เปิดตำราเลี้ยงลูกฉบับ "เดวิด-วิคตอเรีย เบคแฮม" และ 10 คำแนะนำสำหรับพ่อแม่

ใครที่เป็นแฟนคลับของบ้านเบคแฮม คงจะได้เห็น ‘บรูคลิน เบคแฮม’ บนหน้าสื่อครั้งล่าสุด ที่ลูกชายคนโตของบ้านเบคแฮมไปปรากฏตัวในวิดีโอทำอาหารของ Vogue ซึ่งในคลิปวิดีโอนั้นเหล่าแฟนคลับต่างประทับใจในนิสัยติดดินและมารยาทอันไร้ที่ติของเขา ถึงแม้ว่าการมีพ่อแม่เป็นคนดังระดับโลกอย่าง ‘เดวิด เบคแฮม’ และ ‘วิคตอเรีย เบคแฮม’ จะสามารถทำให้บรูคลินวัย 22 ปีกลายเป็นเด็กสปอยล์ได้อย่างง่ายดาย แต่กลับกันว่าบรูคลินเติบโตมาอย่างดีพร้อมกับพี่น้องอีก 3 คน ได้แก่ โรมีโอ 19 ปี, ครูซ 16 ปี และฮาร์เปอร์ 10 ปี

เราจึงเกิดคำถามว่าวิคตอเรียและเดวิดสามารถเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 4 คนอย่างไรให้เติบโตมาสุภาพอ่อนน้อม และเป็นที่รักที่เอ็นดูของคนทั่วโลก ท่ามกลางสื่อโซเชียลมีเดียที่คอยจับตามองทุกชั่วขณะ ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เผยกับสื่อบ่อยครั้งถึงการที่พวกเขาพยายามเลี้ยงดูให้ลูกๆ เติบโตมาอย่างครอบครัวปกติธรรมดามากที่สุด และวันนี้เราได้รวบรวมทุกคำสอนสำคัญสำหรับพ่อแม่มาฝากทุกคนกัน

บรูคลิน, โรมีโอ, ครูซ และฮาร์เปอร์ เบคแฮม

สนับสนุนให้ลูกช่วยเหลืองานในบ้าน
ในช่วงโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ทุกครอบครัวต้องกักตัวอยู่รวมกันในบ้านตลอดเวลา รวมถึงบ้านเบคแฮมด้วยเช่นกัน นอกจากการเรียนออนไลน์จากบ้านแล้ว เรายังได้เห็น ‘ฮาร์เปอร์ เบคแฮม’ ลูกสาวคนเล็กของบ้านเป็นลูกมือช่วยคุณพ่ออบขนม ไปจนถึงวิดีโอน่ารักที่เธอรับบทเป็นคนพาสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านไปนั่งดูหนัง

ครอบครัวเบคแฮม
“Family Time” เป็นสิ่งสำคัญ
การที่ลูกทั้ง 4 คนมีช่วงอายุที่ห่างกันตั้งแต่ 10 ขวบถึง 22 ปี แถมหนุ่มบรูคลินยังมีแพลนจะแต่งงานกับคู่หมั้น ‘นิโคลา เพลต์ซ’ ทำให้การรวมตัวสมาชิกทุกคนเพื่อใช้เวลาร่วมกันอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ลูกชายคนโตของบ้านก็ให้สำคัญเรื่องนี้เป็นลำดับแรกเสมอ

วิคตอเรียเผยกับสื่อ Grazia ในปี 2015 ว่า “ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่มีสามีที่ยอดเยี่ยม และมีลูกๆ ที่น่ารัก แข็งแรง มีความสุข พวกเราเดินทางท่องเที่ยวกันบ่อยมาก แม้ทุกคนจะมีธุรกิจและภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเราจะหาเวลาให้กันเสมอ ทั้งในฐานะสามีภรรยาและครอบครัว”

ครอบครัวเบคแฮม
เปลี่ยนบ้านเป็นพื้นที่สนุก (แต่ต้องไม่ลืมจับตามอง!)
เราชอบคำแนะนำข้อหนึ่งจากวิคตอเรียสำหรับผู้ปกครองที่ต้องคอยดูแลบ้านที่เต็มไปด้วยวัยรุ่น อดีตสมาชิกวง Spice Girls เผยกลางรายการสดถึงลูกทั้ง 4 คนว่า “ต้องยอมรับเลยว่าฉันมีลูกเยอะมาก ฉันมักจะพูดอยู่เสมอว่ามันไม่ใช่เรื่องของการเป็นพ่อแม่ แต่เป็นเรื่องของการควบคุมฝูงชนเสียมากกว่า ถ้าคุณมีลูกเยอะขนาดนี้น่ะ จริงไหม?”

วิคตอเรียยังเล่าเสริมอีกว่า “เด็กๆ ทั้ง 4 คนจะพาเพื่อนมาบ้านตลอด เพราะงั้นเวลาเรากลับมาถึงบ้านตอนเย็น จะมีเด็กอยู่เต็มบ้านไปหมด” ซึ่งเธอทิ้งท้ายติดตลกว่าการปล่อยให้เด็กๆ ได้เล่นเต็มที่และรู้สึกว่าบ้านไม่ใช่พื้นที่น่าเบื่อเป็นเรื่องดี แต่ต้องอย่าลืมคอยจับตาดูว่าเด็กทุกคนกลับบ้านมือเปล่า และภาพวาดยังอยู่บนผนัง!

ครอบครัวเบคแฮม
ไม่มีคำว่าเด็กเกินไปสำหรับมารยาท
ทั้งเดวิดและวิคตอเรียได้เผยกฎข้อสำคัญของบ้านเบคแฮม นั่นก็คือลูกๆ ทุกคนจะต้องมีมารยาทและสุภาพเสมอ “พวกเขา(ลูกทุกคน) ถูกสอนให้พูดคำว่า Please และ Thank You ตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ” ซึ่งครั้งหนึ่งเดวิดได้เผยกับสื่อ Daily Mail โดยวิคตอเรียออกมายืนยันผ่านบทสัมภาษณ์อีกอันหนึ่งว่า “พวกเราเป็นพ่อแม่ที่เข้มงวด” วิคตอเรียเล่ากับสื่อ Good Morning Britain ว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฉันและเดวิดมาก ที่ลูกของพวกเราจะต้องมีมารยาท”

วิคตอเรีย และโรมีโอ เบคแฮม
ต้องคอยสอดส่องโซเชียลมีเดีย
พูดได้ว่าตอนนี้บรูคลินเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว และเราคาดเดาได้ว่าเขามีสิทธิ์ในการใช้โซเชียลมีเดียของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปจะพบว่าในวันที่เขาอายุได้เพียง 15 ปี และมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมสูงถึง 4.4 ล้านคน เดวิดเผยกับสื่อ ABC ว่า “เราดูทุกอย่างที่เขาโพสต์ ทุกอย่างที่เขาทำ และเราทำแบบนี้กับลุกทุกคน”

เดวิด, บรูคลิน และโรมีโอ เบคแฮม
วางแผน วางแผน และวางแผน
แน่นอนว่าชีวิตทุกคนยุ่งวุ่นวาย และถ้าคุณเป็นครอบครัวเบคแฮมแล้วล่ะก็ เชื่อว่าคุณจะต้องยุ่งจนหัวหมุนอย่างแน่นอน ทำให้คุณจะต้องวางแผนทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่เรื่องงานจนถึงครอบครัว “ฉันไม่ได้เดินทางบ่อยนัก” วิคตอเรียเผยกับสื่อ The Telegraph “เดวิดและฉันตกลงกันว่าเราจะไม่เดินทางไปไหนพร้อมกัน เพื่อที่จะได้มีคนใดคนหนึ่งคอยอยู่บ้านกับลูกๆ”

วิคตอเรีย และฮาร์เปอร์ เบคแฮม
สอนให้ลูกรู้จักกตัญญู
วิคตอเรียเผยกับสื่อ Grazia ว่าอีกหนึ่งคำสอนที่บ้านเบคแฮมยึดถือเป็นเหมือนหัวใจหลักก็คือ “เดวิดและฉันอธิบายให้เด็กๆ ฟังเสมอถึงอภิสิทธิ์ที่พวกเขามีในชีวิต เราบอกลูกๆ ว่าบนโลกนี้ยังมีเด็กอีกหลายคนที่ไม่มีอาหารจะกิน ไม่มีบ้านจะอยู่ และป่วย พวกเขาจึงเข้าใจดีถึงความสำคัญของการช่วยเหลือคนอื่น อย่างเมื่อต้นปีที่โรมีโอลงแข่งวิ่งมาราธอนของเด็ก ซึ่งเขาสามารถระดมเงินจากสปอนเซอร์ได้เยอะมาก ก่อนเขาจะนำไปมอบให้องค์กรการกุศลของเดวิดและ UNAIDS”

