ไขข้อสงสัย! Cruelty Free กับ Vegan ต่างกันอย่างไร?

ไขข้อสงสัย! Cruelty Free กับ Vegan ต่างกันอย่างไร?

ไขข้อสงสัย! Cruelty Free กับ Vegan ต่างกันอย่างไร?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เนื่องจากกระแสที่เป็นเทรนด์มาแรงในช่วงที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับปัญหาทางสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงเพื่อนร่วมโลกมากขึ้น ส่งผลให้หลาย ๆ แบรนด์มีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้ตามเทรนด์นี้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของกระแส อย่าง Cruelty Free และ Vegan ขึ้น แต่หลายคนอาจจะยังสับสนว่าสองคำนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ดังนั้น HELLO! จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเทรนด์นี้ไปด้วยกัน

Cruelty Free คืออะไร?

Save RalphSave Ralph
ที่ผ่านมา มีแฮชแท็กที่ทำให้วงการบิวตี้ต้องสะเทือน นั่นก็คือ #SaveRalph ที่มาของกระแสนี้มาจากภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ชื่อว่า ‘Save Ralph’ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับกระต่ายที่ถูกนำไปทดลอง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมมือกับองค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับโลกอย่าง ‘Humane Society International ( HIS ) มีจุดประสงค์ในการรณรงค์ให้คนตระหนักถึงการนำสัตว์ไปทดลองว่าเป็นการทารุณกรรม นั่นจึงเกิดเป็นกระแสสังคมที่ทำให้ผู้คนเริ่มสนใจในผลิตภัณฑ์ ‘Cruelty Free’ เป็นอย่างมาก 

สาวกสายบิวตี้เคยสังเกตกันไหมว่า เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ในบางยี่ห้อมีสัญลักษณ์นี้อยู่บนฉลาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปน้องกระต่าย หรือมีข้อความที่เขียนว่า ‘Not Tested on Animals’ เป็นการบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ได้มีการทดลองในสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการผลิต รวมไปถึงส่วนผสมต่าง ๆ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ทั่วไป จะมีการทดลองกับสัตว์ขนาดเล็ก เช่น กระต่าย หนูแฮมสเตอร์ และหนูตะเภา เพื่อทดสอบการระคายเคืองต่อผิว ทำให้สัตว์เหล่านี้ถูกนำมาทดลองจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจนั่นเอง ในปัจจุบัน สัญลักษณ์เหล่านี้มีทั้งหมดอยู่ 3 แบบ ได้แก่ Leaping Bunny, Beauty without bunny และ  Choose Cruelty-Free Bunny 


Leaping Bunny

Leaping BunnyLeaping BunnyLeaping Bunny เป็นสัญลักษณ์ระดับสากลที่รับรองผลิตภัณฑ์ว่าไม่ได้มีการทดลองในสัตว์ รวมไปถึงส่วนผสมภายในผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์กร ‘Coalition for Consumer Information on Cosmetics’ หรือ ‘CCIC’ ในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งทางองค์กรมีค่าสมาชิกในการเข้าร่วม คำนวณตามยอดขายรายปีของบริษัทนั้น ๆ และภายในองค์กรมีบริษัทเข้าร่วมมากกว่า 2,000 แบรนด์ด้วยกัน นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่สามารถวางจำหน่าย ในประเทศที่มีการอนุญาตให้ทดลองในสัตว์ได้ อย่างประเทศจีน 

Beauty Without Bunny

Beauty Without BunnyBeauty Without Bunny
สัญลักษณ์น้องกระต่ายนี้ ทุกคนน่าจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว นั่นก็คือ ‘Beauty Without Bunny’ หรือ ‘Cruelty Free Bunny’ เป็นสัญลักษณ์ได้รับการรับรองจากองค์กร ‘PETA’ หรือ ‘People for the Ethical Treatment of Animals’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่รับรองผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มีการทดลองในสัตว์ในอเมริกา รวมไปถึงประเทศอื่นทั่วโลก ทางองค์กรจะมีค่าธรรมเนียมในการใช้สัญลักษณ์โดยประมาณ 350 เหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 11,000 บาท ซึ่งแบรนด์ที่มีการใช้สัญลักษณ์นี้มีมากกว่า 5,000 แบรนด์ทั่วโลก 

Choose Cruelty Free Bunny

Choose Cruelty-Free BunnyChoose Cruelty-Free Bunny
สัญลักษณ์น้องกระต่ายสุดท้าย คือ ‘Choose Cruelty-Free Bunny’ เป็นตราที่มาพร้อมกับข้อความ ‘Not Tested on Animals’ ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์กรไม่แสวงหากำไรในประเทศออสเตรเลีย ‘Choose Cruelty-Free’ โดยมีจุดประสงค์ในการปกป้องการทารุณกรรมสัตว์ รวมไปถึงส่วนผสมและผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แบรนด์ที่ได้รับสัญลักษณ์นี้จะมาจากประเทศออสเตรเลียเป็นหลัก เนื่องจากทางองค์กรมีนโยบายที่เข้มงวด

Vegan คืออะไร ?


ทุกคนอาจจะรู้จักคำว่า ‘Vegan’ ในด้านของการรับประทานอาหารมังสวิรัติประเภทหนึ่ง ซึ่งบางคนก็ตั้งใจใช้ชีวิตตามวิถีวีแกนไปจนถึงสกินแคร์และเครื่องสำอางทำให้ผลิตภัณฑ์ ‘Vegan’ ขึ้น นั่นก็คือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มีส่วนผสมที่มาจากสัตว์อย่าง ขี้ผึ้ง, น้ำผึ้ง, ไขมันที่ได้จากขนแกะ, คอลลาเจน, ไข่ขาว, Glycerine, Gelatin, Stearic Acid, Cholesterol, Lecithin, Panthenol, Lactic Acid เป็นต้น ซึ่งบางแบรนด์อาจจะมีการสังเคราะห์หรือสกัดส่วนผสมเหล่านี้จากพืชทดแทน ส่วนใหญ่คนอาจจะคิดว่าผลิตภัณฑ์ ‘Cruetly Free’ เป็น ‘Vegan’ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช้ทุกผลิตภัณฑ์จะเป็น ‘Vegan’ เพราะบางแบรนด์มีการสกัดส่วนผสมมาจากสัตว์บ้าง และนี่คือแบรนด์ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นวีแกนแบบเต็มตัว และ ‘Cruelty Free’

Hourglass

HourglassHourglass
Hourglass เป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมจากบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังทั้งในประเทศและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งแพ็กเกจของทางแบรนด์มีความโดดเด่นและหรูหรา พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ยังเป็น ‘Cruelty Free’ อีกด้วย และที่มากไปกว่านั่น เมื่อปีที่ผ่านมาทางแบรนด์ได้มีการออกคอลเลกชั่นที่เป็น 100% Vegan ไม่ว่าจะเป็นลิป ไพรเมอร์ ฟาวน์เดชัน รวมไปถึงแปรงแต่งหน้า 


Aēsop

AēsopAēsop
เป็นแบรนด์สกินแคร์สัญชาติ ออสเตรเลียที่มีความโดดเด่นในเรื่องสารสกัดที่มาจากธรรมชาติและมีความผสมผสานวิทยาศาสตร์เข้าไปอีกด้วย สารสกัดที่โดดเด่นของทางแบรนด์ นั่นก็คือ  น้ำมันโจโจบา ใบเจอเรเนียม และ เปลือกแมนดาริน ซึ่งแบรนด์ ‘Aesop’ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผลิตภัณฑ์เป็นทั้ง ‘Cruelty free’ และ ‘Vegan’ อย่างไม่ต้องสงสัย

Milk Makeup

Milk MakeupMilk Makeup
ตบท้ายด้วยแบรนด์น้องใหม่อย่าง ‘Milk Makeup’ ที่สายบิวตี้คงเห็นผ่านตากันมาบ้าง เป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกาซึ่งจุดเด่นของทางแบรนด์นั่น มีขนาดที่พกพาสะดวก และง่ายต่อการใช้งาน พร้อมทั้งผันตัวเป็น 100% Vegan อีกด้วย ซึ่งโดยทางแบรนด์ไม่ได้มีการทดลองในสัตว์อยู่แล้ว นั่นจึงทำให้ทางแบรนด์ยิ่งเป็นมิตรต่อธรรมชาติขึ้นไปอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook