5 อาการสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก
หลังจากที่คุณแม่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ จะเริ่มสังเกตได้ว่ามีอาการมากมายเกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเอง วันนี้เราจึงรวม 5 อาการสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกมาบอกคุณแม่ทุกท่าน พร้อมทั้งวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นจากอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกันค่ะ
1.คลื่นไส้อาเจียน
อาการคลื่นไส้อาเจียนจะพบมากในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก โดยอาการจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังจากทราบว่าตั้งครรภ์ อาการคลื่นไส้จะเริ่มรุนแรงมากขึ้นเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ประมาณ 8-12 สัปดาห์ แต่หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น บางรายจะไม่พบอาการคลื่นไส้อีกเลยหลังอายุการตั้งครรภ์ประมาณ 16-24 สัปดาห์ ทั้งนี้คุณแม่สามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการคลื่นไส้ได้ด้วยการกินอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย พร้องทั้งกินอาหารที่ช่วยบำรุงครรภ์ เช่น ปลา ตับ เต้าหู้ ไข่ ผลไม้ ถั่วเหลือง นม ส้ม และกล้วย
2.มดลูกเริ่มขยาย
เมื่อตั้งครรภ์ มดลูกของคุณแม่จะเริ่มขยาย แม้ว่าในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกจะยังรู้สึกไม่ชัดเจนว่ามดลูกโต แต่ก็มีอาการปวดหน่วงๆ จากการที่มดลูกเริ่มขยายตัวแสดงออกมา ทั้งนี้หากคุณแม่เริ่มมีอาการเช่นนี้ แนะนำให้นั่งหรือนอนพักจนกว่าอาการจะดีขึ้น และต้องหลีกเลี่ยงการยกของหนัก การเดิน หรือการยืนนานๆ ด้วยเช่นกัน
3.ท้องอืด
อาการท้องอืดจะเกิดขึ้นในคนตั้งครรภ์ได้มากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากฮอร์โมนบางตัวจะส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารทำงานช้าลง และลำไส้มีการเคลื่อนไหวช้าลงด้วย จึงทำให้เกิดอาการท้องอืด คลื่นไส้ และท้องผูกได้บ่อย
4.ปัสสาวะบ่อยครั้ง
ปัสสาวะบ่อยครั้งคือหนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนมาก ทั้งนี้เพราะฮอร์โมนบางตัวในร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์เพิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อระบบปัสสาวะ บวกกับมดลูกของคุณแม่ใหญ่ขึ้นจนไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ ร่วมกับการมีแรงดันในกระเพาะปัสสาวะเพิ่มมากขึ้น นั่นจึงทำให้คุณแม่รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย บางคนอาจมีอาการปัสสาวะไม่สุดหรือปัสสาวะเล็ดอีกด้วย
5.มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากฮอร์โมนจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งครรภ์ จึงทำให้มีการหลั่งของพวกสารต่างๆ รวมทั้งมีตกขาวในช่องคลอดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นช่วงที่มีตกขาวเพิ่มมากขึ้น คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องหมั่นดูแลเรื่องความสะอาดให้ดี จะต้องล้างและซับให้แห้งสนิททุกครั้ง แต่ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นแต่อย่างใด เพราะอาจไปฆ่าเชื้อดีๆ ที่ช่วยป้องกันเชื้อร้ายออกไปได้ และที่สำคัญห้ามสวนล้างช่องคลอดเด็ดขาด
อย่าลืมนะคะว่า เมื่อคุณแม่เริ่มรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ควรที่จะต้องหมั่นสังเกตอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ดี ทั้งนี้เพื่อที่คุณแม่จะสามารถดูแลตัวเองด้วยวิธีรักษาเบื้องต้นให้อาการดีขึ้นได้ นอกจากนี้ควรรีบฝากท้อง เพื่อให้คุณหมอทำการตรวจเลือดและนำไปประเมินภาวะสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ต่อไป