บอกต่อ วิธีล้างหน้าทาสกินแคร์ ที่ถูกต้อง ช่วยให้ผิวใสใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างไม่น่าเชื่อ
รู้หรือไม่ว่าการล้างหน้าแบบผิดๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวอุดตัน เกิดสิว และยังสร้างริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วย HELLO! เลยขอมาแชร์ วิธีล้างหน้าทาสกินแคร์ ที่จะช่วยรักษาใบหน้าอ่อนเยาว์และผิวใสเปล่งประกายของคุณเอาไว้ รับรองว่าถ้าปฏิบัติตามนี้ได้เป็นประจำ คุณจะพบว่าปัญหาผิวดีทั้งหลายดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
ล้างหน้าตามแนวรูขุมขน
วิธีล้างหน้าทาสกินแคร์ ที่ถูกต้องขอเริ่มจากขั้นตอนการล้างหน้าด้วยการ “ล้างหน้าตามแนวรูขุมขน” นั่นก็เพราะว่าบนใบหน้าของเรามีรูขุมขนอยู่เยอะมาก การล้างไปตามแนวโพรงขนเหล่านั้นจะช่วยทำให้มั่นใจว่าสิ่งสกปรกทั้งหลายถูกขจัดออกจากใบหน้า ถ้าหากล้างย้อนแนวรูขุมขนอาจทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในโพรงขนแทน และนั่นจะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวท้ังหลายนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะมาสอนให้เห็นภาพกันแบบชัดๆ ว่าต้องล้างไปในทิศไหนถึงจะดีกันทีละจุดเลย
หน้าผาก : เริ่มจากล้างบริเวณกลางหน้าผาก และถูวนเบาๆ ออกไปด้านข้าง
จมูก : หลังจากนั้นจึงนวดวนลงมาบริเวณจมูก ให้ล้างออกไปในทิศลง
คาง : บริเวณรอบริมฝีปากและคาง ให้ล้างลงด้านล่างเช่นเดียวกับจมูก
แก้ม : สุดท้ายถูเบาๆ ล้างจากหน้าแก้มออกไปด้านข้าง
ดับเบิ้ลเคลนซิ่ง และทริคอื่นๆ ที่ช่วยให้ผิวใสอ่อนเยาว์
นอกจากจะรู้ วิธีล้างหน้าทาสกินแคร์ ที่ถูกต้องขั้นแรกไปแล้ว เคล็ดลับต่อมาที่จะช่วยให้สาวกบิวตี้หน้าใสเนียนเด้งก็คือ “ดับเบิ้ลเคลนซิ่ง” หรือการทำความสะอาดซ้ำสองรอบนั่นเอง วิธีนี้ควรใช้ทุกครั้งหลังแต่งหน้า โดยให้ใช้เมกอัพรีมูฟเวอร์ทำความสะอาดใบหน้าก่อน แล้วจึงตามด้วยโฟมล้างหน้า
ถ้าหากว่าเป็นคนผิวมัน แนะนำให้ใช้ที่ล้างเครื่องสำอางแบบ สูตรน้ำ ใช้หยดลงบนสำลีแล้วเช็ดเบาๆ ตามแนวรูขุมขนทั่วใบหน้าจนสะอาด หรือถ้าหากเป็นคนผิวแห้ง ขอแนะนำให้ลองเคลนซิ่ง เนื้อบาล์มหรือออยล์ แทน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวไว้ ซึ่งวิธีการล้างหน้าก็ให้นวดวนเบาๆ ตามแนวรูขุมขนเช่นเดียวกัน โดยระยะเวลาที่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้านั้น ไม่ควรนานเกิน 30 วินาที
สำหรับน้ำที่ใช้ล้างหน้า ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ น้ำอุ่น ล้างใบหน้าครั้งแรกเป็นการเปิดรูขุมขนเตรียมพร้อมสำหรับทำความสะอาด (ไม่ควรเป็นน้ำร้อนหรืออุ่นจัด เพราะจะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นและแห้งตึงหลังล้างเสร็จ) หลังจากใช้โฟมล้างหน้าเสร็จแล้วจึงค่อยล้างด้วย น้ำเย็น เพื่อปิดรูขุมขน เทคนิคนี้แพร่หลายมากในหมู่นักแสดงและไอดอลเกาหลี เพราะช่วยให้รูขุมขนกระชับและผิวหน้าดูเรียบเนียนนั่นเอง
นอกจากนี้ข้อควรระวังคือการถูใบหน้าเวลาล้างหน้าแรงๆ การทำแบบนี้จะส่งผลให้รูขุมขนกว้างและใบหน้าหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ ใครที่รู้ตัวว่ากำลังล้างหน้าแบบผิดๆ อยู่ต้องรีบเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยด่วน!
ทาสกินแคร์ย้อนแนวรูขุมขน
สเต็ปถัดมาของ วิธีล้างหน้าทาสกินแคร์ ที่ถูกต้องก็คือ “การทาสกินแคร์ย้อนแนวรูขุมขน” นั่นเอง หลังจากที่เราล้างหน้าทำความสะอาดตามแนวรูขุมขนจนเหล่าโพรงขนใบหน้าไร้สิ่งตกค้างแล้ว ก็ได้เวลาบำรุงฟื้นฟูผิว โดยขั้นตอนนี้จะทาครีมย้อนทิศกับการล้างหน้าเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ต่างๆ สามารถบำรุงลงลึกได้ถึงรูขุมขน รวมถึงยังช่วยให้ใบหน้ากระชับไม่หย่อนคล้อยอีกด้วย
หน้าผาก : ไล่ทาสกินแคร์จากบริเวณเหนือคิ้ว ไล่ขึ้นไปจรดโคนผม
จมูก : บริเวณสันจมูกให้ทาย้อนขึ้น ส่วนบริเวณปีกจมูกให้ทาลงด้านข้าง
คาง : ลงสกินแคร์บริเวณกลางคาง ทาย้อนขึ้นไปด้านข้างถึงบริเวณแก้ม
แก้ม : นวดวนเนื้อครีมจากด้านล่างขึ้นบน ช่วยให้ใบหน้ากระชับไม่หย่อนคล้อย
ทำไมต้องทาครีมถึงคอ
นอกเหนือจากใบหน้าที่ต้องการการบำรุงแล้ว ลำคอ ยังเป็นส่วนสำคัญที่ห้ามละเลยเด็ดขาด เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณลำคอจะเกิดการหย่อนคล้อยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงต้องรีบบำรุงไว้แต่เนิ่นๆ โดยวิธีการที่ถูกต้องคือทาครีมไล่ขึ้นจากช่วงอกถึงใต้คาง วิธีนี้จะช่วยให้ผิวบริเวณลำคอชุ่มชื้น ป้องกันริ้วรอย รวมถึงสร้างความกระชับไม่หย่อนคล้อยได้ดี
10 สเต็ปการบำรุงฉบับ K-Beauty
ก่อนจากกันในวันนี้ ถ้าสายบิวตี้รู้ วิธีล้างหน้าทาสกินแคร์ ที่ถูกต้องแล้ว เราขอแถมท้ายด้วย “ลำดับการทาสกินแคร์ที่ถูกต้อง” เพิ่มให้ด้วย เพราะการสลับขั้นตอนผลิตภัณฑ์อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือบางครั้งอาจถึงขั้นเกิดการอุดตันและก่อให้เกิดปัญหาสิวตามมาได้เลยทีเดียว
วิธีการบำรุง 10 สเต็ปนี้มีที่มาจากวงการบิวตี้ของเกาหลี ซึ่งสาวๆ เกาหลีนั้นขึ้นชื่อเรื่องการดูแลผิวและใส่ใจในทุกขั้นตอนการบำรุง ทำให้สกินแคร์รูทีนของพวกเธอละเอียดและมีขั้นตอนซับซ้อนมากมาย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สาวกบิวตี้ต้องเรียนรู้วิธีการเลเยอร์แต่ละผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยหลักการง่ายๆ คือเรียงลำดับจากเนื้อบางเบาที่สุดไปยังเข้มข้นที่สุด
ขั้นตอนที่ 1 คือ การทำความสะอาดเครื่องสำอาง และอย่างที่แนะนำไปข้างต้นว่าคุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์เคลนซิ่งได้ตามสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นสูตรน้ำ เนื้อบาล์ม หรือออยล์ หลังจากนั้นขั้นตอนที่ 2 คือ การทำความสะอาดซ้ำด้วยโฟมล้างหน้า สองขั้นตอนนี้มีชื่อเรียกว่า ดับเบิ้ลเคลนซิ่ง เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากและดีต่อผิวที่สุด เพราะทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกหมดจด ข้อควรระวังเดียวคืออย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่แรงเกินไปสำหรับผิวหน้าจนรู้สึกแห้งตึงหลังทำความสะอาด และอย่าถูใบหน้าแรงเกินไป
ถัดมาที่ขั้นตอนที่ 3 คือ การผลัดเซลล์ผิว โดยสามารถเลือกขนาดเม็ดสครับหรือเม็ดบีดส์ได้ตามแต่ความบอบบางของผิว ขั้นตอนนี้ไม่ต้องทำทุกคืน แต่ให้ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ไม่อย่างนั้นผิวอาจจะเกิดการระคายเคืองได้ ส่วนสาเหตุที่ต้องผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำก็เพราะว่าใบหน้าของเราจะมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วเรื่อยๆ ถ้าไม่กำจัดออกไปจะทำให้การบำรุงสกินแคร์ไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงอาจทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตันได้อีกด้วย
จบขั้นตอนการทำความสะอาด เข้าสู่ช่วงเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนที่ 4 ให้ เช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ โดยหยดผลิตภัณฑ์ลงบนสำลีก่อนเช็ดย้อนแนวรูขุมขน โทนเนอร์จะช่วยปรับค่า pH บนใบหน้าให้มีความสมดุล รวมถึงยังเป็นการทำความสะอาดใบหน้ารอบสุดท้ายอีกด้วย
ถัดมาในขั้นที่ 5 คือ การบำรุงด้วยเอสเซนส์หรือน้ำตบ เป็นการปลุกผิวให้ตื่น พร้อมบำรุงด้วยสารสกัดเข้มข้น ถ้าหากใครที่สับสนว่าโทนเนอร์กับน้ำตบแตกต่างกันอย่างไร สามารถหาคำตอบต่อได้ที่ บทความนี้ เลย
หลังจากนั้นขั้นตอนที่ 6 จะใช้ เซรั่ม เพื่อฟื้นฟูปัญหาผิวเฉพาะจุด และในวันที่ต้องการการบำรุงสูงสุด ขั้นตอนที่ 7 คือการใช้ ชีทมาสก์ ที่อัดแน่นไปด้วยเซรั่มเข้มข้นบำรุงเพิ่มอีก 15-20 นาที ข้อควรระวังคืออย่าทิ้งแผ่นมาสก์จนแห้งบนใบหน้า เพราะจะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นไป
ขั้นที่ 8 คือการดูแลผิวรอบดวงตาด้วย อายครีม วิธีการลงอายครีมที่ถูกต้องคือให้ใช้นิ้วนางหรือแอปพลิเคเตอร์นวดวนเบาๆ จากใต้หางตามายังหัวตา และนวดวนต่อยังด้านบนเปลือกตาจากหัวตาไปยังหางตา ขั้นตอนที่ 9 เติมเต็มความชุ่มชื้นด้วย มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือครีมเนื้อหนัก และถ้าหากเป็นช่วงเวลากลางวัน ให้ตบท้ายด้วยขั้นตอนที่ 10 คือการลง ครีมกันแดด
อย่างไรก็ตาม ต้องรีมาร์กไว้ตัวโตๆ ว่าไม่จำเป็นต้องบำรุงครบทุกขั้นตอนในทุกวัน ให้เลือกทำขั้นตอนที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของเราจะเกิดผลดีที่สุด ขอเพียงใช้สกินแคร์เรียงลำดับตามนี้ ด้วยเทคนิคเหล่านี้ รับรองว่าคำว่าปัญหาสิวและริ้วรอยจะอยู่ห่างไกลจากใบหน้าอย่างแน่นอน!