"น้องเฟรช" ลุ้นมงฯ "นางสาวไทย 65" ต่อยอดยกระดับท่องเที่ยวชุมชน-พัฒนาการศึกษา
ผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 ที่ผ่านเข้ารอบ 24 คนสุดท้าย อุดมไปด้วยความสวย "น้องเฟรช" จิรัชญา โกสินทรานนท์ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 22 ลูกแม่โดมนับว่าเป็นหนึ่งในสาวงามที่มีโปรไฟล์น่าสนใจ เธอเป็นทูตกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีตำแหน่งดรัมเมเยอร์ในงานฟุตบอลในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 73 การันตีความสวย
น้องเฟรช เปิดใจ ระหว่างเก็บตัวทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวดนางสาวไทย ที่ จ.อำนาจเจริญ วันที่ 22 ม.ค.65 ว่า เหตุผลที่เธอตัดสินใจเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ เพราะคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และบริบทของเวที ที่จัดประกวดเพื่อเฟ้นหา "ทูตการท่องเที่ยว และวัฒนธรรม"
เมื่อถามว่า คาดหวังอย่างไรกับการประกวดครั้งนี้ น้องเฟรซ ไม่ปฏิเสธ เธออยากเป็นสาวงามที่ได้ดำรงตำแหน่งนางสาวไทย ประจำปี 2565 เพื่อสร้างโอกาสให้เธอได้เป็นกระบอกเสียง และมีส่วนขับเคลื่อนสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนตัวอยากเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนให้ยั่งยืน อยากให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพิ่มมากขึ้น
สาวสวยวัย 22 ปี จบการศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 1 สาขาการจัดการมรดกวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชื่อว่า หากมีการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนในทิศทางที่ยั่งยืน จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตกอยู่กับชุมชน ส่งผลให้ความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศดีขึ้น
"ทุกคนที่เข้ามาสมัครก็หวังที่จะได้มงอยู่แล้วใช่มั้ยคะ เฟรชก็เป็นคนนึงที่อยากมงลง เพราะเฟรชรู้สึกว่ามันเป็นการรับและเริ่มต้นงานที่ท้าทายที่เราจะได้ทำงานให้กับสังคมอย่างจริงจัง มากกว่าตอนที่เฟรชทำในฐานะนักศึกษาค่ะ แล้วในฐานะนางสาวไทยเฟรชรู้สึกว่าเสียงของเราก็จะดังขึ้นและมีคนซัพพอร์ตเรามากขึ้น สิ่งที่เราอยากช่วยก็คงเกิดขึ้นได้จริงๆ ในวันนึง"
น้องเฟรซ เจ้าของสัดส่วน 32-24-34 สูง 167 ซม. น้ำหนัก 47.5 กก. บอกต่ออีกว่า นอกจากอยากมีส่วนร่วมยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้มีความยั่งยืนแล้ว เธอยังอยากมีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาของประเทศด้วย
"การศึกษาในที่นี้คงไม่ใช่การศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเดียว แต่เฟรชว่าต้องเป็นการทำความเข้าใจ รับรู้ถึงปัญหา แล้วตระหนักถึงมัน ถึงจะสร้างความเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขปัญหาได้"
"ปัญหาการศึกษามีหลายอย่างมากค่ะแล้วแต่คนมอง ส่วนเฟรชอาจจะเห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่ทำให้เด็กจำนวนไม่น้อยต้องหลุดออกจากการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นเรื่องที่มีต้นทุนและค่าใช้จ่าย ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละบ้านมีพื้นฐานต่างกัน"
"ยิ่งในช่วงโควิดยิ่งทำให้เห็นถึงปัญหานี้อย่างมาก หลายคนต้องวิ่งไปหาอินเทอร์เน็ต และอีกหลายคนที่ต้องออกจากโรงเรียนเพราะแบกรับค่าใช้จ่ายในความจำเป็นที่ต้องเรียนออนไลน์ ซึ่งเฟรชรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญและควรหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนค่ะ"
"นอกจากการเข้าไม่ถึงการศึกษาของเด็กจำนวนมาก หรือการไม่เข้าใจในความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่ทำให้หลายๆ ชาติพันธุ์ต้องลืมหรือละเลยวัฒนธรรมของตัวเองเพราะต้องทำตามวัฒนธรรมกลางของประเทศ"
"เฟรชรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่มีใครผิดหรือถูก แต่เป็นเรื่องของความไม่เข้าใจมากกว่า ซึ่งจากการเรียนของเฟรชทำให้เห็นปัญหาตรงนี้ แต่การเป็นนักศึกษาก็ไม่ใช่หนทางที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มาก"
"สิ่งที่เฟรชอยากทำก็คงเป็นการสร้างความเข้าใจในเรื่องที่เฟรชถนัดและมีความสนใจก่อนนี่แหละค่ะแล้วเฟรชก็เชื่อว่าจะมีหลายองค์กรหลายภาคส่วนที่เห็นและสนับสนุนให้ปัญหาเหล่านี้ถูกแก้ไขอย่างจริงจังค่ะ"
กับการประกวดนางงามครั้งแรก เฟรซ ถ่อมตัวว่า เธออาจจะไม่ใช่นางงามที่เพอเฟ็กต์ในสายตาของคอนางงาม และส่วนตัวก็ยังมีความรู้สึกตื่นเต้นกับการประกวด การที่ได้ผ่านเข้ารอบ 24 คนสุดท้าย นางสาวไทย ประจำปี 2565 นับว่าเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
"เฟรชเลยพยายามทำเต็มที่ในทุกวัน เพื่อที่ไม่ต้องมาเสียใจทีหลังว่าเรายังไม่ได้ทำแบบนี้แบบนั้น การที่ได้เข้ามาอยู่กับกองประกวดนี้ถือเป็นกำไรของเฟรชแล้ว เฟรชตั้งใจทำทุกวันให้ดีที่สุด และจะพยายามทำให้ทุกคนเห็นว่าเฟรชเป็นคนที่ทำงานเพื่อหลายๆ คนให้ได้มากที่สุดค่ะ"
อัลบั้มภาพ 25 ภาพ