7 วิธีลดรอยดำจากสิว เห็นผลไว แถมปลอดภัยต่อผิวหน้า
หมดปัญหาเรื่องสิว สาวๆ ก็ต้องมานั่งกังวลกับปัญหารอยสิวและรอยดำกันอีกหลายเดือน และเพื่อให้สาวๆ สามารถเรียกคืนผิวหน้าที่เรียบเนียนกลับมาในเร็ววัน เราขอแนะนำ 7 วิธีช่วยลดรอยสิวและรอยดำที่เราเอามาฝากกันค่ะ บอกเลยว่าทุกวิธีเน้นความปลอดภัยของผิวหน้าสาวๆ เป็นอันดับแรก จะต้องทำอย่างไรกันบ้างนั้นไปอ่านพร้อมๆ กันเลย
1.ดื่มน้ำให้มาก
การดื่มน้ำคือวิธีสำคัญที่ช่วยลดรอยสิวและรอยดำให้หายไปได้เร็ว เพราะน้ำเปล่ามีส่วนช่วยดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย พร้อมทั้งช่วยให้ผิวพรรณมีความเปล่งปลั่งและขาวใสมากขึ้น นั่นจึงทำให้รอยสิวที่คอยกวนใจสาวๆ ค่อยๆ จางลงได้เร็ว ทั้งนี้แนะนำให้หมั่นดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือมากกว่านั้นก็จะยิ่งทำให้ผิวใสมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรดื่มมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้
2.มาสก์หน้าด้วยสูตรสมุนไพร
การมาสก์หน้าด้วยสูตรสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็น น้ำผึ้ง น้ำมันมะกอก แตงกวา มะละกอ หรือหอมแดง ล้วนมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว พร้อมทั้งช่วยรักษาจุดด่างดำและช่วยลดความดำคล้ำของผิวได้อีกด้วย สำหรับสาวๆ ที่อยากหันมาใช้วิธีธรรมชาติด้วยการมาสก์หน้าด้วยสูตรสมุนไพร ควรมาสก์หน้าครั้งละไม่เกิน 20 นาที และควรทำเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้น
3.มาสก์หน้าด้วย sheet mask
โดยปกติแล้วสาวเกาหลีจะนิยมมาสก์หน้าด้วย sheet mask เป็นประจำ บางคนก็มาสก์ทุกวัน นั่นเพราะการมาสก์หน้าด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่นขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดรอยสิวและรอยดำได้ดีอีกด้วย แต่สาวๆ ก็ต้องเลือกสูตรให้ตรงกับสภาพผิวหน้าและการรักษาผิวหน้าของตัวเองด้วยเช่นกัน สำคัญมากๆ เลยก็คือควรเลือกใช้ sheet mask ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ตามมา
4.ทาเจลว่านหางจระเข้
การทาเจลว่านหางจระเข้เพื่อลดรอยสิว ถือเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ดีมากเลยทีเดียว นอกจากนี้เจลว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณช่วยรักษาสิวอักเสบได้ดีอีกด้วย และเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาสิวหรือรอยดำรอยแดงและรอยสิว ควรใช้เจลว่านหางจระเข้ 100% ซึ่งจะไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำให้ผิวแพ้ได้
5.ทายาลดรอยสิว
การใช้ยาลดรอยสิวเพื่อลดรอยสิวและรอยดำบนผิวหน้า เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้หากสาวๆ ต้องการใช้ยาลดรอยสิว ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชก่อนเสมอ เพื่อที่จะได้ใช้ยาได้ตรงกับสภาพผิวและมั่นใจในความปลอดภัยด้วย
6.กินวิตามินเสริม
การกินวิตามินเสริมเพื่อลดรอยสิวและรอยดำ ถือเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลผิวหน้าด้วยการทายาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมายนัก ซึ่งการกินวิตามินเพื่อรักษารอยสิวและรอยดำ จะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1-2 เดือนจึงจะเห็นผล อีกทั้งยังต้องกินเป็นประจำอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ที่สำคัญต้องปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนกินเสมอ เพื่อจะได้ทราบว่าสภาพร่างกายของเราสามารถกินวิตามินเสริมชนิดใดได้บ้าง
7.เลเซอร์รอยสิว
วิธีนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการให้รอยสิวและรอยดำหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน อีกทั้งยังต้องทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 3-4 ครั้ง จึงจะเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว และนั่นก็หมายความว่าสาวๆ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้นไปอีก แต่สำหรับใครที่มีความสามารถในการจ่ายก็แนะนำให้ทำ หากจะช่วยเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมา
จบกันไปแล้วกับ 7 วิธีลดรอยสิวและรอยดำที่เราเอามาแชร์ให้สาวๆ ได้เลือกเอาไปใช้กัน แต่ละวิธีย่อมให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะนั่นถือเป็นวิธีที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ
