เพราะเคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน "คุณแม่ปริม บูลกุล" เล่าถึงลูก 3 คน 3 สไตล์
หากจะบอกว่าบ้านนี้ไม่เคยเงียบเหงา คงไม่ผิด เพราะจำนวนสมาชิกที่เติมเต็มความสุขจนมากล้น โดยเฉพาะลูกๆ ทั้ง 3 คน ของคุณพ่อชัย และคุณแม่ปริม บูลกุล นำโดย น้องเฟิร์น – อลิน บูลกุล ลูกสาวคนโต วัย 19 ปี , น้องฟาง-ชนินทร์ ลูกชายคนกลาง วัย 18 ปี และน้องฟิน-กวิน บูลกุล ลูกชายคนเล็ก วัย 17 ปี ช่วยกันสร้างสีสันให้ครอบครัวไม่มีวันหยุด
เช่นเดียวกับอาชีพแม่ของคุณปริม เพราะเธอทำหน้าที่เป็นคุณแม่ฟูลไทม์ตั้งแต่มีลูกคนแรกเลย “ปริมเลี้ยงลูกเองค่ะ ตั้งแต่ที่ลูกยังเล็กๆ ปริมใส่ใจดูแลเขาเหมือนคุณแม่ทั่วๆ ไปนะ ตื่นไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนทุกเช้าไม่เคยขาด หรือต่อให้ไม่มีคนขับรถ ปริมก็จะขับไปส่งเขาเองตลอด เพราะคิดว่าช่วงเวลาสำคัญของแม่ คือการไปส่งลูกเข้าโรงเรียนในตอนเช้า เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ลูกๆ อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า แล้วเราจะพูด เราจะบรีฟอะไรกันบ้าง เราจะใช้เวลานี้สอนและทบทวนข้อผิดพลาดของวันที่ผ่านมาด้วยกัน
ณ ตอนนี้ลูกๆ เริ่มโตเป็นวัยรุ่นกันแล้ว และสิ่งที่ปริมต้องทำ นั่นก็คือ เป็นคุณแม่ที่รับฟังมากขึ้น ส่วนการอบรมสั่งสอนในเรื่องต่างๆ เราทำมาตั้งแต่ที่ลูกๆ แต่ละคนอายุได้เพียงขวบสองขวบแล้ว เราพูดเราสอนทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว พอเขาเป็นวัยรุ่น เราต้องฟังเขาให้มากขึ้น พูดให้น้อยลง ปริมจะบอกตัวเองเสมอว่า ถ้าจะสอน พูดเฉพาะสิ่งที่เป็นสาระ ประโยคสั้นๆ ให้เข้าใจ แต่จะไม่จู้จี้จุกจิกแล้ว และเราต้องให้เกียรติเขา เพราะเขาก็เริ่มจะเป็นผู้ใหญ่คนนึงแล้ว เป็นคนที่มีความรับผิดชอบแล้ว นี่สำหรับลูกที่เป็นวัยรุ่นนะคะ อายุ 15 ปี เราก็ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทไปโดยสิ้นเชิง จากที่เราเป็นแม่ เราแทบจะพลิกบทบาทมาเป็นเพื่อนมากขึ้น ให้เขาได้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ให้เขาได้แสดงออกในสิ่งที่เขาเป็น ให้เราเห็นมากที่สุด และโจทย์ของปริม คือ จะทำยังไงก็ได้ให้ลูกผูกพันกับเรา ไว้ใจเรา และเชื่อใจเราค่ะ”
อาชีพมนุษย์แม่
แม้บางครั้งเด็กๆ อาจจะมีเรื่องวุ่นๆ บ้าง คุณปริมเข้าใจว่าเป็นเรื่องของวัย และอยากให้เขาได้เติบโตตามวัย ฉะนั้นเวลาที่ลูกทำผิดมา จะไม่มีการซ้ำเติมใดๆ พร้อมบอกว่า “แม่เข้าใจ และแม่เองก็เคยเป็นวัยรุ่นมากก่อน ไม่เป็นไร แต่ลูกต้องดูแลตัวเองนะ จึงไม่แปลกที่ลูกๆ จะเล่าให้เราฟังหมด เป็นการสร้างความไว้ใจให้กับเขา ดีกว่าเขาไปทำอะไรไม่ดีโดยที่เราไม่รู้ไม่เห็น”
นอกจากให้ความเป็น ‘เพื่อน’ แล้ว คุณปริมยังให้ความรักแบบไม่คาดหวังด้วย “เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเราให้เขาไปหมดแล้วตั้งแต่เขายังเด็ก ฉะนั้นสิ่งต่างๆ ต้องแทรกซึมอยู่ในจิตใจของลูกๆ บ้างไม่มากก็น้อย เพราะเราตั้งใจดูแลเขามาด้วยตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่เขาเป็นในวันนี้ ก็คือสิ่งที่เราอบรมสั่งสอนเขาในวันนั้น
“ปริมพยายามไม่คิดมากไปถึงอนาคต แบบว่าจะต้องกังวลถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่จะดูว่าวันนี้เราได้สอนอะไรไปให้เขาแล้วบ้าง และการตัดสินใจเขาเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างน้องฟาง ที่ตอนนี้กำลังหัดขับรถยนต์อยู่ ก็เป็นห่วง เพราะคุณชัยก็เคยเล่าเรื่องที่สมัยตัวเองขับรถพร้อมกับการผจญภัยของตัวเองให้ฟัง ก็แอบกังวลอยู่นิดๆ แต่อาชีพแม่ก็ต้องเตรียมใจไว้ในหลายๆ เรื่อง” และนี่คือสัญชาตญาณของความเป็นแม่ ที่คุณปริมเชื่อว่าผู้หญิงทุกคน เมื่อถึงเวลามีลูก ก็พร้อมจะเลี้ยงดูลูกด้วยความรักอย่างแน่นอน
ลูกๆ 3 คน 3 สไตล์
“ปริมมีลูกสาวเป็นลูกคนแรก น้องเฟิร์นมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก มีความ independent เป็นคนที่มีเหตุมีผล คิดรอบคอบ อยากทำอะไรเอง จะไม่ค่อยมาปรึกษา แต่งตัวแบบนี้ จะทำผมทรงไหน จะบำรุงผิวยังไง และเขาเป็นคนมั่นใจในตัวเอง การจะบอกรักแม่ มักจะมาในรูปแบบแปลกๆ ซึ่งเราก็เข้าใจเขานะ ที่สำคัญ น้องเฟิร์นเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมากๆ จนทุกคนในบ้านเรียกเขาว่า ‘นักเรียนมืออาชีพ’ เราจึงไม่ค่อยห่วงอะไรเขามาก และเชื่อใจในสิ่งที่เขาเลือกหรือตัดสินใจ ตรงตามคาแรคเตอร์ลูกคนโตเลยค่ะ”
ส่วนหนุ่มๆ คุณปริมบอกว่า “ ‘น้องฟาง’ ลูกชายคนกลาง เป็นเด็กที่แจ่มใส สดชื่น คิดบวกตลอดเวลา เป็นเด็กที่ทุกอย่าง possible หมด คนนี้บอกรักพอดีๆ ยังขอกอด ขอหอมได้อยู่ เขาจะแมนๆ เวลาสถานการณ์ยุ่งเหยิง แล้วแม่ต้องการอะไรบางอย่าง เขาจะพูดเลยว่า ‘โอเคมัม ยูต้องทำแบบนี้นะ’ หรือบางครั้งเขาก็เสนอตัวทำให้แม่เลย ทุกอย่างฟางสามารถเคลียร์ให้เรียบร้อยได้”
ปิดท้ายกับน้องเล็กของบ้าน ‘น้องฟิน’ ด้วยความที่ทั้งคุณพ่อคุณแม่เป็นลูกคนเล็กของครอบครัวเหมือนกัน คุณปริมอธิบายว่า “เหมือนเห็นตัวเองค่ะ รักแม่มาก ถึงจะดูเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่ก็มีความห่วงใยคนอื่นตลอดเวลา ยกตัวอย่างเวลาแม่เดินๆ อยู่แล้วร้องโอ๊ยขึ้นมา ฟินจะรีบวิ่งมาหาทันที แล้วถามว่าแม่เป็นอะไร ทำไมเป็นแบบนี้ หรือเวลามีอะไรเล็กๆ น้อยๆ เขาจะคอยเตือนเราเสมอว่า ‘แม่พูดประโยคแบบนี้ไม่ดีเลย’ เขาค่อนข้าง sensitive และ sweet มากๆ ”
อย่างไรก็ตามถึงแม้คาแรคเตอร์ของลูกๆ จะแตกต่างกันคนละสไตล์ แต่คุณแม่ปริมก็บอกว่า “แฮปปี้มากๆ กับสิ่งที่เขาเป็น สิ่งที่เขาแสดงออก อีกอย่างลูกๆ เป็นเด็กที่อยู่ในโอวาท มีวินัย พูดจารู้เรื่อง ตั้งใจเรียน รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ เป็นอะไรที่กลมๆ และกำลังดีนะคะ”