5 สาเหตุสำคัญ! เรียนออนไลน์ทำให้เด็กเสียสุขภาพ
ด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงไม่ดีขึ้น ส่งผลให้การเรียนของเด็กๆ หลายคน หรือแทบจะเป็นส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ ยังคงต้องเรียนออนไลน์เหมือนเดิม และไม่อาจทราบได้ว่าจะสามารถกลับมาเรียนในห้องเรียนเหมือนปกติได้เมื่อใด และถึงแม้ว่าเด็กๆ จะพยายามปรับตัวเข้ากับวิธีการเรียนในแบบใหม่นี้มากแค่ไหนก็ตาม ผลเสียที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพของเด็กๆ ที่เกิดจากการเรียนออนไลน์ ก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย ดังนั้นเราจึงขอรวบรวมเอา 5 สาเหตุสำคัญที่การเรียนออนไลน์ส่งผลให้เด็กเสียสุขภาพมาแบ่งปันให้พ่อแม่ได้ทราบกันค่ะ เพื่อที่อย่างน้อยจะสามารถหาทางป้องกันได้มากขึ้น
1.แสงสีฟ้า
หน้าจอมือถือ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน ล้วนปล่อยแสงสีฟ้าหรือที่รู้จักกันในชื่อ Blue Light ที่มีคลื่นพลังงานสูง และมีความสามารถที่จะทะลุทะลวงได้ถึงจอประสาทตา รวมทั้งสามารถทำลายกระจกตาหรือจอประสาทตาได้ นั่นจึงเข้าใจได้ว่าแสงสีฟ้าส่งผลต่อสุขภาพตาของเด็กๆ โดยตรง อีกทั้งยังส่งผลไปถึงฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องของการนอน ทำให้ลูกนอนหลับไม่สนิทหรือหลับยาก พ่อแม่จึงควรใช้อุปกรณ์ต่างๆ หรือหน้าจอที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้
2.แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ
นอกจากแสงจากหน้าจอสว่างไม่เพียงพอ แสงบริเวณโดยรอบก็มีส่วนทำให้เสียสุขภาพในช่วงเรียนออนไลน์ได้เช่นกัน เพราะเมื่อใดที่แสงสว่างไม่มีความเหมาะสม ย่อมทำให้ดวงตาของเด็กๆ ต้องทำงานหนัก และส่งผลให้ดวงตาเกิดความเหนื่อยล้าเพื่อปรับแสง ดังนั้นจึงควรปรับแสงให้มีความพอดี ไม่ควรสว่างหรือมืดเกินไปจะช่วยลดปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการเรียนออนไลน์ได้มากขึ้น
3.ขนาดหน้าจอเล็ก
ขนาดหน้าจอที่เล็ก หรือขนาดตัวหนังสือที่เล็กจนเกินไป ส่งผลให้เด็กต้องจ้องหน้าจอในระยะใกล้กับหน้าจอมากจนเกินไป และนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาสายตาสั้นได้เร็ว แถมยังเสี่ยงทำให้สายตาสั้นมากอีกด้วย ทั้งนี้ควรให้ลูกปรับขนาดตัวหนังสือให้พอดี และเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม โดยระยะห่างระหว่างตากับหน้าจอควรอยู่ที่ 20-28 นิ้วถือว่าเหมาะสมที่สุด
4.ใช้เวลาจ้องหน้าจอหลายชั่วโมง
การที่ลูกจ้องหน้าจอนานหลายชั่วโมง ไม่เพียงแต่ทำให้ได้รับแสงสีฟ้ามากเท่านั้น แต่ยังทำให้ดวงตาเกิดอาการล้าจากผลของการกะพริบบนหน้าจอ หรือที่เรียกว่า Flicker Effect แม้จะเห็นว่าหน้าจออยู่นิ่ง แต่ความจริงแล้วความนิ่งนั้นเกิดจากการกะพริบถี่ๆ อยู่ตลอดเวลา และถี่จนเกินกว่าจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นถ้าจ้องหน้าจอหลายชั่วโมงหรือเป็นเวลานาน ก็ย่อมทำให้ดวงตาเมื่อยล้าจากการรับแสงสีฟ้านาน และดวงตาทำงานหนักจากการที่หน้าจอสั่นไหว แถมยังเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรค Computer Vision Syndrome ซึ่งจะมีอาการตาล้า ตาแห้ง แสบตา เคืองตา ตาพร่ามัว ตาไม่สู้แสง โฟกัสภาพได้ช้า รวมทั้งอาจมีอาการปวดต้นคอ ปวดหลัง และปวดไหล่ร่วมด้วย
5.อยู่ในท่านั่งที่ไม่เหมาะสม
การนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมขณะเรียนออนไลน์ เช่น ก้มหน้าและนั่งหลังค่อมเป็นเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง จนส่งผลให้มีอาการเมื่อยล้า ปวดคอ และปวดหลังได้ จึงควรปรับหน้าจอให้อยู่ในระดับเดียวกับสายตาจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ดี
แม้ว่าสาเหตุดังกล่าวที่เราได้กล่าวไปข้างต้นจะเป็นเรื่องที่หลายๆ คนต่างรู้ดี แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่อยปละละเลยเด็ดขาด เพราะผลเสียที่เกิดขึ้นกับร่างกาย โดยเฉพาะจากการนั่งเรียนออนไลน์นั้น มีโอกาสทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ในระยะยาวนั่นเอง