5 คีย์เวิร์ดความสุขของ “โสภิตชิทแชท” เน็ตไอดอลวัย 60 ที่อายุก็หยุดความแซ่บไม่ได้

5 คีย์เวิร์ดความสุขของ “โสภิตชิทแชท” เน็ตไอดอลวัย 60 ที่อายุก็หยุดความแซ่บไม่ได้

5 คีย์เวิร์ดความสุขของ “โสภิตชิทแชท” เน็ตไอดอลวัย 60 ที่อายุก็หยุดความแซ่บไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ผู้สูงอายุ” ช่วงวัยที่ใครๆ ต่างก็รู้สึกหดหู่เมื่อนึกถึง ทั้งสภาพร่างกายที่ร่วงโรย เชื่องช้า ไม่แข็งแรงกระฉับกระเฉงเหมือนวัยหนุ่มสาว และแสงแห่งความหวังที่ใกล้จะดับลงในวันที่ความตายใกล้เข้ามา แต่สำหรับ “โสภิต สุนทรธนสถิตย์” เน็ตไอดอลวัย 60 ปี เจ้าของเพจ “SopitChitchat โสภิตชิทแชท” ความชราดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลเท่าไรนัก เพราะในวัยที่เรียกว่าบั้นปลายของชีวิต เธอยังคงสนุกกับการแต่งกายในสไตล์ต่างๆ ตั้งแต่ผ้าไทยสวยอลังการ ไปจนถึงบิกินีสุดแซ่บอวดรูปร่างและผิวพรรณสวยงาม และยังสร้างสีสันในโลกออนไลน์แบบไม่เกี่ยงแพลตฟอร์ม ราวกับว่าความสุขของเธอนั้นล้นปรี่และกระจายไปถึงคนรอบข้างและผู้ติดตามในโลกออนไลน์เลยทีเดียว

เพราะความสุขของผู้สูงวัยหัวใจวัยรุ่นผู้นี้ดูจะโดนใจคนยุคนี้ไม่น้อย Sanook จึงเดินทางไปเยี่ยมบ้านของโสภิต เพื่อสำรวจคลังความสุขของเน็ตไอดอลวัย 60 ปี ถึงที่มาของความสุขและเคล็ดลับการใช้ชีวิตแบบสูงวัยอย่างมีความสุขของเธอ

โสภิต สุนทรธนสถิตย์โสภิต สุนทรธนสถิตย์

ความสุขจากสุขภาพที่ดี

จุดเด่นของโสภิตอย่างหนึ่งที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในโลกออนไลน์ คือรูปร่างที่ผอมเพรียวและกระชับจนสาวๆ หลายคนอิจฉา เธอเล่าให้ฟังว่า ทุกวันนี้เธอตรวจสุขภาพทุกปี และพบว่าร่างกายโดยรวมยังแข็งแรง แต่ก็ยังมีภาวะน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือดสูง จึงทำให้เธอออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควบคุมอาหารการกิน

“เรารู้สึกว่า ชีวิตเรา 60 แล้ว จะเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้อีกนานแค่ไหน ถ้าเราไม่รักตัวเอง ไม่ดูแลตัวเอง เป็นภาระให้กับคนข้างหลัง ความสุขของเราก็คงเหลือน้อยไปเรื่อยๆ ก็ดูแลตัวเองมากขึ้น ควบคุมการกินอาหารบ้าง ลดสิ่งที่เป็นโทษกับเราลง แต่ไม่ใช่ไม่กินนะคะ ให้รางวัลกับชีวิต ดิฉันยังกินอยู่เหมือนเดิม เพราะว่าถ้าไม่กินตอนนี้แล้วจะไปกินตอนที่เขาเอามาไหว้ฉัน ฉันก็ไม่รู้เรื่องหรอก ไม่มีประโยชน์” โสภิตเล่าเสียงใส

โสภิตเปิดเผยว่า เธอเป็นคนรักการใส่รองเท้าส้นสูงมาก จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เธอใส่ใจดูแลตัวเอง เพื่อให้สามารถใส่รองเท้าส้นสูงเดินไปไหนมาไหนกับครอบครัวได้ ซึ่งวิธีการออกกำลังกายของเธอก็ไม่ได้เคร่งเครียดจริงจังมากนัก แต่เป็นการออกกำลังกายตามกิจวัตรประจำวัน ตั้งแต่การตื่นแต่เช้ามารดน้ำต้นไม้บริเวณบ้าน ทำงานบ้านเอง รวมถึงลงมือทำงานในโรงงานที่เป็นธุรกิจของครอบครัว

“คุณแม่ยังเป็นคนทำงาน ทุกวันนี้ทำงานหนักมาก บางทียกของที 10 กก. 8 กก. หนักมาก เราก็ถือว่ากล้ามเนื้อเรายังคงแข็งแรง วันหนึ่งถ้าเราทำไม่ไหว ก็คือร่างกายมันก็เสื่อมไปตามวัย จะให้สดใสเหมือนคนอายุ 20 – 30 มันคงไม่ใช่ แต่ว่าก็อยากจะพยุงร่างกายที่ตัวเองยังคงอยู่อย่างนี้ แล้วก็เดินไปไหนกับลูกได้ ไปทานข้าวกับสามีก็เดินกันสองคนตายาย ไม่ต้องเป็นภาระให้ใครมาจูงฉัน คือจริงๆ วันหนึ่งภาพนั้นมันต้องมี แต่ฉันยังไม่อยากให้ภาพนั้นมันเกิดกับฉันตอนนี้” โสภิตกล่าว

ความสุขจากการแต่งกาย

นอกจากรูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์มแล้ว ตัวตนของโสภิตที่เรียกเสียงฮือฮาในโลกออนไลน์ได้ไม่น้อย คือการแต่งกายที่แซ่บระดับพริกยกสวน ตั้งแต่ผ้าไทยที่ตัดเย็บเป็นชุดสุดเก๋ ไปจนถึงบิกินีที่ทำเอาทะเลเดือดกันเลยทีเดียว ซึ่งโสภิตระบุว่า เธอเป็นคนที่สนุกกับการแต่งกายมาตั้งแต่ยังใช้คำนำหน้าว่าเด็กหญิงนั่นแหละ

“เราไม่ใช่คนสวย การแต่งตัวให้สวยก็ทำให้เรามีความสุขไง ตามแฟชั่นไหมเหรอ อาจเป็นการประยุกต์ใช้ดีกว่า บางครั้งเราหยิบผ้าผืนหนึ่งมาพันๆ ผูกๆ ใส่กับเสื้อกล้ามตัวหนึ่ง ฉันก็ออกไปเดิน ใส่กับรองเท้าผ้าใบ ฉันก็คิดว่านั่นก็คือฉัน ฉันชอบ คนบอกว่า เฮ้ย! ทำไมแกแต่งตัวแบบนี้ล่ะ ก็เพราะว่าฉันชอบและมันประหยัด ฉันสามารถหยิบอะไรก็ได้มาใช้ มันก็เลยเป็นการแต่งตัวที่เป็นรูปแบบที่เป็นตัวตนของตัวเองมากกว่า”

โสภิตอธิบายว่า การแต่งกายเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญก็คือความมั่นใจ เพราะหากไม่มีความมั่นใจ ไม่ว่าเสื้อผ้าสวยงามแค่ไหนก็ไม่ปังอยู่ดี

“จริงๆ เสื้อผ้า คุณก็ต้องใส่เสื้อ ใส่กางเกง ใส่กระโปรง เหมือนกันหมดในชีวิตประจำวัน เพียงแต่ใส่อย่างไรแล้วคุณรู้สึกว่า เออ มันดูดีนะ คุณชอบนะ เป็นตัวเอง ถ้าคุณไม่มั่นใจ คุณใส่อย่างไร ให้สวยแค่ไหนคุณก็ไม่มีความสุข ความสุขมันเริ่มจากใจเราข้างในเลยนะ แล้วเราเดินออกจากบ้าน วันนี้ฉันยิ้ม ฉันสวยจัง ใครไม่ชมฉันไม่เป็นไร ฉันชมตัวเอง”

SopitChitchat โสภิตชิทแชท

อย่างไรก็ตาม ภาพคอสตูมจี๊ดๆ ของเธอในโลกออนไลน์ก็ไม่ได้มีแต่เสียงชื่นชมเพียงอย่างเดียว แต่ยังพ่วงมากับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ที่หลายคนยังมองว่าเธอแต่งกายไม่เหมาะสมกับวัย โสภิตกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญก็คือความสุขของผู้สวมใส่เสื้อผ้าและความรู้สึกของคนรอบข้างมากกว่า ซึ่งทุกวันนี้สามีและลูกก็ยังรักและภูมิใจในสิ่งที่เธอเป็น

“เอาง่ายๆ แล้วกัน อยู่กับสามีมา 30 กว่าปี 32 ปีแล้วมั้ง วันแรกที่เราเที่ยวกัน ดิฉันแต่งตัวแหวกหลังลึกถึงเอว ไม่ต้องเปลี่ยน ไม่ต้องปลอมเปลือกว่าฉันจะต้องดูดีนะ นี่คือตัวฉัน จะอยู่กับฉัน ฉันเป็นแบบนี้ เปลี่ยนฉันไม่ได้ แต่ส่วนดีๆ ของฉันก็มี นั่นก็แค่การแต่งตัว เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน หรือส่วนหนึ่งในชีวิตที่เราจะดำรงอยู่ต่อไป มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ก็แค่เป็นภาพลักษณ์ภายนอก”

ความสุขจากคนข้างกาย

“ความสุขไม่ใช่วัตถุสำหรับโสภิต ความสุขคือสิ่งละอันพันละน้อยที่ทำแล้วเรามีความสุข คนที่ได้รับมีความสุข นั่นแหละคือความสุขจริงๆ” โสภิตกล่าวถึงความหมายของความสุข ที่เธอค่อยๆ ก่อร่างสร้างขึ้น และส่งผลให้ครอบครัวของเธอแข็งแรงมานานกว่า 30 ปี

โสภิตกล่าวว่า แม้ว่าจะใช้ชีวิตคู่มานานถึง 32 ปี แต่ทุกวันนี้เธอและสามีก็ยังคงหวานกันไม่เปลี่ยน เพราะตัวเธอคอยเติมความหวานให้กับชีวิตรักตลอดเวลา ผ่านการดูแลเอาอกเอาใจ คำพูดที่ไพเราะ และการอยู่เคียงข้างกันทั้งในยามสุขและทุกข์

“ทุกครั้งที่มีปัญหา คนที่ยืนข้างเราคือเขา และคนที่ยืนข้างเขาคือเรา วันที่เราล้ม ไม่เคยร้องไห้ เราต่างให้กำลังใจกัน และวันที่เราไม่มี เราก็อดพร้อมกัน เราเหนื่อย เราก็เหนื่อยพร้อมกัน วันนี้ 60 แล้ว เรายังทำงานเหมือนเดิม แต่เรามีความสุขมากขึ้นเพราะสิ่งที่เราสร้าง บ้านที่เราสร้าง เสาของมันมั่นคงและแข็งแรง ไม่มีพื้นที่ที่จะให้ใครเข้ามา ดังนั้น ไม่เคยกังวลเลยถ้าสามีจะออกไปเที่ยวข้างนอกแล้วจะมีมือที่สาม ฉันแก่แล้วจะมีคนมาฉกชิงวิ่งราวสามีฉัน ไม่เคยกลัว เพราะไม่ได้มั่นใจตัวเอง เพราะสิ่งดีๆ ที่เราทำไป มันอยู่ในหัวใจเขาแล้วไง” โสภิตกล่าว

SopitChitchat โสภิตชิทแชท

นอกจากการเป็นภรรยาแล้ว อีกหนึ่งหน้าที่ที่โสภิตภาคภูมิใจมากที่สุดคือการเป็นคุณแม่ของลูก 3 คน ซึ่งเธอเล่าอย่างมั่นใจว่า ที่ผ่านมาเธอทำหน้าที่แม่ได้อย่างดีที่สุด จนกระทั่งวันนี้ที่ลูกๆ เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว หน้าที่ของเธอจึงไม่ใช่การคอยประคบประหงมลูก แต่เป็นผู้ที่คอยเฝ้าดูและชื่นชมยินดีในความสำเร็จของลูก และจะเป็นคนที่คอยรับฟังพวกเขาเมื่อเกิดปัญหา

“เราไม่ได้แบ่งภาคหรอก เราทำหน้าที่ในแต่ละเวลา แต่ละขั้นตอนให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของแม่ ลูกโตแล้ว เราก็ยืนห่างๆ เขา วันหนึ่งที่เขาต้องการคำปรึกษา เขาก็จะบอกเรา หรือมีสิ่งดีๆ เขาก็จะมาบอกเรา เราไม่ต้องเข้าไปในพื้นที่ของเขาแล้ว เพราะว่าพื้นที่ของเขาเป็นพื้นที่ที่เติบโตไปตามวัย เขาไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่ต้องการเรา แต่เขาต้องการให้เราอยู่ห่างๆ และดูแลเขา ชื่นชมยินดีเมื่อเขาสำเร็จ เมื่อเขามีปัญหา เขามาบอกเรา เราก็ช่วยกันแก้ไข”

ในขณะที่ครอบครัวอื่นๆ เผชิญกับปัญหาช่องว่างระหว่างวัย และความไม่เข้าใจกันของคนรุ่นพ่อแม่กับรุ่นลูก โสภิตเล่าว่า ครอบครัวของเธอมีช่องว่างระหว่างกันน้อยมาก เนื่องจากทุกคนในครอบครัวให้ความสำคัญกับการสื่อสารความรู้สึก และแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ เธอก็ไม่เคยลังเลที่จะขอโทษลูกก่อน

SopitChitchat โสภิตชิทแชท

“ขณะที่ลูกกำลังโต คุณแม่ก็ทำงานหนักมาก บางครั้งเราใส่สีหน้า ใส่อารมณ์ ลูกก็รู้สึกเก็บไง อะไรที่มันเก็บสะสมบ่อยๆ มันหนา มันพอกพูน คุณจะไปขูดความรู้สึกเหล่านั้นออก มันยาก เจอแล้วต้องคุย แล้วเมื่อรู้สึกว่าเราผิด เราก็ขอโทษ พูดไปเถอะ คำว่าแม่ขอโทษไม่ได้ ไม่มี ลูกก็ลองถามเหตุผลแม่ด้วยว่าทำไมรู้สึกอย่างนี้ วันนั้นแม่อาจจะเหนื่อยก็ได้ แม่อาจจะมีปัญหา คือสารพัดชนิดที่มันเกิดขึ้นในตัวเรา ถ้าเราเก็บ เก็บ แล้วก็เก็บ วันหนึ่งที่มันระเบิดออกมา ช่องว่างระหว่างวัยมันจะระเบิด แล้วกลายเป็นหลุมอากาศ ที่มันจะล่องลอยและต่อกันไม่ติดเลยค่ะ”

ความสัมพันธ์ของโสภิตกับลูกๆ ในทุกวันนี้จึงเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่เดินทางท่องเที่ยว ทำกิจกรรมด้วยกัน และแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันแบบที่ไม่มีใครอาบน้ำร้อนมาก่อนใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องโซเชียลมีเดีย ที่ลูกๆ เป็นคนแนะนำให้เธอใช้ จนเธอได้ค้นพบสิ่งที่น่าสนใจมากมาย

นอกตำราเรียนเราจะบอกว่าเราอาบน้ำร้อนมาเยอะมากแล้ว เราเรียนรู้มาเยอะมากๆ แล้ว มันก็แค่ส่วนหนึ่งของชีวิต วันนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นโลกดิจิทัล มีโลกโซเชียลที่เข้ามา มีอะไรให้เราเรียนรู้ การเรียนรู้ตรงนั้นมันก็เหมือนเราเริ่มนับหนึ่ง วันนี้เราแก่ แน่นอนเราช้า ไม่เหมือนรุ่นที่เราเคยเป็นหนุ่มเป็นสาว แต่สายไปไหม ไม่สายไป แล้วสนุกไหม สนุก” โสภิตกล่าว

โสภิตชิทแชท

“มันมีคำพูดที่ว่าคนแก่ไม่ต้องมูฟออนไปไหนแล้ว ควรใช้ชีวิตเกษียณ อยู่บ้านเลี้ยงหลาน ปลูกต้นไม้ ทุกวันนี้ จะบอกว่าเป็นคนอะไรก็ไม่รู้นะ ฉันก็เล่นทุกแอปพลิเคชัน เล่นเพราะว่าอยากรู้ไงว่าโลกมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง” โสภิตเริ่มเล่าถึงการก้าวเข้าสู่โลกโซเชียล ที่เธอมีบัญชีในทุกแอปพลิเคชัน ตั้งแต่แพลตฟอร์มรุ่นบุกเบิกอย่าง Facebook ไปจนถึงแพลตฟอร์มยอดฮิตล่าสุดอย่าง TikTok

โสภิตเล่าว่า ก่อนที่จะกลายเป็นเน็ตไอดอล เธอก็โพสต์ภาพไลฟ์สไตล์ของตัวเองลงใน Facebook เช่นเดียวกับคนทั่วไป ทว่าความโดดเด่นในเรื่องการแต่งกายแบบไม่แคร์อายุ ก็ทำให้ภาพของเธอถูกนำไปลงในทวิตเตอร์ และถูกรีทวีตไปกว่า 5 หมื่นครั้ง กลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน จากนั้น ลูกก็แนะนำให้เธอเปิดแฟนเพจ ในชื่อว่า “SopitChitchat โสภิตชิทแชท ” ซึ่งนำเสนอภาพไลฟ์สไตล์สนุกๆ ของโสภิต รวมทั้งข้อคิดดีๆ เพื่อส่งพลังบวกให้กับคนทั่วไป ซึ่งขณะนี้เพจโสภิตชิทแชทมีผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนคน

และก็เป็นเช่นเดียวกับคนดังในโลกออนไลน์คนอื่นๆ ที่ต้องเจอกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบจากเหล่าเกรียนคีย์บอร์ด ซึ่งประเด็นนี้ โสภิตกล่าวว่าเธอสามารถรับมือกับ “คอมเมนต์ขยะ” ได้ไม่ยาก เนื่องจากเธอมีภูมิต้านทานที่แข็งแรง จากการใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน

“วันหนึ่งมีคนบอกว่า เฮ้ย แต่งตัวอย่างนี้ หรือทำอันนู้นอันนี้ไม่เหมาะสม ต้องไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ฉันยังไม่มีหลานนี่ ฉันจะไปเลี้ยงลูกทำไม ลูกฉันโตแล้ว คุณป้าไม่เข้าวัดเข้าวา การทำความดีนะคะ มีตั้งหลากหลายทาง ดิฉันเลือกทำได้ ไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน เพราะว่าคนเราน่ะ มุมใครมุมมัน ชีวิตใครชีวิตมัน สิ่งที่คุณเป็น ดีก็เรื่องของคุณ ส่วนฉัน ชอบแบบไหนมันก็เรื่องของฉัน”

“แต่ก่อนไม่รู้จักคำว่าบูลลี่ รู้จักแต่คำว่าต่อว่า ที่แท้มันคือการบูลลี่ แก่หน้าเหี่ยว อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่รู้จักเจียม ฉันรู้ว่าฉันแก่ ไม่เคยบอกว่าฉันไม่แก่ ไม่เคยปฏิเสธเลยนะ เพียงแต่ว่า แล้วไงล่ะ ก็ฉันชอบอย่างนี้ แล้วก็ไม่ใช่ปัญหาของชีวิตฉันเลย ปัญหาของชีวิตฉันเหรอ ฉันคิดว่ามันไม่มี งานหนักฉันก็สู้ สิ่งดีๆ ฉันก็ทำ เพราะฉะนั้น ความสุขของฉันมันคือเรื่องนี้ ฉันจะเก็บเอาไว้ค่ะ”

สูงวัยอย่างมีความสุข

ขณะที่คนทั่วไปมองว่าวัยชราเป็นความหดหู่ ไม่สดใสเหมือนวัยหนุ่มสาว แต่ดูเหมือนว่ามุมมองนี้จะใช้ไม่ได้กับโสภิต เพราะเธอยังคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนฝูงทั้งในชีวิตจริงและโลกออนไลน์ ซึ่งเธอบอกว่า ทุกวันนี้ยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองอายุ 60 ปีแล้ว

“ชราอย่างไรให้มีความสุขก็หมายถึงว่า เก็บส่วนดีๆ ในแต่ละวัน คัดส่วนที่ไม่ดีและไม่ใช่ความสุขของเราออกไป เราคัดได้นะ สายตาเราบอกเลยว่า เพื่อนคนนี้เสียอารมณ์กับการพูดคุย เพื่อนคนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ กับเรา คัดมันไปเถอะค่ะ ชีวิตที่ไม่ดี เอาออกไป”

“ตอนนี้ฉันแก่แล้ว จะอายุยืนถึง 80 – 90 ไหม ฉันไม่รู้ แต่ฉันจะแก่อย่างคนมีคุณภาพ ฉันจะแก่อย่างคนที่แข็งแรง วันหนึ่งที่ฉันไม่แข็งแรง ถ้าฉันสร้างความสุขไปเรื่อยๆ ฉันก็มีแต้มบุญ ฉันก็สะสมความสุขฉันไปแล้ว ลูกๆ ก็ดูแลฉัน ไม่ดูแลก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่า อย่ากังวลความแก่ ริ้วรอยมันมาตามอายุ ไม่พอใจ ไปทำเลยค่ะ เสริมความงามเยอะแยะ อะไรที่ไม่ดี ไปทำเลยค่ะ แต่ถ้าคิดว่าความสุขของคุณ เรื่องความแก่เป็นเรื่องไม่ใหญ่โต ทุกๆ วันคุณจะดำรงชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ” โสภิตทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้ม

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ ของ 5 คีย์เวิร์ดความสุขของ “โสภิตชิทแชท” เน็ตไอดอลวัย 60 ที่อายุก็หยุดความแซ่บไม่ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook