5 เคล็ดลับการดูแลผิวหน้าของ "กวาง เดอะเฟซ" ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน!
Merz Aesthetics Thailand ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามระดับโลก ได้พา ‘กวาง-วรรณปิยะ ออมสินนพกุล’ หรือ ‘กวาง เดอะเฟซ’ มาบอกต่อเคล็ดลับการดูแลผิวให้สวยใสอยู่เสมอ พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม นายแพทย์ ดิษฐพงศ์ สัตตบงกช ผู้คร่ำหวอดในวงการมากว่า 20 ปี ร่วมเจาะลึกวิธีการดูแลผิว และให้คำแนะนำกับทุกคนในช่วง Work From Home ผ่านรายการ Woody FM
ด้วยความที่สาวกวางเป็นนางแบบ ทำให้การดูแลผิวพรรณเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอถึงขั้นนิยามว่าตัวเองเป็นคนบ้าการดูแลผิวมาก ถึงแม้ว่าเธอจะชื่นชอบการไปเที่ยวทะเลและออกแดดเป็นชีวิตจิตใจ แต่เธอก็บำรุงและดูแลผิวอย่างหนักไม่แพ้กัน โดยเธอให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารการกิน การนอนหลับพักผ่อน รวมไปถึงคัดสรรครีมบำรุงที่ดีและเหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง นอกจากนี้ยังมาสก์หน้าเป็นประจำ และเข้ารับนวัตกรรมทางความงามอย่าง อัลเทอราปี ทุก 6 เดือนเพื่อช่วยให้ผิวกระชับและดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ
ซึ่งคุณหมอดิษฐพงศ์ได้เสริมว่า การทำอัลเทอราปี นั้น สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอสัญญาณแห่งวัยมาถึง หากเทียบระหว่างคนที่มาทำอัลเทอราปีตอนที่อายุผิวน้อยกว่าและทำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผิวได้รับการกระตุ้นและสร้างคอลลาเจนเพื่อล็อคความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของผิว ก็จะได้รับการกระตุ้นให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์เท่ากับตอนที่ทำครั้งแรก ทำให้คนที่เริ่มทำอัลเทอราปีช้ากว่า ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ดูเด็กเท่าคนที่เริ่มทำเร็วกว่า
จากที่ฟังมา ดูเหมือนว่าสาวกวางจะดูแลผิวแบบรอบด้านและครบถ้วน แต่ใช่ว่าเธอจะไม่มีปัญหาผิวเลย เพราะหนึ่งในปัญหาที่คอยกวนใจมากที่สุดก็คือ “ปัญหารูขุมขนกว้าง” อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ดูหน้ามัน ผิวแก่กว่าวัย และดูไม่สดชื่น
“กวางทำยังไงก็ไม่หายถาวร ไม่ว่าจะเลเซอร์ ยอมหน้าแดงเป็นอาทิตย์ หรือแม้แต่บินไปทำที่เกาหลี ใช้นวัตกรรมที่ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ซึ่งต้องทำทุก 6 เดือน เสียค่าใช้จ่ายเกือบแสนในแต่ละครั้ง ยิ่งพอช่วงโควิด-19 ทำให้เราเดินทางไปไหนไม่ได้เลย ปัญหาผิวก็กลับมาอีก” และวันนี้เธอจะมาเผย 5 เคล็ดลับการเอาชนะทุกปัญหาผิว ให้สวยสดใสเปล่งปลั่งเสมอ
1.มาสก์หน้า
แม้จะดูเป็นเรื่องทั่วไป และหลายคนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้เท่าไหร่นัก แต่ที่จริงแล้ว การมาสก์หน้า นั่นมีประสิทธิภาพทั้งส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าครีมบำรุงผิว รวมถึงช่วยให้ผิวหลังมาสก์หน้าซึมซับสกินแคร์ได้ดีขึ้น หากมาสก์หน้าเพียงสัปดาห์ละครั้ง แต่ทำอย่างสม่ำเสมอ รับประกันได้ว่าจะเห็นความแตกต่างของผิวที่อิ่มน้ำ ชุ่มชื้ม เนียนนุ่มขึ้นอย่างแน่นอน
2.ปัญหารูขุมขนกวนใจ
หนึ่งในปัญหาที่สาวๆ หลายคนประสบและไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี ปัญหารูขุมขนกว้าง นี้เกิดได้จาก 3 สาเหตุหลัก คือ ต่อมไขมันใหญ่ ทำให้รูขุมขนซึ่งเป็นท่อทางออกของน้ำมันมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย , อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินของผิวเสื่อมสภาพ รูขุมขนจึงขยายขนาดขึ้น และสุดท้ายคือ พฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิวหน้า มีความเป็นกรดหรือด่างมากไป การล้าง เช็ด หรือถูหน้าแรงๆ ล้วนส่งผลให้รูขุมขนกว้างได้ทั้งนั้น
ซึ่งทางออกที่คุณหมอแนะนำว่าเห็นผลรวดเร็วทันใจ ก็คือ การใช้โบท็อกซ์บริสุทธิ์ ด้วยเทคนิค Micro Edition ซึ่งเป็นการทำทรีตเมนต์กับต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง ต่างจากการใช้โบท็อกซ์เพื่อลดเลือนริ้วรอย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดขนาดรูขุมขนลง
3.ผิวอิ่มฟู
การจะทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง ชุ่มชื่นนั้น ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการดูแลเอาใจใส่อย่างรอบด้าน ทั้งการใช้สกินแคร์ที่เติมเต็มน้ำให้ผิว การดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิว นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่งสดใสได้อีกด้วย นั่นก็คือ ฟิลเลอร์ Skin Radiance ที่ช่วยเรื่องรูขุมขนและเติมต็มให้ผิวดูอิ่มฟูโดยเฉพาะ ฟิลเลอร์รูปแบบใหม่นี้มีเนื้อสัมผัสเนียน สามารถกลืนไปกับผิวของเราได้เป็นอย่างดี โดยจะทำหน้าที่ดูดน้ำเข้ามาหาตัวฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ รูขุมขนดูกระชับขึ้น รวมไปถึงผิวจะดูฉ่ำโกลว์อิ่มน้ำอีกด้วย
4.ระวังแสงแดด
ถึงแม้ว่าในแสงแดดจะมี วิตามินดี ทำให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่งสดใส แต่ถ้าโดนแดดมากไปย่อมก่อให้เกิดผลเสียอย่างแน่นอน เพราะแสงแดดนี่เองที่เป็นสาเหตุของผิวแก่ก่อนวัยทั้งหลาย เนื่องจากแสงแดดจะคอยทำร้ายคอลลาเจนในผิว และยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนในร่างกายก็จะลดลงตามธรรมชาติเองอีกด้วย ซึ่งปัญหานี้สามารถป้องกันและแก้ไขได้ด้วย เครื่องอัลเทอราปี ที่ดูแลลงลึกถึงชั้นผิว SMAS ช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ของผิว เปรียบได้กับการล็อคอายุของผิวหน้าเลยทีเดียว
5.จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
ส่งท้ายกันด้วยเคล็ดลับที่หลายคนหลงลืมกันไป จิตใจของเรานั้นสำคัญที่สุด เพราะไม่เพียงส่งผลต่อพฤติกรรม แต่ยังส่งผลไปถึงผิวพรรณของเราโดยตรงอีกด้วย เวลาที่สภาพจิตใจแย่ เช่น เครียด ร่างกายจะหลั่งสารที่ส่งผลเสียต่อผิวออกมา ทำให้ผิวพรรณของเราดูหม่นหมอง ขาดความสมดุล นำมาซึ่งปัญหาผิวอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ สิว ผื่นแพ้ ผิวดูไม่สดใส และอีกมากมาย
ในทางตรงกันข้าม หากจิตใจของเราแจ่มใสเบิกบาน ร่างกายก็จะหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมา ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวของเราดูอิ่มเอิบ เปล่งปลั่ง สดใส ทั้งสาวกวางและคุณหมอจึงขอแนะนำเลยว่าขั้นแรกของการดูแลผิว ก็คือการดูแลจิตใจของเราให้มีความสุขอยู่เสมอนั่นเอง