เดวิด,โรมีโอ, ครูซ และฮาร์เปอร์ เบคแฮม
เป็นตัวอย่างที่ดี
เดวิดและวิคตอเรียแสดงออกอย่างชัดเจนว่าลูกๆ ของพวกเขาสำคัญและมาก่อนเรื่องอื่นเสมอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านการงานของพวกเขาจะลดน้อยลง เดวิดเล่าว่า “เราจัดสรรเวลาทุกอย่างตามครอบครัว เพราะลูกของพวกเราสำคัเป็นอันดับแรก มันง่ายดายและเป็นแบบนั้นมาตลอด แต่คุณห้ามลืมที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกว่าต้องมีความรับผิดชอบและตั้งใจทำงาน”

ในปี 2015 วิคตอเรียเคยโทรนัดกินข้าวกับดีไซเนอร์ชื่อดัง ไดแอน วอน เฟิร์สเทนเบิร์ก เพื่อปรึกษาเรื่องการทำงานและการเป็นแม่ “ฉันนัดกินข้าวเย็นกับไดแอนเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งเธอเป็นผู้หญิงที่ฉันยกย่องและนับถือมากๆ” เธอเล่าเสริมว่า “ฉันถามเธอว่า ตอนที่ลูกคุณยังเด็กกว่านี้ แล้วคุณยังทำงานไปด้วย คุณรู้สึกผิดไหม เธอตอบว่า ไม่เลย การนั่งรู้สึกผิดเป็นเรื่องที่เสียทั้งเวลาและพลังงาน จริงๆ แล้วคุณกำลังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกในแง่ที่ว่าคุณเป็นผู้หญิง และคุณยังออกไปทำงานอีกด้วย”

บรูคลิน, โรมีโอ, ครูซ และฮาร์เปอร์ เบคแฮม
จรรยาบรรณคือสิ่งสำคัญ
อาจพูดได้ว่า วิคตอเรีย เบคแฮม คือหนึ่งในคนที่ทุ่มเทให้กับงานมากที่สุด เธอเป็นป็อปสตาร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในโลก รวมถึงยังเปิดแฟชั่นเฮ้าส์ของตัวเองหลังออกจากวง Spice Girls แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่เธอจะอยากปลูกฝังจรรยาบรรณในการทำงานให้กับลูกๆ เช่นกัน และแม้ว่าเธอกับเดวิดจะมีทรัพย์สมบัติราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบรูคลินจะไม่ต้องไปทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟเพื่อค่าแรง 2.87 ปอนด์ต่อชั่วโมง

เร็วๆ นี้เธอได้ให้สัมภาษณ์ถึงลูกๆ ว่า “พวกเขาไม่ใช่เด็กประเภทที่จะอยู่บ้านและไม่ทำอะไรเลย พวกเขาจะทำงานอย่างแน่นอน”

เดวิด และบรูคลิน เบคแฮม
ลูกจะเติบโตและเลือกเส้นทางของพวกเขาเอง
แฟนคลับต่างรู้ดีว่าไม่ใช่แค่เดวิดที่เป็นแฟนฟุตบอลตัวยง แต่ลูกชายทั้งสามของเขาเองก็เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นเช่นเดียวกัน อันที่จริงในบ้านเบคแฮมไม่ได้มีการกดดันว่าลูกชายจะต้องเดินตามรอยเท้าพ่อแต่อย่างใด ลูกชายคนโตของบ้าน บรูคลิน เผยกับ Teen Vogue ในปี 2015 ถึงความชอบและความสนใจว่า “ผมรักฟุตบอล แต่ขณะเดียวกันผมก็หลงใหลการถ่ายรูปและภาพยนตร์เอามากๆ ผมจึงยังไม่ตัดสินใจว่าจะเดินไปทางไหนตอนนี้” และในปัจจุบันบรูคลินยังหันมาไล่ตามความฝันด้านการทำอาหารผ่านรายการ Cookin’ with Brooklyn อีกด้วย