ภัยใต้แดดร้อน

ภัยใต้แดดร้อน

ภัยใต้แดดร้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถึงฤดูแดดเปรี้ยงอย่างนี้ สาว ๆ หลายคนคงหันมาใส่ใจกับเรื่องผิวพรรณอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่นัดหมาย จะเรียกว่าเป็นฤดูแห่งการปกป้องผิวขาวก็ว่าได้เพราะไม่ว่ากดรีโมตเปลี่ยนไปช่องไหน ก็จะเห็นแคมเปญโฆษณาเครื่องสำอางสารพัดยี่ห้อที่อาสาปกป้องผิวพรรณของคุณจากรังสี UV หรือช่วยขัดผิวขาวออกมากันอย่างถี่ยิบในช่วงนี้ ดูโฆษณาเครื่องสำอางวันนี้ต้องตามให้ทันคนที่ผิวขาวอยู่แล้วจะไปซื้อไวเทนนิ่งมาขัดให้ขาวขึ้นไปอีกตามนางแบบผิวขาวจั๊วะในโฆษณาก็อาจจะเกินจำเป็นหรือคนผิวคล้ำมาแต่กำเนิดจะไปทายาเปลี่ยนเมลานิน หรือเม็ดสีผิวให้ได้โทนขาวอมชมพู ก็คงจะยาก ฤดูแดดแรงอย่างนี้ ทาแค่ครีมกันแดดสักยี่ห้อก็พอแล้ว ใครจะมาเสนอขายยาฟอกผิวขาวแบบสรรพคุณเกินจริง หรือชวนให้ใช้ครีมทาผิวหนังในส่วนที่ไม่จำเป็นต้องไปดูแลมากนัก ก็อย่าได้ไปลองให้ระคายผิวและเงินในกระเป๋าเลยเพราะถ้าเกิดเจออาการข้างเคียงอย่าง อาการหน้าด่างขาวหรือหน้าสีเทาขึ้นมาแล้วรับรองว่าชีวิตจะไม่สมูท ปกติผิวมนุษย์เรามีเซลล์เม็ดสีที่เรียกว่า 'เมลาโนไซต์' (Melanocyte) อยู่ภายในหากใช้สารพวกไวเทนนิ่งที่มักมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน สารปรอท วิตามินเอ วิตามินซี หรือกรดผลไม้ มาช่วยฟอกผิว มันก็จะช่วยให้ผิวหน้าขาวขึ้นได้บ้าง เนื่องจากมีการกัดลอกผิวหนังส่วนบน และทำให้เซลล์เม็ดสีไม่ทำงานแต่ถ้าหากใครใช้ติดต่อกันระยะยาว ก็จะส่งผลต่อระบบสมดุลของผิวหน้า หมอผิวหนังท่านหนึ่งออกมาเตือนว่า ให้ระวังอาการ 'หน้าด่างขาว' หรือผิวขาวเป็นส่วน ๆ ไม่ขาวทั่วใบหน้าเหมือนธรรมชาติ และถ้าใช้ไปสักพักแล้วหยุดไปเฉย ๆ ก็อาจต้องเผชิญกับ 'โรคผิวดำวูบ' อันเป็นผลจากการหยุดใช้สารไวเทนนิ่งกะทันหัน ทำให้เซลล์เม็ดสีที่ถูกกดไว้สร้างเอนไซม์เพิ่มมากขึ้น จนผิวหนังเปลี่ยนเป็นดำอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เลยร้ายมาก ๆ อาจถึงขั้นกลายเป็นพวก 'หน้าสีเทา' ไปเลย เพราะใช้สารขัดหน้าในปริมาณเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง จนสีผิวบางส่วนพัฒนาไปเป็นสีเทาถาวร ถ้าอยากจะฟื้นหน้ากลับคืนมาเหมือนเดิมได้ ก็ต้องไปให้หมอช่วยลอกผิวออกทั้งใบหน้า แล้วปลูกเซลล์ผิวใหม่อีกหลายครั้ง แต่ละครั้งเสียค่าใช้จ่ายครั้งละหลายหมื่นบาท สำหรับผู้ที่ใช้ครีมบำรุงผิวผสมไวเทนนิ่งทั่วร่างกายทุกวันติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ก็อย่านิ่งนอนใจ เพราะผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังเตือนว่าถ้าไม่นำพาไปสู่อาการเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังก็ส่งผลเสียต่อระบบการทำงานของไต ซึ่งทำหน้าที่กรองสารเคมีที่ถูกดูดซึมเข้าไป สารต้องห้ามที่ตรวจพบว่า ผสมอยู่ในเครื่องสำอางหลายยี่ห้อในบ้านเรา อย่าง 'ปรอทแอมโมเนีย' นั้น นอกจากจะทำให้เกิดการแพ้ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลงแล้ว อาจก่อให้เกิดพิษสะสมของสารปรอท จนทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ หรือ 'กรดวิตามินเอ' ที่บางคนใช้แล้วหน้าแดง เกิดการอักเสบจนผิวหน้าลอกอย่างรุนแรงนั้น อาจเป็นอันตรายถึงทารกในครรภ์ได้ (น้อยคนจะทันคิดว่าสารพิษในเครื่องประทินโฉมอันตราย พิษมันจะกระจายเข้าไปทำร้ายอวัยวะภายในกันได้ร้ายแรงขนาดนี้) บางทีแค่เราใช้ชีวิตอย่างสอดคส้องธรรมชาติเอาไว้การดูแลผิวพรรณให้ขาวกระจ่างใสดูสุขภาพดีนั้น ไม่จำเป็นต้องลงทุนไปซื้อเครื่องประทินโฉมมาโบ๊ะหน้าโบ๊ะตัวให้วุ่นเลย ผิวพรรณตามธรรมชาติคนเรานั้น ถ้าไม่โดนแดดเผาสักพักใหญ่ มันก็จะขาวขึ้นเอง (ในโทนสีผิวตามกำเนิด) และถ้ารู้จักปรับวิถีการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ รับรองว่าผิวพรรณจะดูดีไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร ซึ่งหลักการเบื้องต้นก็ไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยาก แค่ดื่มน้ำเปล่าให้พอเพียงวันละ 8-6 แก้ว (ประมาณ 1.5 ลิตร) พักผ่อนให้พอเพียงอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และอย่าให้ความเครียดมาทำให้หน้าย่นกันบ่อย ๆ ถ้าจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางก็ให้เลือกใช้ตรงส่วนใบหน้าไว้ก่อน (มนุษย์ในสังคมทุกวันนี้ชอบวัดอายุกันที่ใบหน้า ไม่ต้องรอให้หนังตาบนย้อย แค่เห็นรอยตีนกาก็โดนทักว่า 'หน้าแก่' แล้ว) ถ้าจะต้องทาครีมกันแดดก็เลือกชนิดที่มีค่า SPF อย่างต่ำ 15 และควรทาก่อนออกแดดสักครึ่งชั่วโมงให้ตัวยาได้ซึมซับ คำแนะนำสุดท้าย ก็คงจะเป็นการวางตัวให้พ้น ๆ จากควันบุหรี่เอาไว้ รู้เคล็ด (ไม่) ลับในการรักษาผิวดีผิวสวยด้วยหลักการง่าย ๆ อย่างนี้แล้ว ถ้าใครยังอยากจะไปพึ่งหมอเสริมความงามช่วยฝืนธรรมชาติด้วยการดึงหน้า ฉีดโบท็อกช์ หรือทำรีแพร์ย้อนวัยตรงส่วนไหน ก็คงต้องปล่อยเป็นเรื่องความพอใจและ 'เงินใครเงินมัน' แล้วล่ะครับ

++ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ SunBlock มากมาย ให้เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้!! ++ ร้อนนี้สวยได้ กับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสวย หน้าใส ไร้กังวล ++

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ ภัยใต้แดดร้อน

ภัยใต้แดดร้อน
ภัยใต้แดดร้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook