ก่อนลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิต ควรรู้อะไรบ้าง

ใครที่กำลังเล็งว่าจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิตแล้วเกิดอาการจับต้นชนปลายไม่ถูก หายใจเข้าลึกๆ อย่าเพิ่งหลงไปในวังวนของหนังเนื้อนุ่มและสีสันโดนใจของกระเป๋าถือทั้งหลายแบบ โว้กอยากให้สาวๆ มาดูข้อควรรู้กันก่อนสักนิดว่าถ้าจะลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกแล้ว สิ่งที่ควรรู้คืออะไรบ้าง จะได้ไม่มานั่งเสียใจในภายหลัง

 เครดิตภาพ: British Vogue

ศึกษาข้อมูล

การศึกษาข้อมูลของกระเป๋าแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราจะได้โอกาสในการเทียบเคียงกระเป๋าแต่ละแบบว่าแตกต่างกันอย่างไร ทำจากวัสดุอะไร มีขนาดเท่าไหร่ ราคาสมเหตุสมผลหรือไม่ หรือแม้แต่สินค้ามีในช็อปหรือต้องรอของมา ทั้งหมดนี้เป็นตัวกรองข้อมูลที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้มากขึ้น โว้กแนะนำเพิ่มเติมให้เปิดอ่านประวัติของกระเป๋ารุ่นที่อยากได้ รวมถึงการเปิดดูวิดีโอคนรีวิวกระเป๋าใบนั้นๆ ก็ช่วยให้เราเห็นมิติการใช้งานได้มากขึ้น ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือต้องไปดูของจริงที่ช็อป ลองไปจับไปหิ้วดูว่าเข้ากับตัวเรามากน้อยเท่าไหร่

ราคา

การตั้งงบประมาณที่จะใช้ในการซื้อเป็นเรื่องที่ควรมาเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณควรต้องบวกลบคูณหารกับเงินเดือนที่ได้รับ เงินเก็บ และเงินฉุกเฉินที่ต้องมีให้ครบถ้วนทุกกองเสียก่อน แล้วจึงตัดสินใจได้ว่ากระเป๋าแบรนด์ใบแรกที่ควรลงทุนซื้อควรจะมีราคาเท่าไหร่ นอกเสียจากว่าใบแรกที่อยากได้คุณจะเล่นใหญ่ ก็จงคำนวณดูว่าควรจะเก็บออมในแต่ละเดือนเท่าไหร่ถึงจะซื้อได้ พูดง่ายๆ เลยคือวางแผนการเงินให้ดี ให้เราใช้จ่ายข้าวของจำเป็นในแต่ละเดือนได้อย่างคล่องตัว และในขณะเดียวกันก็ต้องมีเงินสำหรับกองฉุกเฉินเผื่อเจ็บไข้ได้ป่วยด้วย

 เครดิตภาพ: British Vogue

ไลฟ์สไตล์แต่ละวัน

ถ้ากระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิตที่คุณลงทุนซื้อมาแล้วแต่ได้ใช้เพียงแค่ครั้งหรือสองครั้ง ก็ดูแล้วไม่น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มสักเท่าไหร่ โว้กแนะนำให้สังเกตไลฟ์สไตล์ของตัวเองบ่อยๆ ว่าชอบไปไหน ทำอะไร และเดินทางอย่างไร จะได้ตัดสินใจถูกว่ากระเป๋าที่ซื้อควรจะมีขนาด สี หรือดีไซน์แบบไหน เช่นถ้าคุณเป็นสาวออฟฟิศที่ขึ้นรถสาธารณะไปทำงาน กระเป๋า Balenciaga รุ่น City Bag ก็เข้าท่าไม่น้อยเพราะจุของได้เยอะและทะมัดทะแมงพอสมควร หรือถ้าคุณเป็นคนที่หิ้วของน้อยชิ้นไม่ชอบกระเป๋าใบใหญ่งั้นรุ่น Antigona ของ Givenchy ก็ตอบโจทย์สุดๆ

การแต่งตัว

อย่าลืมเปิดดูตู้เสื้อผ้าด้วยว่าคุณมีเสื้อผ้าสีอะไรเยอะกว่ากัน คุณชอบแต่งตัวแบบไหน เน้นกางเกงหรือกระโปรง ชอบสีอะไร ขาวดำเรียบๆ หรือสีสันลวดลายฉูดฉาด ข้อนี้จะช่วยให้ตัวเลือกกระเป๋าของคุณแคบลงอย่างถนัดตา เพราะถ้าคุณชอบอะไรเรียบๆ จะเลือกซื้อกระเป๋าที่มีสีตามซีซั่นก็จะช่วยทำให้ลุคดูมีอะไรขึ้น หรือกลับกันถ้าคุณชอบแต่งตัวสีจี๊ดๆ กระเป๋าก็ควรเป็นอะไรที่สีเรียบๆ หน่อยเพื่อซอฟต์ลุคไม่ให้ดูเยอะจนเกินไป หรือถ้าใครชอบทุกอย่างขาวดำหมด หรือชอบสีๆ หมด ก็ย่อมได้ สำคัญคือขอให้เลือกอย่างมีสติและนึกถึงความเป็นจริงเข้าไว้

 เครดิตภาพ: British Vogue

การดูแลรักษา

เมื่อตัดสินใจจะซื้อก็ต้องศึกษาดูด้วยว่ามีวิธีดูแลทำความสะอาดอย่างไร คุณคงไม่อยากให้กระเป๋าแบรนด์ใบแรกที่ทำจากผ้าแจกการ์ดของแบรนด์ดังสัญชาติฝรั่งเศส ต้องเป็นรอยปากกาหรือคราบซอสมะเขือเทศแน่นอน เพราะฉะนั้นศึกษาเรื่องวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าให้ชัวร์ สอบถามรายละเอียดให้เข้าใจตรงกันว่าควรเก็บอย่างไร ทำความสะอาดเองได้ไหม หรือส่งร้านคลีนได้หรือเปล่า สำคัญไปกว่าทั้งหมดคือจำไว้ว่ากระเป๋ามีไว้ใช้ เพียงแต่ให้ทะนุถนอมและดูแลรักษาให้ดีก็เท่านั้น

การคาดคะเนในอนาคต

คิดการณ์ไกลไม่ใช่เรื่องโอเว่อร์ แต่เป็นการคิดให้ถี่ถ้วนว่าถ้าวันหนึ่งคุณเกิดเบื่อขึ้นมาแล้วอยากจะปล่อยขายเป็นมือสอง กระเป๋าใบนั้นจะมีราคาเท่าไหร่ ถ้ากระเป๋าใบเหยียบแสนตอนซื้อมาแต่ดูท่าแล้วว่าจะไม่เป็นที่ต้องการของตลาดเมื่อขายทอดมือสอง ก็อยากให้คิดเยอะขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป เว้นเสียแต่ว่าคุณตั้งใจจะไม่ขายอยู่แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้บอกให้คุณซื้อตามเทรนด์ เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจว่าเมื่อเราไม่ได้ซื้อชิ้นที่อยู่ในเทรนด์ หรือชิ้นลิมิเต็ดที่หายากจริงๆ ขายต่อมือสองก็อาจจะได้ราคาที่ตกฮวบจนน่าใจหายก็ได้

 เครดิตภาพ: Fahioniser

สุดท้ายก่อนจะซื้อคือให้ตอบคำถามตัวเองก่อนว่า “ทำไมเราต้องมีกระเป๋าแบรนด์เนม” เพราะจริงๆ แล้วกระเป๋าแบรนด์เนมมีก็ดี ไม่มีก็ได้ การหิ้วข้าวของแบรนด์เนมไม่ได้เป็นการลดหรือเพิ่มคุณค่าความเป็นมนุษย์ในสังคมแต่อย่างใด แต่โว้กเข้าใจหัวอกสาวๆ ด้วยกันว่าบางครั้งเราเองก็อยากจะได้กระเป๋าสวยๆ มาหิ้วสักหนึ่งใบไว้เป็นรางวัลให้กับชีวิต เป็นการขอบคุณตัวเองถึงความอดทนในการออมเงินและการทำงานอย่างหนัก ที่สำคัญคือถ้าซื้อแล้วไม่เดือนร้อนกระเป๋าสตางค์และเงินในบัญชีก็ศึกษาข้อมูลให้ดีแล้วลุยได้เลย