เมนูอาหารลูกน้อย "กราโนล่าข้าวเม่า" อาหารเช้า เต็มไปด้วยคุณประโยชน์

EP79 กราโนล่าข้าวเม่า อาหารเช้าอิ่มนานเต็มไปด้วยคุณประโยชน์

สวัสดีเดือนมิถุนายน เผลอแพรพเดียวเวลาผ่านมาครึ่งปีแล้ว เชื่อว่าที่ผ่านมาหลายบ้านคงได้ไปโรงเรียนกันบ้างแล้ว หลังจากที่หยุดอยู่บ้านมานาน ทำให้สมรภูมิครัวตอนเช้าก็กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง แม่ปอมว่าคงต้องนำตารางเมนูอาหารประจำวันกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ขาจะได้ไม่ขวิดกันในตอนเช้า สำหรับมื้อเช้าบ้านนี้ส่วนใหญ่จะมีเมนูไข่ ข้าวผัด ข้าวปั้น ข้าวห่อสาหร่าย ข้าวต้ม แซนวิช หมุนเวียนกันไป แต่วันไหนที่นางเกิดอารมณ์ต้องการน้ำตาลขึ้นมาในยามเช้า ของหวานๆอย่างคอร์นแฟลก ซีเรียลต่างๆ มักจะถูกรีเควส โดยจัดแจงนำมาราดนมเป็นจบ พอชอบทานบ่อยเข้า เราก็มานั่งอ่านส่วนประกอบ โอ้โหทำไมน้ำตาลมันสูงกระฉูดขนาดนี้ ทำให้ไปลองหาสิ่งที่ทดแทนที่มีประโยชน์มากกว่าอย่าง กราโนล่าเป็นต้น วันนี้คุณแม่ปอม รัตมา พงศ์พนรัตน์ พรชำนิ เลยทดลองทำ กราโนล่าข้าวเม่า เป็นสูตรที่เกิดจากการทดลองแบบไม่ตั้งใจที่สัดส่วนข้าวโอ๊ตหมด พอดีมีข้าวเม่าติดตู้อยู่ เลยใช้ความรู้สึกที่ว่า กราโนลา อารมณ์มันประมาณข้าวเม่าทรงเครื่อง แต่รสชาติจะออกทางกระยาสาสตร์แบบร่วนๆ มากกว่า เลยลองเปลี่ยนวิกฤตขัดสนมาเป็นโอกาสจนมาลงตัวที่สูตรนี้

คนอเมริกันเจ้าแห่งอาหารธัญพืชได้ค้นพบวิธีทำกราโนล่าเมื่อศตวรรษที่19 นี้เอง ส่วนประกอบหลักๆ ของกราโนล่า จะมีธัญพืช ถั่ว ผลไม้แห้ง โดยจะทำการผสานความกลมกลืนกันด้วยน้ำมันที่มีไขมันดี และไซรับที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำไม่ว่าจะเป็นเมเปิลไซรับ หรือ น้ำผึ้ง สามารถเพิ่มกลิ่นเครื่องเทศได้ตามชอบ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ สูตรบ้านนี้ไม่ใส่น้ำตาลทรายทุกชนิด เวลารับประทาน สามารถรับประทานกับนมสด โยเกิร์ต หรือนำไปปั่นเป็นสมูทตี้ก็ได้ ทานเล่นสนุกปากหน้าทีวีก็ได้ไม่ว่ากัน หรือจะนำกราโนล่ามาทำเป็นบาร์ ลักษณะคล้ายกระยาสาสตร์เลย ที่มีขายเป็นอาหารสุขภาพตามท้องตลาด จะช่วยในเรื่องอิ่มนานและระบบขับถ่ายอีกด้วย ลองไปดูวิธีทำกันค่ะ

เครื่องปรุง

• ข้าวเม่าสีเขียว หรือข้าวโอ๊ต รวมกันให้ได้ 4 ถ้วย
• ถั่วต่างๆที่ไม่ได้ผ่านการปรุงรสผสมกัน อีก 1.5 ถ้วย (เราใช้ อัลมอนด์เมล็ดฟักทอง วอลนัท พิชตาชิโอ)
• น้ำมันมะพร้าว 1 ถ้วย
• ผลไม้แห้ง ตามชอบ (แครนเบอรรี่แห้ง)
• เมเปิลไซรับ หรือ น้ำผึ้ง 1 ถ้วย
• งาหม่อน 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
  
  
  

 
วิธีทำ

ผสมเครื่องปรุงทุกอย่างให้เข้ากัน ว่างแผ่ๆ บนถาดอบ นำเข้าเตาอบที่ 170 องศา ประมาณ 20 นาที เมื่ออบเสร็จนำมาทิ้งให้เย็นประมาณ 45 นาที ก่อนนำไปจัดเก็บในขวดโหลสุญญากาศจะเก็บได้นานหนึ่งเดือน แต่คุณแม่เชื่อว่า แค่สองอาทิตย์ก็ต้องมาทำใหม่อีกแล้วค่ะ

 
แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้า ขอให้มีความสุขกับการเลือกทำอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเป็นพื้นฐานที่ดีในการรับประทานอาหารของลูกน้อยในอนาคตค่ะ