ดัชเชสเคต เผยความรู้สึกของการเป็นแม่ และการคลอดพระทายาททั้งสาม

ดัชเชสเคต เผยความรู้สึกของการเป็นแม่ และการคลอดพระทายาททั้งสาม

ดัชเชสเคต เผยความรู้สึกของการเป็นแม่ และการคลอดพระทายาททั้งสาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นอกจาก ดัชเชสเคต จะทรงเป็นดัชเชสแห่งเคมบริดจ์แล้ว ยังทรงเป็นพระมารดาของพระโอรสพระธิดาถึง 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายจอร์จ พระชันษา 8 ปี , เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ พระชันษา 6 ปี และเจ้าชายหลุยส์ พระชันษา 3 ปี ซึ่งพระองค์ทรงสามารถทำหน้าที่พระมารดาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทรงพาพระทายาทไปโรงเรียนด้วยพระองค์เอง ทรงทำอาหารให้แก่พระโอรสพระธิดา ทั้งยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจไปด้วยในขณะเดียวกัน แต่เรื่องราวเบื้องหลัง พระประสูติกาลของดัชเชสเคต นั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เห็นกัน

ดัชเชสเคต และเจ้าชายวิลเลี่ยมดัชเชสเคต และเจ้าชายวิลเลี่ยม
ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงต้องเผชิญกับอาการแพ้ท้องอย่างหนักหน่วงถึงสามครั้งสามครา โดยทุกครั้งที่พระองค์ทรงพระครรภ์ จะทรงมี ภาวะอาเจียนรุนแรง หรือที่เรียกว่า Hyperemesis Gravidarum เสมอ ซึ่งดัชเชสเคตเคยประทานสัมภาษณ์แก่ จิโอวานนา เฟลทเชอร์ ผ่านทางรายการพอดแคสต์ Happy Mum, Happy Baby ในปี 2020 ถึงประสบการณ์การเป็นพระมารดาและการทรงพระครรภ์

“พูดตามตรงแล้วมันแย่มากๆ เราป่วยหนักมากจริงๆ เราไม่สามารถกินอะไรได้เลย แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือร่างกายเรายังสามารถให้กำเนิดชีวิตใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรง เราคิดว่ามันเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์มาก” พระองค์ทรงเผยประสบการณ์ต่อการทรงพระครรภ์และ พระประสูติกาลของดัชเชสเคต

ดัชเชสเคต ขณะทรงพระครรภ์ดัชเชสเคต ขณะทรงพระครรภ์
ดัชเชสเคตยังทรงเผยอีกว่าอาการแพ้ท้องและภาวะอาเจียนรุนแรงนี้ส่งผลต่อพระสวามี เจ้าชายวิลเลี่ยม ด้วยเช่นกัน “วิลเลี่ยมรู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้เลย ซึ่งมันเป็นเรื่องยากและทรมานใจมากที่ต้องเห็นคนที่คุณรักป่วย แต่ไม่ได้สามารถทำอะไรได้เลย”

"เพราะว่าช่วงที่ตั้งครรภ์มันยากลำบากมากๆ เราเลยค่อนข้างชอบการคลอดมากกว่า เพราะมันเป็นเหมือนอีเวนต์ที่ทุกอย่างกำลังจะจบลง แต่เรารู้ว่าหลายคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากตอนคลอด แม่ทุกคนจึงอาจไม่ได้ชอบการคลอดขนาดนั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกการตั้งครรภ์ไม่เหมือนกัน และไม่มีการคลอดครั้งไหนที่เหมือนกัน" ดัชเชสเคต ประทานสัมภาษณ์ในรายการ Happy Mum, Happy Baby


ดัชเชสเคต ขณะทรงพระครรภ์เจ้าชายจอร์จดัชเชสเคต ขณะทรงพระครรภ์เจ้าชายจอร์จ
พระประสูติกาลเจ้าชายจอร์จ

ราชสำนักเซนต์เจมส์ประกาศข่าวดีว่าเจ้าชายวิลเลี่ยมและดัชเชสเคตจะทรงมีพระทายาทพระองค์แรกในวันที่ 3 ธันวาคม ปี 2012 ข่าวอันน่าตื่นเต้นนี้ถูกประกาศตั้งแต่ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เพิ่งทรงพระครรภ์แรกๆ ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ทรงต้องเผชิญกับภาวะอาเจียนรุนแรงและต้องเสด็จไปโรงพยาบาลเพื่อทรงเข้ารับการรักษา โชคดีที่ดัชเชสเคตทรงรู้สึกดีขึ้นในช่วงสามเดือนสุดท้าย ก่อนประชาชนจะร่วมเฉลิมฉลองให้กับ พระประสูติกาลของดัชเชสเคต ครั้งแรกเมื่อเวลา 16.24 น. วันที่ 22 กรกฎาคม ปี 2013

เจ้าชายจอร์จ ประสูติ ณ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ กรุงลอนดอน ด้วยน้ำหนักราว 8 ปอนด์ โดยมีรายงานว่า พระประสูติกาลของดัชเชสเคต ในครั้งนี้เป็นไปโดยธรรมชาติ ไม่ได้มีการผ่าคลอดแต่อย่างใด ทางสำนักพระราชวังประกาศข่าวดีนี้ให้ทั่วโลกรับรู้เมื่อเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมงหลังพระประสูติกาลเสร็จสิ้นลง หรือเวลาประมาณสองทุ่ม

เจ้าชายวิลเลี่ยม ทรงรับหน้าที่แจ้งข่าวดีนี้แก่พระอัยยิกา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 หลังจากนั้นจึงทรงโทรศัพท์ไปแจ้งข่าวพระทายาทองค์แรกแก่พระบิดาและพระมารดาของดัชเชสเคต แคโรลและไมเคิล มิดเดิลตัน ซึ่งขณะนั้นพำนักอยู่ที่บัคเคิลเบอรี ตามด้วยพระกนิษฐาและพระอนุชาของดัชเชสเคต พิพพา และ เจมส์ รวมถึงพระบิดาในพระองค์เอง เจ้าชายชาร์ลส์ และพระอนุชา เจ้าชายแฮร์รี่ โดยดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งวัน ก่อนทั้งสองพระองค์จะเสด็จกลับพระตำหนักพร้อมพระโอรสองค์แรก

ดัชเชสเคตประทานสัมภาษณ์แก่ จิโอวานนา เฟลทเชอร์ ถึงโมเมนต์ที่เจ้าชายจอร์จประสูติว่า “มหัศจรรย์ มันมหัศจรรย์มาก เรายังคงรู้สึกทึ่งที่ร่างกายมนุษย์สามารถทำสิ่งนี้ได้ และเราโล่งใจและรู้สึกขอบคุณมากที่จอร์จเกิดมาอย่างสมบูรณ์แข็งแรง”

นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเล่าถึงประสบการณ์คืนแรกในโรงพยาบาล ดัชเชสเคตทรงนึกย้อนกลับไปก่อนมีรับสั่งว่า “พระเจ้า เราจำไม่ได้เลย ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเลือนรางมากในความทรงจำของเรา เราจำได้ว่ามันเป็นวันที่ร้อนที่สุดและมีพายุฝนลูกใหญ่ตอนกลางคืน เราเลยแทบไม่ได้นอนเลย แต่จอร์จหลับสนิทดี ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีมาก”

ดัชเชสเคต เจ้าชายวิลเลี่ยม และเจ้าชายจอร์จหลังประสูติดัชเชสเคต เจ้าชายวิลเลี่ยม และเจ้าชายจอร์จหลังประสูติ
พระประสูติกาลเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์

ข่าวการทรงพระครรภ์เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ถูกประกาศให้สาธารณชนรับรู้เมื่อวันที่ 8 กันยายน ปี 2014 ซึ่งขณะนั้นดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เพิ่งทรงพระครรภ์ได้ไม่ถึง 12 สัปดาห์ดี สาเหตุที่สำนักพระราชวังประกาศข่าวให้ประชาชนยินดีกันแต่เนิ่นๆ นั่นก็เพราะดัชเชสเคตทรงมีภาวะอาเจียนรุนแรงอีกครั้งจนไม่สามารถเสด็จไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้เลย ทั้งยังไม่สามารถเสด็จไปส่งเจ้าชายจอร์จวันแรกที่โรงเรียนอีกด้วย

เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ ประสูติ ณ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่เช่นกัน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2015 เวลา 08.34 น. ด้วยน้ำหนักราว 8 ปอนด์เท่าพระเชษฐา โดย พระประสูติกาลของดัชเชสเคต ครั้งที่สองนี้ถือว่าเป็นไปอย่างรวดเร็ว หลังจากดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงมีพระประสูติกาลไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง พระองค์และเจ้าชายวิลเลี่ยมก็เสด็จกลับพระตำหนักในช่วงบ่ายแก่ๆ

และเป็นอีกครั้งที่ดัชเชสเคตทรงเลือกมีพระประสูติกาลแบบธรรมชาติ โดยทรงเผยเคล็ดลับสำหรับคุณแม่ที่กลัวความเจ็บปวดว่าพระองค์เองทรงใช้วิธีสะกดจิต Hypnobirthing ซึ่งเป็นวิธีที่ออกแบบมาเพื่อให้คนเป็นแม่ละทิ้งความตื่นกลัว ผ่อนคลาย และปล่อยร่างกายไปตามวิถีธรรมชาติ ทำให้ลดความเจ็บปวดขณะคลอดธรรมชาติได้

“วิธีนี้ทำให้เรารู้ถึงพลังของจิตใจที่อยู่เหนือร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีกำหนดลมหายใจ และการทำสมาธิ ทั้งหมดช่วยให้เราผ่านการคลอดมาได้ เรารู้สึกว่ามันมีพลังและมีประโยชน์มากๆ” ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงเผย

ดัชเชสเคต เจ้าชายวิลเลี่ยม และเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์หลังประสูติดัชเชสเคต เจ้าชายวิลเลี่ยม และเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์หลังประสูติ
พระประสูติกาลเจ้าชายหลุยส์

ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ประกาศข่าวการทรงพระครรภ์พระทายาทองค์ที่สามเมื่อวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 และเหตุการณ์ยังคงเป็นไปเช่นเดียวกับสองครั้งก่อนหน้า คือทุกคนต่างเฉลิมฉลองกับข่าวดีของราชวงศ์ แต่ขณะเดียวกันดัชเชสเคตก็ทรงมีภาวะอาเจียนรุนแรงอีกครั้ง

พระประสูติกาลของดัชเชสเคต ครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้น ณ โรงพยาบาลเซนต์แมรี่เช่นเดิม โดยพระองค์ทรงใช้เวลาราว 7 ชั่วโมงในห้องคลอดก่อนพระองค์จะทรงอุ้มพระโอรสองค์น้อยออกมาพบประชาชน

ดัชเชสเคต และเจ้าชายหลุยส์หลังประสูติดัชเชสเคต และเจ้าชายหลุยส์หลังประสูติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook