มันจึ้งมาก! ข้อความบนกระดาษชำระในห้องน้ำหญิงที่ช่วยสะท้อนปัญหาสังคม

มันจึ้งมาก! ข้อความบนกระดาษชำระในห้องน้ำหญิงที่ช่วยสะท้อนปัญหาสังคม

มันจึ้งมาก! ข้อความบนกระดาษชำระในห้องน้ำหญิงที่ช่วยสะท้อนปัญหาสังคม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จริงไหมคะว่าเพศหญิงเป็นเพศอ่อนแอจึงต้องถูกกระทำเสมอไป? ปัจจุบันจะพบเห็นข่าวที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายถูกเอาเปรียบและถูกทำร้ายอยู่บ่อยๆ แม้แต่ที่ญี่ปุ่นเองก็มักมีเหตุการณ์ที่ผู้หญิงถูกลวนลามหรือโดนคุกคามในที่สาธารณะอยู่บ่อยครั้ง จึงจำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ผู้หญิงโดยเฉพาะ เช่น โบกี้รถไฟเฉพาะสำหรับผู้หญิง เป็นต้น

ในครั้งนี้ก็มีอีกหนึ่งไอเดียของคนญี่ปุ่นที่อยากจะมาแชร์ข้อมูลให้กันค่ะ ไอเดียนี้ทำขึ้นมาสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะเช่นกัน นั่นคือการพิมพ์ข้อความลงบนกระดาษชำระในห้องน้ำ ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับในโลกโซเชียลดีทีเดียวเลยล่ะค่ะ

ไอเดียนี้อยู่ในห้องน้ำหญิงในห้างแห่งหนึ่งที่เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโกะ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อกำจัดความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งข้อความที่อยู่บนกระดาษชำระในห้องน้ำนั้นจะเป็นการส่งข้อความถึงผู้หญิงที่ถูกกระทำรุนแรงจากสามีหรือแฟน ซึ่งข้อความบนกระดาษชำระนั้นก็คือ “การชกต่อยคือการแสดงความรักเหรอ?”, “ขอโทษนะ แต่การทำร้ายร่างกายจะเป็นความรักได้ยังไงกัน”, “กลัวสามีที่ใช้ความรุนแรง, กลัวแฟนที่ชอบตะคอกใส่ ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัว นี่อาจจะเป็นความรุนแรงในครอบครัวก็ได้นะ”, “ต้องถูกตามเช็คข้อความตลอดแบบนี้ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”

ผลลัพธ์ของการส่งต่อข้อความบนกระดาษชำระในห้องน้ำหญิง
ข้อความชวนคิดต่างๆ บนกระดาษชำระที่เน้นไปที่เนื้อหาการถูกกระทำจากการใช้ความรุนแรงนั้นเรียกได้ว่าโดนใจคนที่พบเห็นจนได้รับเสียงตอบรับในโซเชียลดีทีเดียวล่ะค่ะ ดีถึงขั้นว่ามีข้อเสนอว่าอยากจะให้มีทุกที่เลยด้วยซ้ำ ซึ่งหลังจากผู้ใช้ทวิตเตอร์คุณ “sakk0_zzz” ได้เผยแพร่รูปกระดาษชำระที่มีข้อความดังกล่าวนี้ออกไปก็มีคนกดใจให้มากกว่า 98,000 ครั้ง พร้อมข้อความทวิตแสดงความคิดเห็นชนิดถล่มทลายในทางที่ว่า “เป็นไอเดียที่ดีมากๆ”, “นี่มันสุดยอดไอเดีย”, “ตอนเข้าห้องน้ำแบบไม่คิดอะไรพอได้มาเจอข้อความก็อาจจะฉุกคิดอะไรได้บ้างล่ะ!”
นอกจากนี้กระดาษชำระที่ถูกพิมพ์ข้อความลงไปยังถูกส่งต่อไปมากกว่า 5,000 ชิ้นเลยด้วย

 

นอกเหนือจากข้อความข้างต้น ก็ยังมีอีกหลายๆ ข้อความในลักษณะที่คล้ายคลึงกันที่มีความหมายให้ผู้อ่านได้ฉุกคิดถึงความเป็นจริงว่าสิ่งที่เราต้องทนอยู่ทุกวันนี้มันถูกต้องแล้วหรือ? ซึ่งข้อความต่างๆ เหล่านี้เป็นหนึ่งในแคมเปญ “Purple Ribbon” ที่เน้นการกำจัดปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงตั้งแต่ปี 2017 ค่ะ

ทำไมต้องห้องน้ำหญิง?
เหตุผลที่เลือกห้องน้ำหญิงก็เพราะว่าเป็นที่ๆ ปลอดภัยจากสายตาผู้ก่อเหตุ และเป็นที่ๆ เข้าถึงผู้หญิงที่เป็นเหยื่อได้ง่ายด้วย อีกอย่างหนึ่งก็คือ เนื่องจากบนกระดาษชำระจะระบุเบอร์โทรศัพท์ของช่องทางให้คำปรึกษาด้านความรุนแรงในครอบครัวสำหรับคุณผู้หญิงอยู่ด้วย ดังนั้นถ้าจะต้องการส่งข้อความถึงเหยื่อโดยไม่ให้ผู้ก่อเหตุรู้เท่าทัน แทนที่จะเขียนเป็นข้อความลงในกระดาษหรือส่งข้อความผ่านอีเมลที่อาจเหลือเป็นหลักฐานเอาไว้ได้ จึงเลือกที่จะพิมพ์ลงบนกระดาษชำระที่สามารถย่อยสลายไปกับน้ำได้นั่นเองค่ะ

ปัญหา DV กับสังคมของญี่ปุ่น
DV ย่อมาจากคำว่า Domestic violence หมายถึง “เรื่องความรุนแรงในครอบครัว” ที่ไม่ได้มีความหมายเฉพาะการทำร้ายร่างกายอย่างเดียว แต่มีความหมายรวมถึงการทำร้ายจิตใจอีกด้วย ซึ่งปัญหา DV เป็นปัญหาร้ายแรงที่ไม่ควรละเลยและจำเป็นต้องขจัดให้หมดสิ้นจากสังคมปัจจุบัน แต่ปัญหาคือผู้เสียหายบางคนกลับทนอยู่โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาที่ต้องขอความช่วยเหลือ หรือบางคนอาจจะอับอายและไม่กล้าบอกใคร ซึ่งบางครั้งกว่าจะได้รับการช่วยเหลือก็อาจสายเกินแก้แล้วก็ได้

จากข้อมูลขององค์กรส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศกทำให้รู้ว่า เหยื่อจากการใช้ความรุนแรงส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง มีผู้หญิงถึง 1 ใน 4 ที่บอกว่า “เคยถูกคู่สมรสใช้กำลังรุนแรง” และมี 1 ใน 10 ที่ “เคยถูกกระทำมากกว่า 1 ครั้ง” ด้วย การถูกกระทำรุนแรงนั้นมีได้หลายรูปแบบ ทั้งการทำร้ายร่างกาย ทำร้ายจิตใจ การบีบบังคับทางเพศ เป็นต้นค่ะ

เป็นที่น่าตกใจว่าความรุนแรงในสังคมญี่ปุ่นนั้นเพิ่มสูงขึ้นเป็น 3 เท่าในช่วงปี 2002 – 2015 และในปี 2019 ยังมีเคสเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นถึง 120,000 เคสอีกด้วย


 

ความคิดเห็นของผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้กล่าวว่า “ฉันเห็นสิ่งนี้จากห้องน้ำในห้าง เป็นความคิดที่ดีที่เดียวเลยนี่!? เพราะที่เดียวที่ผู้ถูกทำ DV จะได้อยู่คนเดียวก็คือในห้องน้ำนี่แหละ เพราะถ้าเสิร์ชข้อมูลในโทรศัพท์ก็จะถูกจับได้แล้วก็จะโดนหนักมากกว่าเดิมอีก ขอให้นี่ช่วยได้ทีเถอะ”

ปัจจุบันยังคงพบปัญหาการใช้ความรุนแรงได้ทั่วไปในทุกสังคมทั่วโลก ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรให้ความสำคัญมากๆ เลยล่ะค่ะ เราทุกคนควรช่วยกันเพื่อป้องกันและขจัดปัญหาเหล่านี้ไปให้หมดสิ้น ไม่ให้ทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ หมั่นสังเกตคนรอบข้างของเราให้ดีว่าเขากำลังลำบากและต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ เพราะบางครั้งผู้ที่เป็นเหยื่อก็อับอายและไม่กล้าบอกใครค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook