5 คำต้องห้าม! อย่าพูดถ้าอยากมีเงินเก็บ
มีใครเป็นบ้างไหมคะ เวลาที่เงินทองร่อยหรอก็มักจะบ่นว่าช่วงนี้ไม่มีตังเลย แต่รู้ไหมคะว่าการที่เรายิ่งพูดอะไรทำนองนี้บ่อยๆ จะทำให้จนลงอย่างไม่รู้ตัว! Murakoshi Katsuko นักเขียนที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการค่าใช้จ่ายในครัวเรือนมาเกือบ 20 ปี พบว่าในบรรดาคนที่ไม่ประหยัดเงินหรือไม่ค่อยเก็บออมเงิน จะมีคำที่ชอบพูดเหมือนกันอยู่ 5 คำ มาดูซิว่าเราเองก็พูดคำเหล่านี้ด้วยหรือเปล่า??
“ช่างมันเหอะ”
คำนี้มักจะพูดกันในตอนที่ใช้เงินไปจำนวนมากโดยไม่จำเป็น เช่น เมื่อรู้สึกขี้เกียจทำกับข้าวจึงตัดสินใจไปทานข้าวนอกบ้าน หรือตอนเห็นของที่อยากได้ก็ตัดสินใจซื้อมาทั้งที่ยังไม่ควรซื้อ คนที่เก็บเงินไม่อยู่มักจะพูดว่า “ช่างมันเหอะ” แล้วก็จะตามด้วย “ค่อยเริ่มประหยัดพรุ่งนี้” ถ้ามองในแง่ดีก็คือเป็นการมองไปข้างหน้า แต่ถ้ามองอีกแบบก็คือไม่มีการคิดพิจารณาใดๆ เลย เมื่อเกิดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยก็จะคิดแค่ว่า “ช่างมันเหอะ” “ช่างมันเถอะ” พอคิดแบบนี้บ่อยเข้าก็ทำให้เราขาดการไตร่ตรองก่อนใช้เงิน ส่งผลให้เราใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนี้ต่อไป
“ก็มัน..”
มีหลายคนที่มักอ้างปัจจัยภายนอกโดยที่มองว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น “ก็แถวนี้ค่าเช่ามันแพงนี่นา” “ก็เดือนนี้มันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมาเยอะ” “ก็เขามาชวนไปกินเลี้ยงเลยปฏิเสธไม่ได้” และอีกล้านแปดเหตุผลที่จะสรรหามาได้ คนที่มีแต่ข้ออ้างแบบนี้แหละมักจะไม่สามารถเก็บออมเงินได้ง่ายๆ เพียงเอาชนะอุปสรรคและเงื่อนไขต่างๆ ในชีวิต หาทางออกที่ดีที่สุด รู้จักปฏิเสธบ้าง เราก็สามารถกลายเป็นคนที่ประหยัดเงินได้
“ยังไงก็..”
เป็นอีกคำที่ได้ยินเมื่อไหร่ก็รู้สึกท้อแท้ ประหนึ่งว่าชีวิตนี้ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เช่น “ยังไงฉันก็จัดการอะไรไม่เก่งอยู่แล้ว” “ยังไงก็จดบัญชีค่าใช้จ่ายได้ไม่นานหรอก” หรือ “เป็นแค่พนักงานสัญญาจ้าง ยังไงก็ไม่มีโบนัส” คนที่พูดจาในแง่ลบกับตัวเองแบบนี้ก็มักเก็บเงินไม่ค่อยได้เช่นกัน แม้แต่ตัวเองยังไม่ให้กำลังใจตัวเองแล้วเรื่องอื่นจะก้าวหน้าได้อย่างไร หากคิดใหม่เสียว่า “จะบริหารค่าใช้จ่ายอย่างไรดี” “จะบันทึกรายรับรายจ่ายยังไงโดยไม่ใช้สมุด” “ทำอย่างไรถึงจะเลื่อนขึ้นเป็นพนักงานประจำ” แบบนี้จะช่วยเพิ่มพลังบวกให้ก้าวไปได้อีกขั้น นำไปสู่การออมเงินได้ดีขึ้น
“เดี๋ยวก็ดีเอง”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีเอง” “ปล่อยให้เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้” ดูเหมือนจะเป็นการให้กำลังใจก็จริงแต่ก็เป็นการมองโลกในแง่ดีเกินไป เหมือนเป็นการผลักภาระให้วันต่อๆ ไปจนละเลยที่จะเก็บออมเงิน เงินไม่มีขาที่จะเดินมาเข้ากระเป๋าเองได้ ถ้าอยากจะเริ่มเก็บออมเงินจริงๆ ก็ต้องทำอะไรสักอย่างบ้าง ขนาดคนที่มีเงินทองมากมายในตอนนี้ ก็เริ่มมาจากการเก็บออมทีละเล็กทีละน้อยทั้งสิ้น ถ้าไม่อยากให้ตัวเราในอนาคตเหนื่อยเกินไป ก็ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้
“ไม่มีตังค์”
มาถึงคำสุดท้าย คนที่เก็บออมเงินไม่ได้มักจะพูดว่า “ฉันไม่มีตังค์” ซึ่งถ้าไม่ประหยัดเงินก็ต้องได้พูดคำนี้แน่นอน แต่ตราบใดที่เราพูดว่าไม่มีเงินบ่อยๆ เราก็จะไม่มีตามที่ปากพูด คำว่า “ไม่มีเงิน” อาจทำให้เราห่างไกลจากโชคทางการเงินได้ เขาว่ากันว่าหากเราพูดอะไรออกมาบ่อยๆ เราก็จะเป็นแบบนั้น ถึงแม้จะไม่มีตังค์จริงๆ ก็อย่าพูดให้ตัวเองเสียกำลังใจ แล้วมาตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจเก็บเงินกันดีกว่า
เป็นอย่างไรบ้างคะ พูดกันไปกี่คำแล้วเอ่ย 5555 ถ้ารู้ตัวว่ามักจะพูดคำเหล่านี้บ่อยๆ ก็ต้องรีบปรับปรุงแก้ไขทันที แล้วตั้งใจเก็บออมเงิน หนทางแห่งเศรษฐีก็อยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ ^^