แป้งฝุ่น vs แป้งพัฟ ใช้ต่างกันยังไง และตลับไหนที่สายบิวตี้ควรมี?
หลังจากที่ HELLO! เคยพาสายบิวตี้ไปไขข้อสงสัยเรื่องสกินแคร์อย่าง โทนเนอร์ vs น้ำตบ และ อิมัลชั่น vs โลชั่น มาแล้ว ครั้งนี้ก็ถึงคราวเดินทางมายังฝั่งเมกอัพกันบ้าง และปัญหาโลกแตกข้อแรกที่สายบิวตี้มือใหม่มักเจอคือ “แป้งฝุ่น” ต่างกับ “แป้งพัฟ” ยังไง? เพราะเวลาเดินไปเคาท์เตอร์เครื่องสำอางที ก็เจอแป้งมากมายหลากหลายแบบ ทั้งฝุ่น ทั้งโปร่งแสง ทั้งอัดแข็ง ทั้งผสมรองพื้น ไหนจะแป้งฟินิชชิ่งอีก เรียกว่ามีเยอะแยะหลากหลายประเภทจนทำเอาปวดหัวหลายตลบ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมารู้จักความแตกต่างของแป้งแต่งหน้าแต่ละชนิด รวมถึงชี้เป้าว่ายี่ห้อไหนดี ตลับไหนต้องโดน!
รู้จัก “แป้งฝุ่น” หรือ Loose Powder
สามารถช้อปออนไลน์ได้ที่ Lazada
ก่อนที่เราจะตอบคำถามได้ว่า “แป้งฝุ่น” ต่างกับ “แป้งพัฟ” ยังไง? เราก็ต้องรู้จักก่อนว่าแล้วเจ้าแป้งฝุ่นนี่มันคืออะไรกันแน่ สำหรับแป้งฝุ่นหรือ Loose Powder นั้นค่อนข้างแยกจากประเภทอื่นได้ง่าย เพราะรูปลักษณ์หน้าตาที่มาเป็นฝุ่นผงละเอียด ไม่เซ็ตตัวเป็นแผ่นแข็ง แบ่งแยกออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ แป้งฝุ่นมีสี , แป้งฝุ่นโปร่งแสง (Translucent) และแป้งฝุ่น Mineral
แป้งฝุ่นมีสี มักใช้ในขั้นตอนหลังจากลงรองพื้นหรือคุชชั่นเสร็จแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเซ็ตเครื่องสำอางที่เป็นเนื้อครีมให้เซ็ตตัว ไม่เยิ้มไม่มันระหว่างวัน รวมถึงยังช่วยให้ใบหน้าดูผ่องสว่างขึ้นตามสีของแป้ง และประโยชน์ข้อสุดท้ายคือช่วยเบลอรูขุมขนให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้นนั่นเอง
สามารถช้อปออนไลน์ได้ที่ Lazada
สำหรับ แป้งฝุ่นโปร่งแสง (Translucent) หรือแป้งฝุ่นไม่มีสี เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่สายบิวตี้ เพราะไม่ว่าสีผิวไหนก็สามารถใช้ได้ ไม่ดูวอกหรือลอย นอกจากนี้ยังถูกใจสาวผิวมันเพราะช่วยเซ็ตเครื่องสำอางให้ติดทนนานยิ่งขึ้น
สามารถช้อปออนไลน์ได้ที่ Cantral
สุดท้ายคือ แป้งฝุ่น Mineral เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย หรือใครที่เป็นสายสกินแคร์อยากบำรุงผิวแม้ในขั้นตอนแต่งหน้า ก็แนะนำเลยว่าแป้งฝุ่นชนิดนี้เหมาะกับคุณอย่างมาก
รู้จัก “แป้งพัฟ” หรือ Pressed Powder
สาเหตุที่ถูกเรียกว่า “แป้งพัฟ” นั่นก็เพราะว่าแป้งชนิดนี้จะต้องใช้คู่กับพัฟเสมอนั่นเอง หรือหลายคนก็รู้จักในชื่อ “แป้งอัดแข็ง” (Pressed Powder / Compact Powder) ด้วยเนื้อแป้งละอองนวลเนียนที่ถูกนำมาอัดให้แข็งแน่นเป็นแผ่น สามารถใช้พัฟกดขึ้นเบาๆ และเติมลงบนใบหน้า ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดี และให้ลุคที่แน่นกว่าการใช้แป้งฝุ่นกับแปรงปกติ โดยแป้งพัฟนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ก็คือ แป้งฝุ่นอัดแข็ง และ แป้งผสมรองพื้น
แป้งฝุ่นอัดแข็ง มีความคล้ายกับแป้งฝุ่น ให้ฟินิชลุคไม่ต่างกับแป้งเนื้อฝุ่นฟุ้งละเอียด แต่สิ่งที่ต่างคือเรื่องการใช้งานที่พกพาสะดวก เหมาะสำหรับนำไปซับหน้าระหว่างวันให้ผิวดูผ่องนวล สามารถจบในตลับเดียว ไม่ต้องพกแปรงหัวนุ่มฟู หรือคอยนั่งเคาะผลิตภัณฑ์ออกมาใช้จนเลอะเทอะ
สามารถช้อปออนไลน์ได้ที่ Lazada
ขณะที่ แป้งผสมรองพื้น จะให้ลุคที่แน่นขึ้นมาสำหรับวันที่ต้องการความเป๊ะยิ่งขึ้น โดยเนื้อแป้งฝุ่นจะถูกนำไปผสมกับครีมรองพื้นและอัดเป็นแผ่นแข็ง ใช้คู่กับพัฟเนื้อเนียน แตะบนผลิตภัณฑ์และกดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าเพื่อสร้างผิวเนียนสวยกริ๊บ จะใช้แทนรองพื้นไปเลยก็ได้ หรือจะใช้เสริมหลังจากลงรองพื้นไปแล้วก็จะให้โททัลลุคที่แน่นและติดทนนานสุดๆ ทั้งยังพกพาสะดวกเหมาะจะใช้เติมระหว่างวันกรณีที่หน้าหลุด
แป้งฝุ่น vs แป้งพัฟ ตลับไหนที่เหมาะกับฉัน ?
จากที่ได้รู้จักแป้งทุกประเภทกันไป สายบิวตี้ก็คงมีตลับที่เล็งไว้ในใจกันบ้างแล้ว แต่ HELLO! ขอช่วยเคลียร์ทุกความลังเลใจให้สาวๆ ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับ แป้งฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบบมีสีหรือไม่มีสี เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าลุคธรรมชาติ เน้นงานเผยผิวเบาๆ ไม่ชอบความรู้สึกหน้าแน่น โดยคนที่ผิวมันไม่ต้องกลัวว่าจะแค่แป้งฝุ่นจะเอาไม่อยู่ เพราะสามารถเลือกรุ่นและยี่ห้อที่เน้นเรื่องการคุมมันได้ และถ้าระหว่างวันเกิดหน้าเยิ้มหน้ามันขึ้นมา แนะนำให้ใช้ทิชชู่ซับใบหน้าเบาๆ ก่อนลงแป้งฝุ่นทับ วิธีนี้จะไม่ทำให้ผิวอุดตันและเกิดสิวได้
ส่วน แป้งพัฟ หรือ แป้งอัดแข็ง นั้น เหมาะที่จะใช้พกพาไปเติมระหว่างวัน หรือจะพกไปเที่ยวด้วยก็สะดวกสบายมั่นใจว่าจะไม่หกเลอะเทอะ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็ว เพราะสามารถใช้แค่แป้งผสมรองพื้นหลังจากทาครีมกันแดดและคอนซีลเลอร์เลยก็ได้ ทั้งยังเป็นไอเท็มเด็ดช่วยล็อกเครื่องสำอางให้ติดแน่นทนนานตลอดทั้งวันอย่างแท้จริงถ้าใช้ควบคู่กับรองพื้น เหมาะสำหรับวันที่ต้องสวยเป๊ะตั้งแต่เช้าจรดค่ำนั่นเอง
แล้ว แป้งฟินิชชิ่ง คืออะไร ?
ปิดท้ายด้วย แป้งฟินิชชิ่ง หรือเนื้อแป้งอณูละเอียดบางเบาที่ใช้เป็นลำดับสุดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จ ช่วยเก็บรายละเอียดให้เมคอัพลุคของเราสวยเป๊ะยิ่งขึ้น รวมถึงหลายๆ ยี่ห้อยังผสมประกายกลิตเตอร์ขนาดเล็กลงไปเพื่อช่วยหักเหแสงบนใบหน้า เวลาโดนแดดหรือเจอไฟก็จะทำให้ผิวดูเปล่งประกายเล่นแสงสุขภาพดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
สามารถช้อปออนไลน์ได้ที่ JD