6 เรื่องต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

เมื่อคุณแม่เข้าสู่ช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ จะมีข้อห้ามมากมายที่ห้ามคุณแม่ทำ ไม่ว่าข้อห้ามเหล่านั้นจะมาจากการอ่านข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต การบอกเล่าต่อๆ หรือแม้แต่จากคนเฒ่าคนแก่ก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อคุณแม่เริ่มรับรู้ถึงข้อห้ามที่มากมาย จะส่งผลให้ตัวเองมึนงง จนไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง วันนี้เราจึงรวบรวม 6 สิ่งต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ถือเป็นสิ่งต้องห้ามสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ ซึ่ง 6 สิ่งต้องห้ามที่ว่านั้นมีดังนี้

1.ห้ามดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
เริ่มกันที่การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่กันก่อน โดยเฉพาะบุหรี่ ไม่เพียงแต่คุณแม่จะต้องงดสูบ แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับควันบุหรี่เข้าสู่จมูกด้วย เนื่องจากทั้งแอลกอฮอล์และบุหรี่มีส่วนที่จะส่งผลกระทบต่อสมองของทารกในครรภ์ได้สูง อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดภาวะแท้ง คลอดก่อนกำหนด หรือทารกคลอดออกมามีความผิดปกติหรือพิการได้ อย่าลืมนะคะว่าในบุหรี่มีสารอันตรายมากกว่า 4,000 ชนิด รวมทั้งสารก่อมะเร็งอีกด้วย จึงไม่แปลกที่จะทำให้ทารกเกิดความผิดปกติได้สูง

2.ห้ามกินยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
เมื่อคุณแม่เริ่มรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ในเรื่องของการใช้ยาชนิดต่างๆ ให้ดี โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องกินยาเพื่อรักษาโรคประจำตัว นอกจากนี้เมื่อตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ทารกจะเริ่มพัฒนาตัวเองและเริ่มมีการสร้างอวัยวะ รวมทั้งสร้างระบบประสาทและสมอง ซึ่งการกินยาบางชนิดเข้าไป โดยไม่ผ่านการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน อาจส่งผลให้ทารกพิการ หรือเสี่ยงเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ได้เช่นกัน

3.ห้ามนั่งนานเกินไป
การที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั่งนานเกินไป มีส่วนทำให้เกิดการอุดตันที่เส้นเลือดบริเวณขาได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรหมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ และจำเอาไว้ว่าห้ามนั่งนานเกิน 1 ชั่วโมงเด็ดขาด

4.ห้ามกินอาหารประเภทเนื้อดิบ
เนื่องจากอาหารประเภทเนื้อดิบ ปลาดิบ ไข่ดิบ หรืออาหารต่างๆ ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับเชื้อโรค และส่งผลให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษในคุณแม่ได้

5.ห้ามเก็บอุจจาระแมว
สำหรับคุณแม่ที่เป็นทาสแมวและกำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยอยู่ด้วย ต้องกำชับตัวเองเสมอว่าห้ามเก็บอุจจาระแมวเด็ดขาด เนื่องจากในอุจจาระแมวจะมีเชื้อปรสิตที่เรียกว่า Toxoplasma Gondii ซึ่งเป็นเชื้อปรสิตที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรค Toxoplasmosis หรือที่เรียกว่าโรคขี้แมว ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรกติดเชื้อตัวนี้เข้าไป พบว่า 30% ของทารกที่ติดเชื้อจะมีอาการที่รุนแรง และอาจส่งผลให้เกิดภาวะพิการแต่กำเนิด เช่น เกิดการอักเสบของจอตาและประสาทตา มีอาการสมองบวมน้ำ อารมณ์ลูกน้อยผิดปกติ และอาจทำให้ทารกเสียชีวิตได้

6.ห้ามสวมใส่รองเท้าส้นสูง
เนื่องจากการสวมใส่รองเท้าส้นสูง จะส่งผลให้คุณแม่ที่มีน้ำหนักเพิ่มจากการตั้งครรภ์ เกิดความไม่มั่นคงในการเดินหรือยืนได้ดี ซึ่งอาจมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการหกล้มได้ ทั้งนี้การหกล้มในช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้ และยังเสี่ยงทำให้เกิดภาวะแท้งหรือคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย ที่สำคัญการใส่รองเท้าส้นสูง ยังทำให้ของเหลวภายในร่างกายไปกองอยู่ที่ช่วงล่าง จึงทำให้เกิดอาการปวดเท้าและเท้าบวมตามมา

6 สิ่งต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ถือเป็นสิ่งต้องห้ามที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนควรให้ความสำคัญมากๆ อย่าได้ละเลยเด็ดขาด เพราะสิ่งต้องห้ามเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้สูงมาก หากคุณแม่เผลอไปทำโดยไม่รู้ตัว