มะเร็งปากมดลูกกับ 7 เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงต้องรู้

มะเร็งปากมดลูกกับ 7 เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงต้องรู้

มะเร็งปากมดลูกกับ 7 เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงต้องรู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงไทยมากเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากโรคมะเร็งเต้านมก็คือ โรคมะเร็งปากมดลูก แต่โรคชนิดนี้กลับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากเป็นอันดับหนึ่งเสียอย่างนั้น วันนี้จึงขอรวบรวม 7 เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก เพื่อสามารถดูแลตัวเองได้ทันกันค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าเรื่องสำคัญที่ต้องรู้มีอะไรกันบ้าง


1.เกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์และยังไม่เคยมี
สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูกกว่า 90% เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human Papillomavirus หรือ HPV โดยส่วนใหญ่จะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และส่วนน้อยจะติดต่อทางการสัมผัส โดยมักพบในบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของผู้หญิงบริเวณปากมดลูก ช่องคลอด และอวัยวะเพศ ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก คือ เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีบุตรหลายคน เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง เป็นผู้ติดเชื้อ HIV หรือสูบบุหรี่ เป็นต้น


2.จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อ HPV
ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกผู้หญิงสามารถฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 9-26 ปี โดยฉีดจำนวน 3 เข็ม ซึ่งวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70% ทั้งนี้หากเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ก็สามารถฉีดได้เช่นกัน โดยวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจะมี 2 แบบคือ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก Gardasil และวัคซีนป้องกันปากมดลูก Cervarix


3.ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
ผู้หญิงควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกภายใน 3 ปีหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน อาจเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 30 ขึ้นไป ซึ่งจะมีการตรวจพร้อมกับการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยการตรวจ Thin Prep ร่วมกับการตรวจหาเชื้อ HPV


4.การตรวจแบบ Thin Prep ให้ผลการตรวจที่ละเอียดกว่า
การตรวจแบบ Thin Prep เป็นการตรวจที่ให้ผลละเอียดกว่าและเป็นการตรวจทางเซลล์วิทยา ปัจจุบันนี้นิยมการตรวจ Thin Prep ร่วมกับการตรวจ HPV Testing ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจทางด้านชีวโมเลกุลที่มีความแม่นยำสูง และสามารถตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกและเชื้อ HPV ชนิดที่ก่อมะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ


5.เมื่อพบความผิดปกติของเซลล์สามารถรักษาให้หายขาดได้
การตรวจพบความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกได้ตั้งแต่ในระยะก่อนเป็นมะเร็ง จะสามารถรักษาให้หายขาดได้


6.ตรวจแล้วก็ยังมีความเสี่ยง
โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่มีกระบวนการเกิดโรคที่ช้า และใช้เวลาในการพัฒนาเป็นมะเร็งนาน แต่ก็สามารถรักษาให้หายได้ถ้ารู้ตัวเร็ว จึงต้องคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอจึงจะสามารถรู้ตัวได้ก่อน


7.ระยะเริ่มแรกของการเป็นโรคมักไม่มีอาการ
ระยะแรกเริ่มของโรคมะเร็งปากมดลูกมักจะไม่มีอาการ แต่หากมีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด หรือมีประจำเดือนนานจนรู้สึกผิดปกติ หรือแม้กระทั่งการมีเลือดออกจากช่องคลอดในช่วงหมดประจำเดือนแบบถาวรไปแล้ว ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยที่แน่นอนต่อไป

ถึงแม้ว่าในระยะแรกเริ่มของการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกจะไม่มีอาการ แต่หากมะเร็งได้มีการลุกลามไปมากแล้ว ก็อาจจะลามไปยังอวัยวะอื่นๆ จนส่งผลให้มีอาการปวดหลัง ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด หรืออาจเป็นไตวายเฉียบพลันได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook