ทางเลือกใหม่ตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ด้วยการตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะ

ทางเลือกใหม่ตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ด้วยการตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะ

ทางเลือกใหม่ตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ด้วยการตรวจหาเชื้อ HPV จากปัสสาวะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากพูดถึงการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV เพื่อคัดกรองความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกแล้ว ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ยังไม่กล้าตรวจ ด้วยเหตุผลหลักคือ เขินอาย กลัวเจ็บ ยังเห็นเป็นเรื่องไกลตัว รวมทั้งไม่มีเวลาด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุมาจากจากการติดเชื้อ HPV บริเวณอวัยวะเพศโดยมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อาทิ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย การตั้งครรภ์หรือมีลูกหลายคน การมีประวัติเป็นกามโรค การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน หรือปัจจัยเสี่ยงร่วมอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ พันธุกรรม และการขาดสารอาหารบางชนิด ส่งผลให้อัตราการการป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงไทยพบมากถึงประมาณ 10,000 คนต่อปี เป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม และพบว่าในแต่ละปีมีผู้หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 5,200 คน หรือเฉลี่ยวันละ 14 คน ทั้งๆ ที่มะเร็งปากมดลูกนั้นเป็นมะเร็งที่ป้องกันและรักษาหายได้ถ้าตรวจพบในระยะเริ่มแรก


ห้องปฏิบัติการ บริษัท เนชั่นแนล เฮล์ทแคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) จึงขอชวนมาทำความรู้จักกับเทคนิคใหม่ในการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV จากปัสสาวะ โดยเป็นการตรวจหาเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูงที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA Genotyping ที่ N Health พัฒนาขึ้น ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผู้หญิงที่กลัวและรู้สึกอายในการตรวจภายใน ได้ตรวจดูว่ามีการติดเชื้อ HPV ในร่างกายหรือไม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนสตรีให้เข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมากขึ้นได้


สำหรับขั้นตอนการตรวจ จะทำการเก็บปัสสาวะใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดเชื้อ ให้มีปริมาตรอย่างน้อย 15-20 มิลลิลิตร นำส่งห้องปฏิบัติการ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 8-10 วัน หากตรวจพบว่าผลการตรวจเป็นบวกคือพบเชื้อไวรัส HPV จากปัสสาวะ แสดงว่ามีความเสี่ยงต้องเข้ารับการตรวจภายในเพื่อดูว่ามีเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกหรือไม่โดยสูตินรีแพทย์ต่อไป แต่หากพบว่าผลที่ได้เป็นลบคือไม่พบเชื้อ HPV ก็ควรที่จะตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไปนอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก เช่น การใช้ถุงยางอนามัยคุมกำเนิด การมีคู่นอนคนเดียว การฉีดวัคซีนHPV เป็นต้น

อย่างไรก็ตามการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV จากปัสสาวะ ไม่ใช่วิธีที่มาทดแทนการตรวจ Pap Smear แต่จะมีประโยชน์มากสำหรับกลุ่มผู้หญิงที่กลัวหรือรู้สึกอายและไม่ยอมเข้ารับการตรวจภายใน วิธีนี้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้หญิงได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมากขึ้นสามารถ ลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกลงได้ แต่สำหรับผู้หญิงที่ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกโดยการตรวจทางเซลล์วิทยาของปากมดลูก หรือ Pap Smear อยู่แล้วเป็นประจำทุกปีโดยสูตินรีแพทย์ วิธีการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV จากปัสสาวะก็ไม่จำเป็น เนื่องจากการตรวจด้วย Pap Smear เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำที่สุดอยู่แล้ว 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook