เมนูอาหารลูกน้อย "สลัดมันฝรั่ง" สูตร(ไม่)ลับ แสนอร่อย

เมนูอาหารลูกน้อย "สลัดมันฝรั่ง" สูตร(ไม่)ลับ แสนอร่อย

เมนูอาหารลูกน้อย "สลัดมันฝรั่ง" สูตร(ไม่)ลับ แสนอร่อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

EP66 สลัดมันฝรั่ง (Potesara) รสชาติตะวันตกในครัวญี่ปุ่น

คุณแม่ปอมยอมรับค่ะว่า หลังๆ มานี่ อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสนุกสนานในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ แต่ไปที่ไหนไม่สนุกเท่าการไปญี่ปุ่นที่ไปได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาลูกเล็กเด็กแดงและเหล่าสูงวัยในเวลาเดียวกัน นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันในการใช้ชีวิตของทุกวัยแล้ว ต้องยอมรับค่ะว่าน่าจะเป็นประเทศเดียวมั้งที่เรื่องอาหารก็ตอบโจทย์ทุกวัยและไม่เคยทำให้ผิดหวังเช่นกัน ร้านรวงใหญ่โตไม่ต้องพูดถึง แต่ในวันที่ลูกน้อยหรือคนชราไม่พร้อมที่จะไปออกไปทานข้าวข้างนอกทุกมื้อ เราก็หันไปเพิ่งอาหารในซุปเปอร์มาเกต หรือ อาหารจากร้านคอมบินิ (ร้านสะดวกซื้อ)แทน เมนูที่ตราตรึงหัวใจอย่าง แซนวิชไข่นุ่มนิ่มที่ซื้อให้ลูกทานตอนเช้า ของว่างติดกระเป๋าอย่างผักสดจิ้มซอสมิโซะ  จานหลักอย่างข้าวปั้นไส้ต่างๆ สปาเกตตี้สไตล์ญี่ปุ่นทั้งซอสมะเขือเทศไส้กรอกนโปลิตัน หรือซอสเนยกับไข่ปลาเมนไทโกะก็รสชาติติดดาวเลยทีเดียว อีกเมนูนึงต้องพูดถึงให้ได้ คือ โพเตซารา (Potesara) หรือ สลัดมันฝรั่ง ที่จะต้องหยิบใส่ตระกร้า ตัวชื่อนั้นมาจากคำที่ผสมผสานศัพท์โรมันและภาษาญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน สลัดมันฝรั่งของญี่ปุ่น มีส่วนผสมประกอบไปด้วยมันบดที่คลุกเคล้ามากับ แตงกวา แครอท ไข่ต้ม หัวหอม บางทีใส่แฮมด้วย โดยจะใช้ซอสมายองเนสเป็นตัวเชื่อมความอร่อยทั้งหมดเข้าด้วยกัน  วันนี้แม่ปอม รัตมา พงศ์พนรัตน์ พรชำนิ ขอเปลี่ยนความคิดถึงเป็นจานจับต้องได้แทน เลยจะขอแบ่งสูตรลับของ สลัดมันฝรั่ง ที่รับรองว่าเมื่อได้ลิ้มรสจะนึกถึงความทรงจำที่ดีของการเดินทางให้หวนกลับมาอีกครั้ง 


อาหารที่ดัดแปลงเมนูตะวันตกมาผสมผสานกับรสชาติของชาวญี่ปุ่นที่ละมุนนุ่มนวลกว่าต้นฉบับทั้งของหวานและของคาว คนญี่ปุ่นจะเรียกมันว่าอาหารแบบนี้ว่า โยโชกุ อันที่จริง โยโชกุ นั้นเริ่มมีบทบาทเข้ามาในการดำรงชีวิตของคนญี่ปุ่นทั่วไปซึ่งถือว่าเป็นผลพลอยได้ของการฟื้นฟูประเทศในสมัยเมจิ (1868-1912) ที่เชื่อว่าประเทศจะคลับเคลื่อนด้วยประชาชนที่มีสุขภาพดี ที่ได้จากโภชนาการที่มีประโยชน์แบบชาวตะวันตก เชื่อไหมคะว่าครั้งนึง อาหารฝรั่งเศส ยังเคยจัดให้เป็นอาหารทางการของรัฐบาลอีกด้วยที่ใช้จัดเลี้ยงแทนอาหารญี่ปุ่น จากนโยบายของรัฐบาล สู่ความนิยมในหมู่ชนชั้นสูง ในที่สุดอาหารโยโชกุก็เข้ามาสู่ครัวเรือนอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเมจิ ที่ทำให้มีการพัฒนาผสมผสานสูตรอาหารฝรั่งญี่ปุ่นอย่างแพร่หลาย เมนูที่คุ้นเคยกันดีได้แก่ หมูทอดคัตเลต (หมูชุบขนมปังป่นทอด โยโชกุจานแรกที่ภายหลังพัฒนามาเป็น หมูทงคัตสึ) เลยทีเดียว ข้าวห่อไข่ โคโรเกะ ข้าวแกงกะหรี่ สปาเก็ตตี้นโปลิทัน เป็นต้น สำหรับสลัดมันฝรั่งมีหลักฐานปรากฏครั้งแรกในตำราทำอาหารที่มีชื่อว่า Western Cooking Method (1896)” โดยระบุวิธีทำมายองเนสที่นำมาปรุงรสเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยชาวญี่ปุ่นคาดว่าได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารตะวันตกของประเทศรัสเซียอีกที่มีชื่อว่า Olivier Salad สูตรดั่งเดิมจะใช้มันฝรั่งหั่นเต๋า  แตงกวาดอง ไก่ต้ม และมีมายองเนสเป็นเครื่องปรุงหลักแต่มีน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชูและมัสตารด์เข้าไปด้วย

คุณแม่ปอมคิดว่าไม่ค่อยมีเด็กคนไหนปฏิเสธมันบดทาน มีเพียงฟันคู่หน้าก็ทานได้แล้วค่ะ เมนูนี้จึงถือว่าเป็นเมนูซ่อนผักที่นับว่าได้ผล เราสามารถซ่อนผักได้มากมายหลายชนิดอีกด้วยโดยทำไปนึ่งก่อน แล้วสับเป็นชิ้นเล็กๆ กรุงโรมไม่ได้สร้างภายในวันเดียวชั้นใด ความยอมรับในการรับประทานผักก้เช่นกัน เราแค่ต้องแทรกซึมเข้าไปบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกตินะคะ วิธีรับประทานสลัดมันฝรั่งทำได้หลายรูปแบบเลย จะทานเป็นของว่าง ทำเป็นแซนวิช ทานเป็นเครื่องแนมกับปลาทอด หรือใช้เป็นเครื่องจิ้ม อย่างตอติย่าชิพ  หรือจิ้มผักสด ผักนึ่ง เฟรนช์ฟรายส์ได้หมดค่ะ ลองไปดูวิธีทำกันค่ะ


เครื่องปรุง

  • มันบด 1 ถ้วย
  • แตงกวา
  • แครอท
  • หอมแขก
  • ไข่ขาว 2 ใบสับ
  • แฮมสับ
  • น้ำปรุงรส
  • ไข่แดง 2 ใบ
  • มายองเนส
  • มัสตาด
  • เกลือ
  • น้ำส้มสายชู
  • น้ำมันมะกอก




    วิธีทำ

หลักการง่ายๆเลยคะคุณแม่ขอแบ่งเป็นสองขั้นตอนเท่านั้น คือ 1)การทำน้ำปรุงรสและ 2)การคลุกให้เข้ากันแบบการทำสลัดปกติ เราจะเริ่มจากน้ำปรุงรสก่อน นำส่วนผสมของน้ำปรุงรสมาตีให้เข้ากัน จะได้น้ำซอสค้นเหนียวๆ ออกสามรสเท่าๆ กัน เบาๆ ไม่จัดจ้านไปทางใดทางหนึ่ง เพิ่มเติมคือความมันของไข่แดงต้มสุกที่แม่คิดว่ารสชาติมัน มัน ครีม ครีม น่าจะเป็นจุดที่ช่วยในการเจริญอาหาร อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวของคุณแม่ปอมเองคะ สูตรดั่งเดิมเขาจะใส่ไข่สับทั้งใบลงไปคลุก แต่ด้วยความที่เป็นแฟนพันแท้ของมายองเนสที่ต้นทางขึ้นจากไข่แดงดิบ เลยอยากจะเพิ่มความมันจากไข่แดงต้มสุกไปที่ตัวซอสน้ำสลัดก่อนเท่านั้นเอง เพียงจุดเล็กๆก็ทำให้ความอร่อยพี้คไปอีกเลเวลนึงค่ะ หลังจากทำน้ำปรุงเสร็จ เราก็เอาเครื่องเคราทุกอย่างที่เราเตรียมไว้ลงมาคลุกให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ เคล็ดลับสุดท้ายที่แนะนำคือ อย่าเพิ่งเสริฟนะคะ นำสลัดในจานผสมไปแช่ตู้เย็นสัก 20 นาทีก่อน ให้เครื่องปรุงของเราซึมความอร่อยเข้าไปในทุกอณู สุดที่รักของเราจะได้อร่อยเย็นฟันในทุกคำทำเคี้ยวลงไป


พบกันใหม่เดือนหน้าขอให้มีความสุขกับการเลือกทำอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเป็นพื้นฐานที่ดีในการรับประทานอาหารของลูกน้อยในอนาคตค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook