สายทำสีต้องห้ามพลาด! แจกทริคดูแลสีผม พร้อมตัวช่วยให้สีผมอยู่ทนอยู่นาน สีไม่เพี้ยนเร็ว

สายทำสีต้องห้ามพลาด! แจกทริคดูแลสีผม พร้อมตัวช่วยให้สีผมอยู่ทนอยู่นาน สีไม่เพี้ยนเร็ว

สายทำสีต้องห้ามพลาด! แจกทริคดูแลสีผม พร้อมตัวช่วยให้สีผมอยู่ทนอยู่นาน สีไม่เพี้ยนเร็ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในปี 2022 มีสีผมหลายสีที่กำลังนำเทรนด์และน่าทำเต็มไปหมดเลย แต่พอย้อมได้แค่แป๊บๆ สีผมก็กลับไปเพี้ยน อยู่ไม่ทนไปอีก แถมตัวช่วยกัดสีผมก็ไม่เวิร์คเลย ไปทำที่ร้านก็แพงมากแถมอยู่ในยุคโควิดด้วย สวัสดีค่าสาวๆ ซิสตาทุกคนน~ วันนี้เราอยากมาแชร์ ทริคการดูแลผมทำสีให้อยู่ได้นานขึ้นแบบไม่ลอกเร็วมาฝาก ที่รับรองว่าจะช่วยทำให้สาวๆ สามารถดูแลผมทำสีได้ด้วยตัวเองได้แบบประหยัดงบมากขึ้นแน่นอน ถ้าสาวๆ อยากรู้กันแล้วก็มาเริ่มดูที่ทริคดูแลสีผมกันก่อนเลย


1. ใช้แชมพูสำหรับดูแลสีผม


อย่างที่สาวๆ รู้กันว่าหลังจากย้อมผมมาเราไม่ควรสระผมทันทีอย่างน้อย 3 วัน ซึ่งในวันที่ 4 ก่อนที่จะสระผมได้นั้น เราก็ต้องเลือกแชมพูในการสระหรือรักษาสภาพสีผมของเราไม่ให้หลุดได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นแชมพูที่ดีจะต้องเป็นแชมพูสูตรพิเศษสำหรับผมทำสีถึงจะดีที่สุด ส่วนส่วนผสมในแชมพูที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ซัลเฟตและแอลกอฮอล์ เนื่องจากมันสามารถดึงความชื้นออกจากเส้นผมของสาวๆ ได้ทำให้สีผมที่ย้อมหลุดออกและจางเร็วนั่นเอง
 

2. ใช้ Dry shampoo
 

การสระผมทำให้เราสบายหัวและช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกได้ดี แต่สำหรับคนที่ทำสีผม การย้อมผมบ่อยๆ จะทำให้ผมสูญเสียน้ำมันที่หนังศีรษะตามธรรมชาติไป ทำให้ผมกรอบแห้ง ไม่เงางามและทำให้สีผมที่ย้อมมาหมองเร็วขึ้นอีกด้วย การใช้ Dry shampoo ระหว่างวันจะช่วยดูดซับความมันแทนการสระผมและช่วยลดความสกปรกแทนการสระผมได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่ช่วยชะลอการหลุดของสีผมได้อีกด้วย


3. เลี่ยงการโดนความชื้น
 


ความชื้นเป็นศัตรูตัวดีที่จะทำให้สีผมของสาวๆ เฟดได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะมาจากการอยู่ในห้องน้ำระหว่างอาบน้ำเป็นเวลานาน หรืออยู่ในช่วงหน้าฝนที่ทำให้ผมเปียกได้ง่าย ความชื้นแฉะในอากาศเหล่านี้จะทำให้สีผมสวยๆ ที่ย้อมมาสีจางได้เร็วขึ้น การใส่หมวกคลุมผมระหว่างอาบน้ำ และการปกป้องผมด้วยเซรั่มเป็นทางออกในการปกป้องสีผมได้ดี และเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้สีผมซีดได้ยากขึ้น
 

4. เลี่ยงความร้อน
 
 
การใช้ความร้อนดัดแต่งทรงผมเป็นการทำร้ายผมที่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ว่าสาวๆ จะทำสีผมหรือไม่ได้ทำสีผมก็ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมให้มากที่สุด เพราะความร้อนจะทำให้ผมเราเสียได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสระผมด้วยน้ำร้อนจัด, การเป่าผมด้วยไดร์เป่าผมร้อน, การดัดลอนและรีดผม สามารถทำลายชั้นเคราตินที่มีสีผมเคลือบอยู่ได้ง่ายและทำให้ผมแห้ง ไม่แข็งแรง สีผมอาจเกิดการเพี้ยนและหลุดได้เร็วขึ้นอีก การใช้สเปรย์ก่อนจัดแต่งทรงผมสามารถช่วยทำให้ผมเสียน้อยลงและทำให้สีผมหลุดได้ยากขึ้น
 

5. ใช้ทรีตเมนต์บำรุงผม
 

 เวลาเราหิวน้ำ ปากเราก็จะปากแห้งและอยากหาน้ำดื่มใช่ไหมคะ ผมของเราก็เหมือนกันค่ะ ถ้าผมเราไม่ได้รับการบำรุงเพียงพอมันก็จะแห้งและขาดออกจากกันในที่สุด การใช้ทรีตเมนต์บำรุงสีผมจะทำให้สีผมเราอยู่ติดทนสวยเงางามมากขึ้น ซึ่งทรีตเมนต์บำรุงสีผมจะมีทั้งแบบที่ล้างออกได้และไม่ต้องล้างออก โดยทรีตเมนต์ที่ล้างออกได้จะใช้หมักผมตอนผมเปียกหมาดทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก ส่วนทรีตเมนต์ที่ไม่ต้องล้างออกสามารถใช้ตอนผมแห้งได้ โดยทรีตเมนต์แบบนี้จะช่วยลดปัญหาผมชี้ฟูจากการโดยความร้อนของแสงแดดและอุปกรณ์ทำความร้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้สีผมไม่เพี้ยนและอยู่ได้นานขึ้น


6. การกินอาหารที่มีประโยชน์
 

 
เรื่องนี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สำคัญมากก็คือเรื่องการรับสารอาหารเข้ามาในร่างกายจากการกินอาหารตามแต่ละวัน ซึ่งถ้าสาวๆ ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมก็อาจจะทำให้เคราตินในเส้นผมไม่แข็งแรงและขาดร่วงได้ง่าย ยิ่งเป็นผมทำสียิ่งไม่แข็งแรง ดังนั้นการกินอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนและธาตุเหล็ก อย่างเช่น เนื้อไม่ติดมัน, ปลา, ชีส, ไข่ขาว, ผักขมและถั่วเหลือง สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเคราตินบนเส้นผมได้ ทำให้สีผมของเราเงางาม มีน้ำหนักและทำให้สีผมที่ย้อมมาไม่หลุดง่ายๆ อีกด้วย


หลังจากรู้วิธีการดูแลสีผมไปแล้ว เราก็มาต่อกับตัวช่วยคนกัดสีผมให้อยู่ทน อยู่นาน สีไม่เพี้ยนเร็วกันดีกว่าค่ะซิส ว่ามีตัวไหนน่าโดนน่าตำกันบ้าง
 

1. WELLA BLONDOR MULTI BLONDE POWDER LIGHTENER
 


 สำหรับตัวช่วยกัดสีผมตัวแรกที่ได้รับการรับการโหวตว่าเป็น Best of the Best product สำหรับการกัดสีผมให้อ่อนลง แต่ถนอมผม ดีต่อสุขภาพผม แถมไม่ทำให้ผมแห้งเสีย ซึ่งให้ผลลัพธ์เหมือนทำมาจาก salon เลยเพราะสามารถเปลี่ยนโทนสีผมเข้มที่สุดให้เป็นสี platinum blonde ได้ในราคาที่ไม่ได้แรงเกินไป สาวๆ ที่ไม่อยากไปย้อมผมเองที่ร้านสามารถทำเองได้ในราคาที่ประหยัดมากขึ้นอีกด้วย
 

2. Schwarzkopf BLONDME
 

มาต่อกับตัวกัดสีผมตัวที่ 2 ที่สามารถยกระดับสีผมได้ถึง 9 ระดับ โดย BLONDME ของ Schwarzkopf ได้ใช้นวัตกรรม Bonding technology คือมีการใช้กรด succinic เข้ามาช่วยในการฟอกสีผมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่มีกลิ่นของสารฟอกสีมารบกวน แถมหลังย้อมยังทำให้ผมแข็งแรงและยืดหยุ่นได้เหมือนเดิม หมดปัญหากัดสีผมแล้วแห้งกรอบแน่นอน
 

3. MANIC PANIC Flash Lightning Hair Bleach Kit
 

มาถึงตัวกัดสีผมตัวที่ 3 ที่มือใหม่อยากย้อมผมจะต้องแฮปปี้อย่างแน่นอน เพราะราคาไม่แพงแต่ให้อุปกรณ์ต่างๆ มาครบครันสุดๆ ทั้ง Developer, ชาม, ถุงมือ, หมวกและแปรง ซึ่งเหมาะกับการย้อมสีผมแบบ highlights หรือ ombré ที่ไม่ได้อยากใช้ย้อมสีผมทั้งหัว ตัวเลือกนี้ถือว่าดีมากๆ แต่ถ้าสาวๆ อยากใช้ย้อมสีผมแบบทั้งหัวอาจจะต้องซื้อมาเพิ่มสัก 2-4 กล่องนะคะ

 
4. Jolen Creme Bleach Formula plus Aloe Vera
 

 
สำหรับตัวกัดสีผมตัวสุดท้ายที่สาวๆ สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายที่ไม่ว่าจะย้อมคิ้ว, ย้อมหนวดเครา, ผมบนใบหน้าหรือกัดสีผมใหม่ก็สามารถใช้ได้ง่ายและใช้ได้นาน แม้แต่ผิวที่แพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ เพราะมีส่วนผสมของ Aloe Vera ทำให้เกิดการแพ้น้อย แต่ถ้ากัดสีผมแล้วยังเป็นสีส้มอยู่ สาวๆ อาจจะต้องลงซ้ำและทิ้งไว้ให้นานขึ้นกว่าเดิม แต่โดยรวมถือว่าเป็นตัวเลือกในการกัดสีผมที่เริ่ดมากสำหรับสาวๆ ที่มีผิวบอบบางนะคะ
 

จบลงไปแล้วกับ “แจกทริคดูแลสีผม+ตัวช่วยคนกัดสีผมให้อยู่ทน อยู่นาน สีไม่เพี้ยนเร็ว” สำหรับสาวๆ มือใหม่ที่อยากลองกัดสีผมและดูแลเส้นผมหลังกัดสีด้วยตัวเอง หวังว่าจะได้ทริคและไอเทมที่โดนใจกลับไปลองใช้ตามบ้างนะคะ สีผมกัดให้สวยได้แต่อย่าลืมดูแลรักษาผมไว้ให้ดีด้วยนะคะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะคะซิส บ๊ายบายย~

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook