และน้ำปลา ชิมรสตามชอบ ส่วนน้ำตาลเคี่ยวที่เหลือ เก็บแช่ตู้เย็นไว้ใช้ครั้งหน้าได้อีก
- เมื่อน้ำยำพร้อม ส่วนประกอบอื่น ๆ พร้อม หั่นซอยส่วนผสมต่าง ๆ อย่างหอมใหญ่และแครอทไว้นำลงชามผสมตามปริมาณที่ต้องการ ดูให้พอเหมาะกับน้ำยำ
- ใส่กระเพาะปลาและหมูกรอบที่ทอดเสร็จไว้แล้วลงไป
- ยำให้เข้ากันก่อนปิดท้ายด้วยต้นหอมและผักชี ใครชอบมะเขือเทศใส่ลงไปด้วยก็ได้
ข้าวขยำปลาทู
วัตถุดิบ ข้าวขยำปลาทู
- ปลาทูทอด 1 ตัว
- ข้าวสวย 2 ทัพพี
- น้ำมะนาว 2-3 ช้อนชา
- น้ำปลา 2-3 ช้อนชา
- พริก หอมแดง กระเทียม ตามชอบ
วิธีทำ เมนูอาหาร ข้าวยำปลาทู
- เริ่มจากซอยพริก หอมแดง และกระเทียมเตรียมไว้ ตามปริมาณที่ชอบเลย
- เลาะก้างปลาทูทอดออก เหลือแต่เนื้อเตรียมผสมกับข้าวสวย
- ใส่ทุกอย่างเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว ใช้มือขยำโลด ใครไม่สะดวกใจใช้ช้อนคลุกผสมได้ตามสะดวก
- โรยพริกเพิ่มความแซ่บตามชอบ แล้วเตรียมอร่อยได้เลย
ผัดฉ่าปลาดุกกรอบ
วัตถุดิบ ผัดฉ่าปลาดุกกรอบ
- ปลาดุก
- กระเทียม
- พริกแดง
- พริกไทยเม็ด
- กระชาย
- ใบมะกรูด
- น้ำตาลทราย
- น้ำปลา
- ซอสหอยนางรม
วิธีทำ เมนูอาหาร ผัดฉ่าปลาดุกกรอบ
- นำปลาดุกลงทอดในน้ำมันจนเหลืองกรอบ ครั้งนี้เรามีปลาดุกนาจากบ่อเลี้ยงตามธรรมชาติ ตัวจึงเล็กหน่อย ใครใช้ปลาดุกตลาดหั่นเป็นชิ้นสวยงามได้เลยค่ะ
- จากนั้นมาเริ่มลงมือผัดฉ่า ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน ตักพริกและกระเทียมที่โขลกให้แหลกลงไปผัดจนหอมฉุน
- เติมน้ำให้พอขลุกขลิก มากน้อยตามชอบได้ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม และน้ำตาล
- ผสมจนเข้ากันดีและปรุงรสได้ตามชอบแล้ว ใส่ปลาดุกทอดกรอบลงไป
- ผัดผสมให้เข้ากันครู่หนึ่ง พอให้น้ำแกงซึมเข้าเนื้อปลา
- ใส่กระชาย พริกไทยเม็ดตามชอบ
- ตบท้ายด้วยใบมะกรูด ผัดคลุกเคล้าให้หอมหวลชวนหิว
ขนมจีนน้ำยาขาไก่
วัตถุดิบ ขนมจีนน้ำยาขาไก่
- เส้นขนมจีน
- ขาไก่ เลือดไก่
- ปลาสด
- ปลาร้า
- ข่า
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- กระชาย
- หอมแดง
- กระเทียม
- พริกแห้ง
- ต้นหอม
- เกลือ (เม็ด)
วิธีทำ เมนูอาหาร ขนมจีนน้ำยาขาไก่
- หั่นซอยกระชาย ตะไคร้ ข่า ตั้งน้ำในหม้อ แล้วใส่เครื่องแกงเหล่านี้ลงไป (เครื่องแกงตามภาพยกเว้นปลาร้า)
- เมื่อน้ำเดือดใส่เกลือเม็ดและปลาสดทั้งตัวลงไป ใช้ปลานิล ปลาช่อน หรือปลาทับทิมก็ได้ แล้วแต่แม่ครัวสะดวก
- เนื้อปลาสุกดีแล้วตักออกจากหม้อ เลาะเนื้อปลาออกจากก้าง เตรียมทำน้ำยา
- น้ำในหม้อเดิมตั้งไฟต่อ ใส่ขาไก่ลงต้มรอไว้เลย
- จากนั้นนำเครื่องแกงทั้งหมดและเนื้อปลาลงโถปั่น
- ปั่นให้ละเอียด นำไปเทลงหม้อใบเดิมที่ใส่ขาไก่ลงไปแล้ว
- จากนั้นใส่ปลาร้าลงไป ใครไม่นิยมไม่ต้องใส่ก็ได้ คนผสมให้เข้ากัน
- ต้มต่อจนขาไก่เปื่อยดีแล้วจึงใส่เลือดไก่ ต้นหอม กระชาย และพริกแห้งลงหม้อตามปิดท้าย
ลาบทอด
วัตถุดิบและเครื่องปรุงลาบทอด
- เนื้อหมูติดมันเล็กน้อยแบบเนื้อบดประมาณ 300 กรัม
- น้ำมะนาว 1 ถ้วยเล็ก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่นตามความชอบ
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดซอย
- ผักชีฝรั่งซอย
- ต้นหอมซอย
- หอมแดง
- แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยเล็ก
- น้ำมันสำหรับทอด
- ผักสดกินแกล้มกับลาบทอด
วิธีทำลาบทอด
- นำหมูบดที่ยังสดอยู่มาทำการคลุกเคล้ากับน้ำปลา, น้ำมะนาว และพริกป่น จากนั้นให้คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน โดยให้คุณเติมข้าวคั่วลงไปเรื่อย ๆ พร้อมผสมแป้งทอดกรอบอีกเล็กน้อย แล้วทำการคนให้เข้ากันทั้งหมด
- นำต้นหอมซอย ใบมะกรูดซอย หอมแดง และผักชีฝรั่งซอยลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
- ปั้นก้อนหมูบดที่มีส่วนผสมเข้าเนื้อกันจนหมดแล้วเป็นก้อนกลมเตรียมพร้อมไว้ ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมัน เปิดไฟกลาง เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้นำก้อนลาบหมูที่ปั้นไว้ลงทอดได้เลย
- เลือกใช้น้ำมันแบบท่วมก้อนลาบ เพื่อทำให้ทอดออกมาสุกอย่างทั่วถึง เมื่อสังเกตว่าเนื้อก้อนลาบสุกจนเหลืองกรอบ ให้ตักขึ้นแล้วใส่ตะแกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมันได้เลย
- จัดจานด้วยผักสดที่เตรียมไว้และนำลาบทอดมาใส่จาน พร้อมเสิร์ฟได้ทันที
ดูคุณประโยชน์ และภาพการทำอย่างละเอียดได้ที่ https://www.sanook.com/women/184049/
ผัดเผ็ดปลาดุกใส่กระชาย
ส่วนผสมและเครื่องปรุงเมนูผัดเผ็ดปลาดุก
- ปลาดุกตัวขนาดกลางน้ำหนักประมาณ 5-7 ขีด 1 ตัว
- พริกชี้ฟ้าสดสีแดงสีเขียว 2 เม็ด
- กระชาย 5 ราก หรืออาจจะมากกว่านี้ก็ได้นะคะ ถ้าใส่มากก็จะได้กลิ่นหอม และประโยชน์มากขึ้นเช่นกัน
- กระเทียม 2 หัว
- พริกขี้หนูสด 15 เม็ด
- พริกไทยสด 1 ขีด
- ใบมะกรูด 3 ใบ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาอย่างดี 3 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
สามารถดูขั้นตอนวิธีเตรียมวัตถุดิบ เมนูผัดเผ็ดปลาดุก https://www.sanook.com/women/80681/
วิธีทำผัดเผ็ดปลาดุก
- นำกระทะขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลาง เทน้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ ลงในกระทะ รอจนน้ำมันพืชร้อน
- นำพริกขี้หนูกับกระเทียมที่โขลกเตรียมไว้ใส่ลงไปผัดในกระทะ จนมีกลิ่นหอม ถ้าพริกแห้งมากให้เติมน้ำสะอาดลงไปได้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
- นำปลาดุกใส่ลงไปในกระทะผัดต่อจนปลาสุก
- ทำการปรุงรสชาติ ด้วยน้ำตาลทรายและน้ำปลา จากนั้นผัดต่อให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากัน
- ชิมรสชาติให้ถูกใจถ้ายังไม่ถูกใจสามารถเติมเครื่องปรุงลงไปได้อีกครั้งในขั้นตอนนี้ เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วให้ใส่กระชาย พริกชี้ฟ้าเขียวแดง ใบมะกรูดฉีก และเม็ดพริกไทยสดตามลงไป แล้วผัดคลุกเคล้าให้เข้าอีกครั้ง พอส่วนผสมต่างๆ เข้ากันดีแล้วให้ใส่ใบโหระพาตามลงไป เป็นอันเสร็จปิดไฟที่เตาแล้วยกลง
- จากนั้นตักผัดเผ็ดปลาดุกใส่จานแต่งหน้าให้สวย พร้อมยกเสิร์ฟทานกับข้าวสวยร้อนๆ กันได้เลย
ต้มเลือดหมู
ส่วนผสม
- หัวไชเท้า 1 หัว นำมาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปหั่นเป็นชิ้นๆ พองามพักไว
- กระดูกหมู 5 ขีด (สำหรับนำมาต้มน้ำซุบ) ล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ พองาม
- เลือดหมู 1-2 ก้อน หั่นเป็นชิ้นๆ พองาม
- ลูกชิ้นหมูอย่างดี 3 ขีด
- ตับหมู 2 ขีด
- หมูบด 2 ขีด
- หมูเนื้อแดง 3 ขีด ล้างให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำพักไว้
- ตำลึงนำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วเด็ดเอายอดและใบอ่อนๆ ให้ได้ 1 ถ้วยตวง
- ขึ้นฉ่าย 2 ต้น นำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วหั่นฝอยพักไว้
- หัวกระเทียมไทย 3 กลีบ ปอกเปลือกล้างให้สะอาด แล้วโขลกหยาบๆ นำไปเจียวให้เหลืองพักไว้
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
- ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
เครื่องปรุงรส
- พริกชี้ฟ้าเขียวแดง 2 เม็ด ล้างให้สะอาดแล้วนำมาหั่นหยาบๆ
- น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ(ผสมพริกชี้ฟ้าทำพริกดอง)
- น้ำตาลทราย
- พริกป่น
- น้ำปลาอย่างดี
- พริกไทยป่น
ขั้นตอนการทำต้มเลือดหมู
- นำหมูบด น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส และพริกไทยป่น มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วพักไว้
- นำเกลือป่นผสมกับน้ำสะอาดในภาชนะ แล้วนำกระดูกหมูมาแช่พักไว้ 30 นาที
- นำหม้อน้ำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลาง พอน้ำเดือดจัดได้ที่แล้ว ให้นำลูกชิ้นหมูลงไปลวกประมาณ 2 นาที แล้วตักขึ้น
- จากนั้นนำเลือดหมูลงลวกต่อประมาณ 3 นาที แล้วตักขึ้นนำไปใส่ในน้ำเย็นประมาณ 1 นาที แล้วตักขึ้นพักไว้
- นำหม้อน้ำขึ้นตั้งบนเตาใช้ไฟปานกลางแล้วนำกระดูกหมูใส่ลงไปในหม้อ เพื่อต้มน้ำซุบขณะต้มให้คอยช้อนฟองทิ้ง
- พอน้ำในหม้อเดือดให้ใส่หัวไชเท้าลงไปต้มพอสุก ตามด้วยปั้นหมูบดเป็นก้อนเล็กกลมๆ ใส่ลงในหม้อน้ำซุบ
- จากนั้นนำเนื้อหมูที่หั่นเตรียมไว้ใส่ลงไปในหม้อต้มจนสุก เป็นอันเสร็จ
ดูขั้นตอนวิธีทำต้มเลือดหมู อย่างละเอียดได้ที่ https://www.sanook.com/women/80845/
ข้าวไข่ข้นเบคอนชีส
วัตถุดิบ ข้าวไข่ข้นเบคอนชีส
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เบคอน 1 ชิ้น
- ขีสขูด 1 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
- ข้าว ปริมาณเหมาะสม
- ครีมสด ปริมาณเหมาะสม
วิธีทำ
- ตอกไข่ 2 ใบใส่ชาม
- เบคอนหั่นฝอย ชีสขูด
- ผสมให้เข้ากัน
- แรปพลาสติกรองในชาม
- เทส่วนผสมไข่
- ห่อแรปให้เป็นถุง
- มัดให้แน่น
- นำไปกวนในน้ำเดือด
- ต้มประมาณ 7-8 นาที
- แกะถุงออก
- โปะบนข้าวสวย
- ราดนม
- โรยออริกาโน
เมนูข้าวไข่ข้น ยังมีแนะนำอีก 2 เมนู สามารถดูวิธีทำ และ คลิปการทำอย่างละเอียดได้ที่ https://www.sanook.com/women/164325/
กุ้งทอดราดซอสมะขาม
เครื่องปรุงและส่วนผสมเมนูกุ้งทอดราดซอสมะขาม
- กุ้งสด 5 ขีด
- พริกชี้ฟ้าสดเขียว แดงอย่างละ 1 เม็ด
- หัวหอมแดง 4 หัว
- หัวกระเทียม 3 หัว
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นผักชี 1 ต้น ล้างสะอาดเด็ดใบพักไว้
- แป้งข้าวโพด ½ ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด 3 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนในการทำกุ้งทอดราดซอสมะขาม
- นำกุ้งมาล้างน้ำใช้มีดผ่าหลังดึงเส้นดำออกโดยไม่ต้องแกะเปลือก จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาใส่ตะแกรงทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ปอกเปลือกหัวหอมและหัวกระเทียมให้เกลี้ยง แล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นซอยให้ละเอียดพักไว้
- ล้างพริกชี้ฟ้าให้สะอาดแล้วนำไปโขลกหยาบๆ พักไว้
- นำกระทะตั้งเตาเทน้ำมันใส่ลงไป ใช้ไฟค่อนข้างอ่อน พอน้ำมันร้อนได้ที่ให้ใส่กุ้งลงไปทอดให้เหลืองแล้วตักขึ้นใส่ชามพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ใครจะใช้กระดาษซับมันรองตัวกุ้งที่ทอดแล้วด้วยก็ได้เช่นกัน
วิธีทำน้ำซอสมะขาม
- นำกระทะตั้งเตาใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ 2 ช้อนโต๊ะ
- จากนั้นนำหัวหอม หัวกระเทียมที่ซอยไว้ใส่ลงไปในกระทะผัดจนมีกลิ่นหอม
- จากนั้นทำการปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกชี้ฟ้าโขลกหยาบผัดให้เข้ากัน
- ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ เทใส่กระทะให้มีน้ำคลุกคลิกแล้วชิมให้ได้รสชาติที่ถูกใจ เป็นอันเสร็จปิดไฟแล้วยกลงจากเตากันได้เลย
- เวลาเสิร์ฟให้จัดกุ้งทอดใส่จานเรียงให้สวย แล้วตามด้วยราดด้วยน้ำซอสมะขาม แต่งหน้าด้วยใบผักชีให้สวยงามแล้วเสิร์ฟทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ กันได้เลย แต่ใครจะทานเป็นเมนูอาหารทานเล่นก็ได้เช่นเดียวกัน
วิธีทำอย่างละเอียดพร้อมภาพประกอบ เมนูกุ้งทอดซอสมะขาม ดูได้ที่นี่ >> https://www.sanook.com/women/81257/
อัลบั้มภาพ 35 ภาพ