เปิดหัวใจเสาหลักอาจารย์พยาบาล กับบทบาทการทำงานอย่างทุ่มเทภายใต้ชุดสีขาว

เปิดหัวใจเสาหลักอาจารย์พยาบาล กับบทบาทการทำงานอย่างทุ่มเทภายใต้ชุดสีขาว

เปิดหัวใจเสาหลักอาจารย์พยาบาล กับบทบาทการทำงานอย่างทุ่มเทภายใต้ชุดสีขาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกต้องทำงานอย่างหนักเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว หนึ่งในนั้นคือพยาบาลที่ถือเป็นอีกเสาหลักในการต่อสู้เคียงข้างผู้ป่วยอย่างไม่ย่อท้อ เพราะต้องทำงานคลุกคลีอยู่กับสถานการณ์บีบคั้นของคนไข้ที่มียอดทะลุหลักหมื่นทุกวันในช่วงที่ผ่านมาตลอด 24 ชม. แม้ตอนนี้ยอดผู้ป่วยจะลดลงแล้ว แต่การทำงานของทีมพยาบาลยังคงต้องขับเคลื่อนต่อไปและด้วยบทบาทหน้าที่ที่ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงด้านสุขภาพและการทำงานที่ต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยและครอบครัว จึงทำให้อาชีพพยาบาลเป็นอีกหนึ่งงานที่ผู้ทำต้องมีใจรักและทุ่มเท จากภาพเบื้องหน้าที่เห็นจนชินตาว่าพยาบาลคอยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด แต่เบื้องหลังการทำงานหนักของพยาบาลนั้น มีแรงบันดาลใจอย่างไรบ้าง รศ.ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ และ ผศ.ดร.นรีมาลย์ นีละไพจิตร สองอาจารย์พยาบาล ที่สั่งสมประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ณ โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จะเป็นผู้เปิดเผยให้ฟังในบทความนี้

มูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดหัวใจเสาหลักอาจารย์พยาบาล กับบทบาทการทำงานอย่างทุ่มเทภายใต้ชุดสีขาวมูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดหัวใจเสาหลักอาจารย์พยาบาล กับบทบาทการทำงานอย่างทุ่มเทภายใต้ชุดสีขาว

เพราะใจรักในการช่วยเหลือผู้อื่น

รศ.ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์รศ.ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์
รศ.ดร.พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ตนชื่นชอบการทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็กๆ และชอบช่วยเหลือผู้อื่น พอตอนที่จะต้องเลือกเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย ก็มีความตั้งใจอยากจะทำอาชีพที่ได้ช่วยเหลือผู้คน จึงเลือกเรียนพยาบาล เมื่อเรียนจบจึงได้เลือกมาดูแลคนไข้สามัญ เพื่อที่จะได้ช่วยผู้ป่วยยากไร้ได้ตามความตั้งใจ”


จากเบื้องหน้าสู่เบื้องหลังแห่งการผลักดัน

“หลังจากทำงานเป็นพยาบาลได้ระยะหนึ่ง ก็มีอาจารย์พยาบาลจากโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ได้ชักชวนให้มาเป็นอาจารย์พยาบาล ตอนแรกก็ลังเล เพราะชอบการทำงานที่ได้อยู่กับคนไข้มากกว่า แต่คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะการเป็นอาจารย์คือการช่วยผลักดันพยาบาลรุ่นใหม่ให้ออกไปดูแลผู้ป่วยต่อไป จึงตัดสินใจรับโอกาสนั้น ช่วงที่เป็นอาจารย์ ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พอกลับมาจึงนำเอาความรู้ที่เรียนมาเปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต (อินเตอร์เนชั่นแนล) ที่สามารถรับนักศึกษาจากหลากหลายประเทศได้ เช่น พม่า เวียดนาม เนปาล อินโดนีเซีย เป็นต้น หลังจากนั้นก็ย้ายมารับตำแหน่งเป็นรองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร  คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จึงริเริ่มให้พยาบาลได้มีโอกาสถ่ายทอดความรู้ทางด้านสุขภาพสู่ประชาชน ผ่าน Rama Channel, YouTube Organization, Line Official ต่างๆ เพื่อให้เนื้อหาด้านสุขภาพเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น”

มูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดหัวใจเสาหลักอาจารย์พยาบาล กับบทบาทการทำงานอย่างทุ่มเทภายใต้ชุดสีขาวมูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดหัวใจเสาหลักอาจารย์พยาบาล กับบทบาทการทำงานอย่างทุ่มเทภายใต้ชุดสีขาว
พยาบาลนักสร้างสรรค์

“ช่วงแรกที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นช่วงที่ประชาชนมาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นจำนวนมาก เพราะอยากจะตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งประชาชนที่เข้ามามีคำถามเป็นจำนวนมาก และมักจะเป็นคำถามที่ซ้ำๆ กัน จึงมีความคิดว่าน่าจะส่งต่อความรู้ไปถึงประชาชน ดีกว่าให้ประชาชนเดินเข้ามาในโรงพยาบาล จึงได้จัดทำ Covid-19 Call Center ซึ่งเป็นสายด่วนให้ความรู้เรื่องโควิด-19 และเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการตอบคำถามโดย ทีมอาจารย์พยาบาล เพื่อตอบคำถามและให้ความรู้กับประชาชน ต่อมาพอสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มรุนแรงและยาวนานขึ้น ผู้คนก็มีความเครียดสะสมเพิ่มขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากเรื่องเศรษฐกิจและสุขภาพ  จึงได้เสนอให้อาจารย์ทางด้านจิตเวช และสุขภาพจิตมาช่วยดูแลตอบคำถาม โดยเฉพาะปัญหาทางด้านจิตใจ ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่างานของพยาบาลยุคใหม่ไม่ใช่แค่การดูแลสุขภาพกายผู้ป่วยเท่านั้น แต่ต้องดูแลไปถึงสุขภาพใจด้วยเช่นกัน”  รศ.ดร.พูลสุข กล่าว


กว่าจะสวมหมวกขาว

ผศ.ดร.นรีมาลย์ นีละไพจิตรผศ.ดร.นรีมาลย์ นีละไพจิตร

ผศ.ดร.นรีมาลย์ นีละไพจิตร อาจารย์พยาบาล สาขาวิชาการพยาบาลสุขภาพชุมชน กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการก้าวสู่อาชีพพยาบาลว่า “ในวัยเด็กตนได้ดูละครเรื่อง ‘กว่าจะสวมหมวกขาว’ จึงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนอยากมาเป็น พยาบาล หลังจากเรียนจบก็ได้มีโอกาสลงพื้นที่ไปช่วยดูแลผู้ป่วยในชุมชนต่างๆ ทั้งการทำกิจกรรมร่วมกับสมาคมแพทย์มุสลิม  เป็นจิตอาสา และการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้มากที่สุด จึงเลือกเรียนเพิ่มเติมด้านสาธารณสุขและตัดสินใจมาทำงานที่ ‘หน่วยบริการส่งเสริมสุขภาพและเยี่ยมบ้าน’  เพื่อสานต่อความตั้งใจอยากให้คนไทยเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพมากที่สุด จากนั้นได้ต่อยอดมาเป็นอาจารย์สาขาวิชาการดูแลสุขภาพชุมชนที่ โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดีในปัจจุบัน”


มรสุมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฐานะพยาบาล

“การทำงานในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ของบุคลากรทางการแพทย์ ทุกส่วนหนักขึ้นมากจริงๆ หากเทียบกับตอนที่ได้ออกพื้นที่ในชุมชนนั้น ยังสามารถจัดสรรเวลาในการออกไปทุกครั้งเท่าที่จำเป็นได้ หากวันไหนติดภารกิจก็จะมีทีมคนอื่นไปดูแลแทน แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ ไม่สามารถหยุดพักได้ และด้วยหน้าที่ที่ต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยยิ่งทำให้ ต้องทุ่มเททำงานมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทั้งคนไข้และพยาบาล ก็ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งในการสู้ไปด้วยกัน” ผศ.ดร.นรีมาลย์ กล่าว

แม้ยอดผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่เรายังคงต้องเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย เพราะเราคงต้องอยู่กับสถานการณ์นี้ต่อไป โรคนี้ยังคงอยู่ และไม่มีใครรู้ว่าจะมีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อใด แต่การปรับตัวและดูแลร่างกายให้แข็งแรง และสภาพจิตใจให้ดีก็เป็นอาวุธสำคัญที่จะทำให้เราก้าวต่อไปได้...

เพื่อสนับสนุนการผลิตบุคลากรการแพทย์ที่มีคุณภาพ ขอเชิญร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ “โครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ เพื่อสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์” บริจาคออนไลน์ www.ramafoundation.or.th สอบถามโทร 02-201-1111

ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดี “โครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ เพื่อสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์”
ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 879-2-00448-3
ธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 090-3-50015-5
ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 026-3-05216-3
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 072-1-35991-0

#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook