อะไรคือ Minimal Makeup? แชร์ 4 ขั้นตอนแต่งหน้าน้อยแต่มากแบบเหล่าเซเลบ
เทรนด์ความสวยความงามเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนเทรนด์แต่งหน้าที่ฮอตฮิตคือกระแสฝั่งตะวันตก เน้นการปกปิดผิวให้เนียนกริบโดยใช้ผลิตภัณฑ์อย่างรองพื้นและคอนซีลเลอร์เป็นจำนวนมาก การเขียนคิ้วก็ต้องร่างโครงให้เป๊ะ แต่งอายแชโดว์เข้มพร้อมงานขนตาปังๆ แต่ปัจจุบันกระแสได้เปลี่ยนไป เทรนด์ Minimal Makeup ได้เข้ามาแทนที่ เหล่าเซเลบริตี้คนดังเริ่มหันมาเน้นเมคอัพแบบเผยผิว เขียนคิ้วและแต่งดวงตาให้ดูธรรมชาติมากขึ้น วันนี้เราเลยจะพาไปดู 4 สเต็ปการแต่งหน้าแบบน้อยแต่มาก ว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง
เตรียมผิวให้พร้อม
หัวใจหลักของการแต่งหน้าแบบมินิมอลนั้นคือการมี ผิวสุขภาพดี ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผิวขาวหรือการไม่มีสิวเลยสักเม็ด แต่หมายถึงการที่ผิวชุ่มชื้นดูเปล่งปลั่งกระจ่างใส เพราะการมีผิวสุขภาพดีจะทำให้แต่งหน้าติดทนมากขึ้น รวมถึงยังช่วยให้ขั้นตอนการลงรองพื้นบางๆ สามารถโชว์ผิวโกลว์เปล่งประกายได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
อันดับแรกคือจะต้องสังเกตก่อนว่าตัวเองเป็นคนผิวประเภทไหน และเลือกสกินแคร์บำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว สำหรับคนผิวแห้งควรเน้นการเติมความชุ่มชื้น ขณะที่คนผิวมันเองห้ามคิดว่าไม่ต้องบำรุงเยอะ เพราะสาเหตุของผิวมันนั้นมาจากการที่ผิวขาดน้ำ ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา ไม่ก่อให้การอุดตัน เมื่อเลือกใช้สกินแคร์ที่ถูกประเภทและมีวินัยใช้อย่างสม่ำเสมอแล้ว ผิวก็จะดูสุขภาพดีขึ้นเองตามลำดับ
ทริคสำคัญที่ก่อนแต่งหน้าควรบำรุงผิวให้พร้อมที่สุด ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราอยากหยิบมาแนะนำวันนี้คือ Charlotte Tilbury Magic Cream มอยส์เจอร์ไรเซอร์ในตำนานที่ช่วยปรับผิวหน้าให้ชุ่มชื้นสมดุล รู้สึกเฟิร์มกระชับและอิ่มเอิบ ทั้งยังช่วยเติมร่องริ้วต่างๆ ให้ใบหน้าพร้อมรับการแต่งหน้าในขั้นตอนถัดไปมากที่สุด
ปกปิดเท่าที่จำเป็น
สิ่งที่ต้องท่องให้ขึ้นใจเวลาแต่งหน้าสไตล์มินิมอลคือ “ปกปิดเท่าที่จำเป็น” อย่าใช้รองพื้นและคอนซีลเลอร์เยอะเกินไป ให้ค่อยๆ ใช้ทีละนิดและเกลี่ยให้เรียบเนียนไปกับผิว รวมถึงไม่จำเป็นต้องปกปิดทุกจุดและรอย นอกจากวิธีนี้จะทำให้ได้ลุคผิวที่ดูธรรมชาติแล้ว ยังจะทำให้คุณรักผิวของตัวเองในแบบที่คุณเป็นมากขึ้นด้วย
เทคนิคที่เราแนะนำคือให้ใช้คอนซีลเลอร์แตะเพียงนิดเดียวบริเวณที่ต้องการปกปิดมาก ทิ้งให้คอนซีลเลอร์เซ็ตตัวสักพัก ก่อนจะลง คุชชั่น ตามเพื่อช่วยเนรมิตผิวกระจ่างใสสุขภาพดีพร้อมเกลี่ยเนื้อคอนซีลเลอร์ให้เนียนไปผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ถ้าใครที่ถนัดใช้รองพื้นมากกว่า แนะนำให้เลือกใช้ประเภท Tinted Moisturizer (ทินต์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์) หรือผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่ผสมระหว่างเบสเมคอัพและครีมบำรุงผิว จะมีความบางเบากว่ารองพื้นมาก ให้การปกปิดน้อยกว่า เหมาะกับลุคเผยผิวที่เน้นเพิ่มความกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ
ตั้งใจแต่ง ให้เหมือนไม่ตั้งใจ
ส่วนที่ยากที่สุดของ Minimal Makeup น่าจะเป็น “การตั้งใจแต่งหน้า ให้เหมือนไม่ได้ตั้งใจ” โดยซิกเนเจอร์ของลุคนี้คือการเขียนคิ้วฟุ้งๆ ตามโครงธรรมชาติ ไม่ต้องเขียนให้เป๊ะหรือคมชัดมาก แล้วหันไปเน้นการปัดเส้นขนคิ้วให้เรียงเส้นสวยแทน
หรืออย่างการแต่งดวงตาก็จะไม่คัดเบ้าเข้มชัดเจนเหมือนที่เคยทำกันมา บางคนอาจจะไม่ใช้อายแชโดว์เลย หรือใช้แค่เสียงเปลือกมุก สีเบจ ที่ใกล้เคียงกับสีผิวลงบางเบาเป็นพื้นสีเท่านั้น มุ่งเน้นที่การปัดและดัดขนตาให้งอนงามเห็นชัดเจน ส่วนการเขียนอายไลเนอร์นั้นไม่ต้องถูกถึงเลย อย่างมากอาจจะเขียนแค่อินไลเนอร์ตามขอบเปลือกตาด้านในเพื่อให้ดวงตาดูกลมโตมากขึ้น
พาร์ทสุดท้ายอย่างการปัดแก้มและทาลิปสติก จะเลือกใช้โทนสีกลีบกุหลาบ ชมพู หรือแดงระเรื่อธรรมชาติ เพื่อให้แก้มดูมีเลือดฝาด และเพิ่มความสดใสให้กับริมฝีปากอย่างเป็นธรรมชาติ
ความแวววาวคือคีย์สำคัญ
สิ่งที่จะทำให้ลุคแต่งหน้ามินิมอลแบบนี้ดูสวยสุขภาพดีคือ “ความแวววาว” นอกจากความแวววาวเหล่านี้จะมาจากผิวที่ดูใสเปล่งประกายจากภายในและเนื้อรองพื้นหรือคุชชั่นที่ปกปิดบางเบาเผยผิวแล้ว ยังสามารถใช้ตัวช่วยอย่าง ไพรเมอร์ (Primer) ได้อีกด้วย ซึ่งไพรเมอร์นี้จะเป็นขั้นตอนที่ใช้ก่อนเริ่มลงคุชชั่นหรือรองพื้น โดยปกติแล้วคุณสมบัติของไพรเมอร์จะช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน รวมถึงในบางยี่ห้ออาจช่วยคุมมันและเพิ่มความติดทนของเครื่องสำอางได้ด้วย
สำหรับไพรเมอร์จาก La Mer อย่าง The Hydrating Illuminator นั้นมาในรูปแบบเนื้อครีมบางเบา นอกจากจะช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการแต่งหน้า และบำรุงผิวอย่างเร่งด่วนด้วยส่วนผสมเอกสิทธิ์ของแบรนด์อย่าง Miracle Broth แล้ว ยังช่วยเพิ่มความสว่างกระจ่างใสและเปล่งประกายแวววาวให้ผิวหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยี Radiant Pearl ที่จะเกลี่ยเรียบเนียนไปกับผิวหน้าอย่างกลมกลืน
ส่วนใครที่ยังไม่สะใจกับผิวโกลว์ แนะนำให้ใช้ ไฮไลต์เตอร์ (Highlighter) ควบคู่เพิ่มไปด้วย ซึ่งไฮไลต์ที่เราแนะนำนั้นขอให้เป็นแบบเนื้อครีมหรือเนื้อเหลวมากกว่าแบบเนื้อแป้งเนื้อฝุ่น เพราะเมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วจะให้ลุคที่ดูธรรมชาติมากกว่านั่นเอง อย่างเช่นไฮไลต์จาก DIOR อย่าง Flash Luminizer Radiance Booster Pen เนื้อครีมที่พกพาง่ายในรูปแบบปากกา เพียงไล้ลงบนผิวช่วงที่ต้องการความแวววาวเป็นพิเศษ อาทิ โหนกแก้ม ปลายจมูก เหนือกระจับริมฝีปาก เป็นต้น ก็จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติและสุขภาพดีขึ้นทันที
หลายคนอาจรู้สึกว่าคอนเซปต์ของการแต่งหน้าแบบ Minimal Makeup นั้นใกล้เคียงกับ Makeup No Makeup มากทีเดียว แต่ที่จริงแล้วทั้งสองเทรนด์มีความแตกต่างเล็กน้อยซ่อนอยู่ สำหรับสไตล์มินิมอลนั้นจะแต่งหน้าภายใต้แนวคิดที่ว่าใช้เครื่องสำอางให้ “น้อยที่สุด” หรือพูดง่ายๆ คือพยายามใช้เท่าที่จำเป็น และเผยความสวยตามธรรมชาติของแต่ละคนออกมา
ขณะที่การแต่งหน้าแบบ เมคอัพโนเมคอัพ นั้นคือการแต่งหน้าให้เหมือนไม่ได้แต่ง ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางน้อยก็ได้ หากมองย้อนกลับไปหลายปีก่อน จะพบว่าการแต่งหน้าให้เหมือนไม่ได้แต่งยังคงเน้นงานปกปิดผิวที่ค่อนข้างแน่นอยู่ดี เทรนด์เพิ่งเริ่มจะเปลี่ยนเป็นการแต่งหน้าน้อยเพื่อให้เหมือนไม่แต่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ จึงอาจพูดได้ว่าในปัจจุบันทั้งสองเทรนด์ผสมผสานกลมกลืนเข้าด้วยกันไปแล้ว