เรื่องที่สาวๆ ต้องรู้ ลิปสติกมีกี่ประเภท
ลิปสติก หนึ่งไอเทมสำคัญสำหรับสาวๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนไม่ได้มีลิปสติกกันแค่แท่งสองแท่งอย่างแน่นอน บางทีก็มีเยอะจนแฟนแอบบ่น แต่ก็เพราะทุกวันนี้ โลกเรามีลิปสติกให้เลือกซะหลายเฉดหลายเนื้อ เลยจะรู้ได้ไงว่าเนื้อแบบไหนเป็นยังไง เหมาะกับริมฝีปากหรือเปล่า วันนี้เรามีประเภทของลิปสติกมาฝากให้ได้รู้กัน
1.ลิปเนื้อแมตต์ (Matte Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้จะมีความเข้มข้นของสีมาก มีเนื้อด้านที่ไร้ความมันวาว ติดทนนาน แต่ทาแล้วริมฝีปากจะแห้งได้ง่าย อาจจะไม่เหมาะกับสาวๆที่ปัญหาปากแห้งเพราะจะทำให้ตกร่องและเป็นคราบได้ ดังนั้นก่อนทาอาจจะทาลิปบาล์มก่อนเพื่อความชุ่มชื้น
2.ลิปเนื้อครีม (Creamy Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้จะเป็นเนื้อครีมเนียนนุ่ม มีเม็ดสีที่มีสีสันชัดเจน ทาแล้วริมฝีปากมันวาว ไม่ทำให้ปากแห้ง และติดทนนานโดยไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีริมฝีปากสวยได้รูป ทาแล้วจะทำให้ปากดูอวบอิ่มมากขึ้น แต่อาจจะไม่เหมาะกับสาวๆ ที่มีรูปปากหนาอยู่แล้ว เพราะจะยิ่งทำให้ปากดูหนายิ่งขึ้น
3.ลิปเนื้อกลอส (Glossy Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเนื้อเหลว มีเนื้อสีบางๆ จะให้ความมันวาว ช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้น อวบอิ่มเป็นธรรมชาติ ทาแล้วเนียนกริบ ไม่มีปัญหาปากแห้งแตกเป็นร่องและเป็นขุย
4.ลิปเนื้อทินท์ (Tint Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเนื้อเหลว คล้ายกับลิปกลอสแต่จะหนืดน้อยกว่า ใช้ทาเพื่อเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปาก มักจะนิยมทาริมฝีปากบางๆ ด้านใน ใช้ทาคู่กับลิปกลอส จะทำให้ริมฝีปากดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มเสน่ห์ให้กับสาวๆ ได้เป็นอย่างดี
5.ลิปเนื้อลิควิดหรือลิปจิ้มจุ่ม (Liquid Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเนื้อเหลวแบบลิควิด เป็นลิปที่สาวๆ จะเรียกกันติดปากว่า “ลิปจิ้มจุ่ม” มีเม็ดสีที่ชัดเจน ติดทนนานมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นเนื้อมันวาวหรือเป็นเนื้อแมตต์
6.ลิปเนื้อเชียร์และซาติน (Sheer and Satin Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับลิปเนื้อครีม แต่จะมีเม็ดสีที่บางเบากว่า และไม่มันวาวมากจนเกินไป มีสีสันที่บางเบา ไม่เข้มเหมือนกับลิปเนื้อครีม เหมาะกับสาวๆที่ไม่ชอบทาลิปสติกสีจัด แต่อยากให้ริมฝีปากดูเนียนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถทาทับได้ตามต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นคราบ
7.ลิปเนื้อกำมะหยี่ (Velvet Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับลิปเนื้อแมตต์ ติดทนนาน แต่ทาแล้วปากไม่แห้งตึง เพราะยังคงความชุ่มชื้นไว้อยู่ ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มสุขภาพดี ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องปากแห้งลอกเลย
8.ลิปเนื้อเมทัลลิก (Metallic Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้มีเนื้อแบบเมทัลลิก มีความเข้มข้นของสี และมีประกายของเนื้อมุกทำให้ริมฝีปากแวววาว แต่ไม่มันเหมือนเนื้อกลอส ทำให้ริมฝีปากสวยดูอวบอิ่มแต่ไม่มันวาว
9.ลิปเนื้อฟรอสตี้ (Frosted Lipstick)
ลิปสติกประเภทนี้มีเนื้อสีเข้มข้นผสมกลิตเตอร์ มีความประกายมุกวิบวับ เมื่อทาแล้วจะทำให้ริมฝีปากดูเปล่งปลั่งสดใสและมีประกาย เม็ดสีชัดไม่มันวาวจนเกินไป เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ชอบให้ริมฝีปากแห้งและสาวๆที่มีริมฝีปากบาง เพราะจะทำให้ริมฝีปากดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
10.ลิปไลเนอร์ (Lip Liner)
ลิปสติกประเภทนี้มาในรูปแบบดินสอหรือแท่งหมุน ใช้สำหรับเขียนขอบปากให้ชัดเจนขึ้น มักจะใช้เป็นสีที่ใกล้เคียงกับลิปสติก จะช่วยเน้นให้เรียวปากดูคมชัดมากขึ้นและช่วยทำให้ทาลิปสติกได้ง่ายกว่าเดิม โดยไม่ต้องกังวลว่าลิปจะเลอะออกมานอกริมฝีปาก
11.ลิปเนื้อบาล์มหรือลิปมัน (Lip/Balm)
ลิปสติกประเภทนี้จะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีสี บางยี่ห้อทาแล้วอาจเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูบางๆ เป็นลิปแก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตกเป็นขุยได้อย่างดี ที่สำคัญยังนิยมใช้ทาก่อนลงลิปสติกอื่นๆเพื่อช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งและชุ่มชื้นมากขึ้นอีกด้วย