ทำความรู้จักยาคุมแบบแผ่นแปะ ช่วยคุมกำเนิดได้จริงหรือ?
ยาคุมกำเนิดในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายชนิด แถมยังจำแนกออกเป็นทั้งแบบกิน แบบฝัง แบบฉีด และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือแบบ "แผ่นแปะ" ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการช่วยให้ผู้หญิงไม่ต้องเจ็บตัว ลดการเกิดผลข้างเคียงที่มาจากยาคุม แต่กระนั้นก็ยังมีข้อสงสัยว่ายาคุมแบบแผ่นแปะง่าย ๆ นี้ สามารถใช้งานได้ผลจริงหรือไม่ เราเลยไปหาคำตอบมาให้ทุกคนได้รู้จักไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ยาคุมกำเนิดแบบแผ่นแปะ เป็นอย่างไร?
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักก่อนว่ายาคุมแบบแผ่นนั้นเป็นลักษณะอย่างไร? ซึ่งตัวยาคุมชนิดนี้จะออกแบบให้เป็นแผ่นแปะติดกับผิวหนังเหมือนกับพลาสเตอร์ปิดแผล มีความบาง และมียาคุมกำเนิดเป็นส่วนประกอบอยู่ในนั้น ใช้แปะตามร่างกาย โดยไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บใด ๆ
เข้าใจการทำงานของยาคุมแผ่นแปะ
การออกแบบยาคุมแบบแผ่นขึ้นมานั้น อย่างที่บอกไปส่วนที่ใช้แปะจะมีส่วนผสมของยาฮอร์โมนที่ใช้คุมกำเนิด ใช้แปะบริเวณหน้าท้อง, แผ่นหลัง, สะโพก หรือต้นแขนด้านนอก ซึ่งจะเห็นว่าเป็นส่วนของผิวหนังที่บอบบาง ยาจะดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง และเข้าสู่กระแสเลือด ไปทำหน้าที่โดยตรงที่มดลูก โดยใน 1 แผ่นแปะ โดยทั่วไปจะสามารถใช้งานได้นานถึง 3 สัปดาห์ บางยี่ห้อสามารถใช้ได้นานถึง 1 เดือนเลยทีเดียว จากนั้นจะต้องเว้นการแปะ 7 วัน เพื่อให้รอบเดือนมาตามปกติก่อน
วิธีใช้งานที่ถูกต้องของยาคุมแผ่นแปะ
ในการใช้งานยาคุมกำเนิดแบบแผ่นนั้น เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะต้องแปะแผ่นยาคุมภายใน 24 ชั่วโมงภายในวันแรกที่มีประจำเดือน การเปลี่ยนแผ่นใหม่ ให้นับจากวันที่แปะเป็นวันแรก ส่วนใครที่เพิ่งเริ่มใช้ยาคุมแบบแผ่น จะต้องใช้ร่วมกับยาคุมแบบเม็ด หรือการฉีดร่วมด้วย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพก่อน อย่างไรก็ตามการขอคำแนะนำจากแพทย์จะดีกว่าซื้อหามาใช้เองแบบผิด ๆ ถูก ๆ
แผ่นแปะคุมกำเนิดใช้งานได้จริงไหม?
ยาแผ่นแปะคุมกำเนิดเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ช่วยให้ผู้หญิงสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งให้ผลไม่แตกต่างจากยาคุมแบบอื่น ๆ เพราะตัวฮอร์โมนจะถูกดึงเข้าสู่กระแสเลือด และไปทำงานอย่างตรงจุด ซึ่งผลข้างเคียงของแผ่นแปะคุมกำเนิดก็มีเช่นเดียวกันกับยาคุมทั่วไป ส่วนระดับความรุนแรงก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน เพียงแต่ว่าเป็นชนิดที่สะดวกต่อการใช้งาน ไม่ต้องมานั่งกิน หรือฉีดให้เจ็บตัว
ไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิดแบบไหน ก็ต้องทำความเข้าใจการใช้งานให้ละเอียด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม ทางที่ดีควรใช้ร่วมกับถุงยางอนามัยเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด