"ณวัฒน์" เปิดใจ เสียดายโอกาส "ภูเก็ต" ทุกคนเห็นต่างได้แต่ไม่ควรแตกแยก!
จากกระแสข่าวที่สื่อมวลชนหลายสำนักได้นำเสนอประเด็นเรื่องท้องที่ในจังหวัดภูเก็ตไม่อนุญาตให้กองประกวดนางงามระดับโลก มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 ใช้สถานที่ในการทำกิจกรรมเก็บตัวเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภูเก็ตให้กับชาวโลกได้เห็นความงดงามและเชิญชวนกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทย พร้อมตีประเด็นไปต่างๆ นานา วันนี้ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่แนล ขอใช้พื้นที่ในการเปิดใจถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้โดย ณวัฒน์ เผยว่า...
อย่างที่ทุกท่านทราบนะครับว่าหลายท้องที่ในจังหวัดภูเก็ตไม่อนุญาตให้กองประกวดใช้พื้นที่ ซึ่งเราเคารพในสิ่งที่เจ้าของพื้นที่ตัดสินใจ เช่นล่าสุดที่นายกเทศมนตรีเมืองภูเก็ตแจ้งกลับมาว่าไม่อนุญาตให้ใช้ถนนถลางในการจัดการเปิดตัวสาวงามร่วม 70 คนจาก 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งงานนี้ผมตั้งใจให้สาวงามทุกคนได้สวมชุดบาบ๋า ย่าหยา เป็นชุดแต่งกายประจำพื้นถิ่นของชาวภูเก็ต เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมอันสวยงามผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ผมให้นางงามได้เดินแฟชั่นโชว์พร้อมพูดเชิญชวนคนทั่วโลกมาเที่ยวจังหวัดภูเก็ต แต่กิจกรรมนี้ต้องถูกยกเลิกไป เพราะความเห็นต่างทางการเมืองของคนบางคนที่จุดประเด็นขึ้นมา มีการติดป้ายบริเวณเมืองเก่า ทำให้นายกเทศมนตรีเมืองภูเก็ตทราบและได้ชี้แจงกลับมาเป็นหนังสือว่าไม่อนุมัติ เราจึงต้องยกเลิกกิจกรรมนี้ไป รวมถึงบางกิจกรรมก็จะมีการยกเลิกไปด้วย เช่น ท่องเที่ยวเหมืองแร่ภูเก็ต รวมถึงท่าเรือที่จะพานางงามไป เราก็มีการเปลี่ยนท่าเรือ ดำเนินการไปตามที่เขาแจ้งมาโดยไม่โต้แย้งอะไรใดใดทั้งสิ้น แต่ก็รู้สึกเสียดายการท่องเที่ยวภูเก็ต เสียดายโอกาสที่ประเทศจะได้ประชาสัมพันธ์โดยไม่ต้องลงทุนในช่วงที่เราเปิดประเทศแล้วแบบนี้
มีคนภูเก็ตบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย แต่หลายคนก็ยินดีต้อนรับ!?
ยอมรับครับว่ามีธุรกิจภาคเอกชนติดต่อมาเยอะมากไม่ว่าโรงแรมดัง ออกาไนซ์ บริษัทรถตู้ รถทัวร์ ร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย ผมรู้สึกขอบคุณและปลาบปลื้มใจมาก แต่ก็เข้าใจครับว่าแต่ละพื้นที่ไม่มีใครมีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกันทุกคนหรอก ซึ่งสิ่งที่ผมอยากบอกคือเราเห็นต่างได้แต่เราต้องไม่แตกแยก แต่สำหรับภูเก็ตนั้นเขาทำให้ผมรู้ว่าหากเรามีความเห็นต่าง เราก็จะไม่ได้ทำอะไรด้วยกันอีกเลย ซึ่งผมก็เคารพในสิ่งที่คุณคิด และผมขอบคุณผู้ที่สนับสนุนผมทุกท่าน มีคนภูเก็ตและเด็กรุ่นใหม่เยอะมากที่ใหักำลังใจผมและต้องการให้ผมไปภูเก็ต ผมอาจจะตั้งเป็นกลุ่มเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่ามีคนจำนวนมากที่ต้องการให้มิสแกรนด์ไปเยือนภูเก็ต และเห็นด้วยกับการจัดงานที่ภูเก็ตในครั้งนี้ เพราะนั่นคือการได้ประชาสัมพันธ์ภูเก็ตโดยมิได้ลงทุนเพราะภูเก็ตบอบช้ำและประสบปัญหาทางเศรษฐกิจมานาน หากเรามีโอกาสได้ช่วยกันก็ไม่ควรขัดขวาง
จริงหรือไม่ที่มีกระแสข่าวว่า มิสแกรนด์จากแถบยุโรปแจ้งยกเลิกการมาประกวดที่ภูเก็ต เนื่องจากยังฝังใจกับเหตุฆาตกรรมแหม่มสวิสฯ นักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ที่ผ่านมา?
เรื่องนี้ผมพยายามจะไม่พูดถึง และได้พยายามโน้มน้าวมิสแกรนด์ในแถบยุโรปว่าเรื่องของการฆาตกรรมแหม่มสวิสฯที่เกิดขึ้นในโครงการแซนบ็อกซ์นั้นถือเป็นความเสียหายอย่างมหาศาลของจังหวัดภูเก็ตและของประเทศ เราถูกโจมตีว่าไม่มีมาตรฐานทางด้านความปลอดภัย ซึ่งจริงๆเรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว อธิบายไปเท่าไหร่เขาก็ไม่ฟังและเขาก็คิดว่าเขาไม่ควรมาอยู่ในพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยง ทำให้ปีนี้นางงามทางทวีปยุโรปหายไปหลายประเทศทีเดียว ซึ่งเราก็ต้องน้อมรับในการตัดสินใจของคนเหล่านั้นเพราะคนต่างประเทศหรือประเทศที่พัฒนาแล้ว เค้าจะมีจุดยืนที่ชัดเจน อีกอย่างเค้าคงไม่อยากมานำเสนอประเทศตัวเองในพื้นที่ที่คนของเค้าถูกฆ่าตาย เขายังฝังใจ และนี่เป็นอีกเหตุผลนึงที่ผมอยากจัดการประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ภูเก็ตได้เปลี่ยนบรรยากาศ คนจะได้ลืมเรื่องแหม่สวิสฯถูกฆ่ากลางแซนบ็อกซ์
แต่เราก็ต้องเข้าใจคนต่างชาตินะและคงต้องใช้เวลานานกว่าที่จะให้พวกเค้าไม่พูดถึงและลืมสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ แต่อย่างไรก็วอนคนภูเก็ตดูแลนักท่องเที่ยวดีๆด้วย ถึงแม้จะไม่ต้อนรับคณะผู้เข้าประกวด ทั้งที่เขาเปรียบเสมือนนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วโลกร่วม 70 ประเทศก็ตาม สำหรับผมและทีมงานเราจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพราะเราโปรโมตไปแล้ว ไม่ว่าจะยากยังไง เราได้แถลงข่าวไปแล้ว เราไม่อยากให้ประเทศไทยต้องเสียหน้า โรงแรมเชอราตัน ป่าตองเราก็ได้จ่ายเงินไปหมดแล้ว เราไม่มีทางเลือก นอกจากเดินหน้าเท่านั้น วอนขอชาวภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ฝากดูแลผู้เข้าประกวดให้ดี อย่าให้มีเหตุการณ์ซ้ำรอยแหม่มสวิสฯ เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าใจและเราจะไม่มีวันนำชื่อเสียงกลับมาดีได้
ทำไมไม่ย้ายไปจัดจังหวัดอื่นที่เขาต้อนรับเรา?
ย้ายไม่ได้ครับ เพราะเราวางแผนไว้หมดแล้ว สำคัญคือตั๋วเครื่องบินของผู้เข้าประกวด ออกมาเกือบหมดแล้ว ปลายทางคือจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้ผ่านมาลงกรุงเทพ เราแก้อะไรไม่ได้เลย และเราตั้งใจตอบสนองโครงการภูเก็ตแซนบ็อกซ์ด้วย เราเตรียมการมานานแล้ว การขอเอกสารการเดินทางต่างๆของผู้เข้าประกวดถึงสถานฑูตก็แจ้งไว้แบบนี้ เรามีการลงทุน จ่ายเงินถูกต้อง เราไม่ได้ขอสปอนเซอร์จากหน่วยราชการหรือจังหวัดภูเก็ต เค้าไม่ได้จ่ายเงินให้เราเลย เราวางมัดจำทุกอย่างไปเป็นหลักล้านนะครับ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินหน้าต่อ เราหวังเพียงว่าใครที่ไม่อนุญาตอะไรเราก็จะไม่เข้าไปในพื้นที่นั้นเท่านั้นเอง
เสียใจหรือไม่กับโอกาสที่จะทำเพื่อประเทศแต่ถูกริดรอนลง?
ไม่เสียใจนะ แต่เสียกำลังใจเพราะว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งถ้าเรารู้ว่ามันเป็นแบบนี้เราก็คงจะเปลี่ยนสถานที่ไปตั้งแต่แรก แต่ตอนแรกเรามั่นใจจากการแนะนำของผู้หลักผู้ใหญ่ และผมพยายามทำให้มันเกิดขึ้นได้จริงๆ เป็นอีเว้นท์แรกหลังโควิด และหลังจากมีแซนบ็อกซ์ และหลังจากเปิดประเทศ ถือเป็นอีเว้นท์แรกของภูเก็ตที่นานาชาติมามากที่สุด 70 ประเทศ และผมมีกฏให้ทุกคนโพสต์รูปโปรโมตภูเก็ตกลับไปที่เฟสบุ๊ค ไอจี ทุกๆวัน นี่ถือสิ่งที่ตั้งใจแต่ไม่เป็นไรครับ เราก็ทำเต็มความสามารถ ใครที่ไม่เห็นด้วยเราก็ไม่ว่าอะไร แต่สำหรับคนที่เห็นด้วยก็ขอบคุณมากๆครับ และหวังว่ามันจะมีค่ามหาศาลสำหรับเขา ในการจะกลับมายืนให้คนต่างชาติมองอีกครั้งว่าจังหวัดภูเก็ตน่ามาเยือนขนาดไหน แล้วพบกันที่ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนเป็นต้นไป
สุดท้ายผมฝากถึงพี่ๆน้องๆสื่อมวลชนในประเทศไทยและสื่อต่างชาติ ราว 30 สื่อ ผมชวนไว้ในงานแถลงข่าวที่ผ่านมา ซึ่งปกติผมเชิญสื่อมวลชนไปทุกครั้งไม่ว่าเราจะไปจัดจังหวัดใดก็ตามเพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ในจังหวัดนั้นๆเผยแพร่ข่าวและภาพในเชิงบวกและการท่องเที่ยว อาหาร วัฒนธรรม แต่สำหรับการประกวดที่จังหวัดภูเก็ต ต้องขออภัย พี่ๆน้องๆสื่อมวลชน เราต้องขอยกเลิกการเชิญสื่อทั้งหมด ด้วยเหตุผลว่าภูเก็ตไม่พร้อมที่จะให้พวกเราได้ทำงานอย่างสะดวกสบายและไม่อนุญาตในหลายพื้นที่ให้เราไปทำงาน คงไม่มีประโยชน์เพราะคนภูเก็ตบางกลุ่มก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ การประชาสัมพันธ์จากสื่อมวลชนทุกท่าน ในนามของกองประกวดขอโทษแทนคนภูเก็ตด้วยนะครับ เดี๋ยวมาจัดหนักตอนรอบการประกวดที่กรุงเทพแล้วกัน ณวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย