เรื่องนั่น นี่ และชีวิตบน ส้นสูง ของ คริส หอวัง
"ไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นแบบที่คาดหวังนะ"
"งานทุกอย่างที่ทำ นอกจากเต้นรำคือกลิ้งมา"
ที่บอกอย่างนั้น "คริส หอวัง" ว่าเป็นเพราะทั้งงานนางแบบ งานแสดงภาพยนตร์ เจ้าของธุรกิจกระเป๋า SECRET WEAPON รวมถึงดีเจจัดรายการวิทยุที่ได้ทำมาช่วงเวลาหนึ่ง ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดหมายไว้ ด้วยตั้งแต่เด็กก็คิดแต่จะทำงานเกี่ยวกับการเต้นบัลเล่ต์ เพราะชอบศิลปะแนวนี้มาแต่เด็ก ทั้งยังเริ่มเต้นบัลเล่ต์ตั้งแต่ 5 ขวบ และไปได้ดีถึงขั้นสามารถเข้าศึกษาต่อใน Walnut hill Performance arts School Boston USA และ California Institute of Arts LA, USA อันมีชื่อเสียง
แต่ชีวิตก็พลิกผัน หลังถูก "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" ของ "จีทีเอช" วิ่งชน ตอนอายุ 27 นั่นแหละ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น
"ไม่นึกเลย" ที่มาพร้อมประโยคนี้คือรอยยิ้มกว้างของผู้หญิงที่คงความสดใสไว้เต็มเปี่ยม
กับคนที่ "ไม่ได้สวยมาก" -อย่างที่เธอเองก็ยอมรับ เอาเข้าจริงเธอก็คิดเหตุผลไม่ออกว่า ทำไมตัวเองถึงมีงานเยอะ
"ไม่รู้" คริสตอบแบบเสียงสูง พร้อมส่ายหน้า
"คือถ้าหน้าเหมือนศรีริต้า (เจนเซ่น) อาจจะสวิงกิ้งกว่านี้" ว่าพลางก็แอ๊คชั่นทำหน้าเชิดให้ได้ขำ
"แต่คริสก็ตั้งใจทำงานนะ เพราะสำหรับเรามันเป็นโชคดีที่มีคนให้โอกาส แล้วไม่เชื่อว่าฟลุคตลอด เวลาทำงานเลยตั้งใจ๊ ตั้งใจ"
ตั้งใจตั้งแต่ตอนจะรับแล้ว โดยถ้าเป็นงานแสดง เธอจะใช้บทเป็นเหตุผลหลักในการตัดสิน
"รถไฟฟ้าฯคือสิ่งที่ทำให้คริสอ่านบทจริงจังก่อนจะรับงาน เพราะอ่านไป 4-5 หน้า รู้ตัวอีกที จบแล้ว เร็วมาก ทำให้พอต่อไปได้บทมา ถ้าอ่านไปแล้วครึ่งหนึ่ง รู้สึกว่าเมื่อไหร่จะจบ ก็ไม่รับละ เพราะขนาดเรายังคิดแบบนี้ จะสนุกไหมล่ะ"
ในวัย 30 ต้นๆ ถ้าให้พูดถึงชีวิตในช่วงวัยที่ผ่านมา เธอก็บอกได้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดว่า "โอเค"
ก่อนขยาย "แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นแบบที่คาดหวังนะ"
"คือผู้หญิงคาดหวังเยอะไง อยากได้นั่นนี่"
"นั่น" อาทิ ทำไมไม่เกิดเป็นเจ้าหญิงแบบเทพนิยาย
"นี่" ประเภท ขอให้ทำงานน้อย ได้เงินเยอะ
"เพ้อฝันไปเรื่อย" คือข้อสรุปก่อนส่งเสียงหัวเราะดัง จนตายิบหยี
ดังนั้น "ถ้าถามว่าทุกอย่างเป็นตามคาดฝันไหม ถ้าเอาแบบเพ้อฝันก็ไม่ แต่ถามว่าแฮปปี้ไหม มาก"
"แต่จะดึงตัวเองกลับมาตลอด ตั้งแต่เริ่มต้นจะบอกตัวเองว่าให้รู้และจำได้ ว่ามายืนตรงนี้โชคดีแค่ไหน แล้วทำให้ดีที่สุด เอ็นจอยกับมัน ห้ามหลง ห้ามเหลิง"
"เพราะขนาดดาราที่เรารักสมัยเด็ก ดังมาก ทุกคนมีขึ้นก็มีลง มีคนใหม่เข้ามาทุกวัน วันนี้เราดีมาก แต่ก่อนที่เราจะมีก็มีคนยืนตรงนี้ เราเบียดเขามาเหมือนกัน"
"ถ้าไม่คิดแบบนี้ต่อไปจะเสียใจ"
"เราเองคิดได้เร็ว เพราะน้อง (พลอย หอวัง) เคยเป็นนักร้องไง ก็จะเห็นว่าวันหนึ่งงานเยอะมาก วันหนึ่งงานก็น้อยลง อย่างพี่หมิว ลลิตา (ศศิประภา) ถึงวันนี้เขาไม่ได้มีงานทุกวัน ไม่ได้ขึ้นกอสซิปแมกกาซีน แต่เขาก็ยังเป็นหมิว ไม่จำเป็นต้องตารางแน่นทุกวันถึงจะยิ่งใหญ่ พี่ลูกเกด (เมทินี ชาร์พเพิร์ล) นางแบบรุ่นใหม่เจอก็ต้องยกมือไหว้"
ในแง่ชีวิตส่วนตัว คริสบอกว่านอกจากครอบครัวและเพื่อนแล้ว ตอนนี้เธอไม่มีใคร
"แต่ถามว่ามีคนคุยไหม ก็มี"
"คริสเองไม่เคยมีสเปคนะ แต่ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่คุยด้วย ที่รู้สึกดีด้วย หรือคุยเป็นแฟน ทุกคนจะมีความเป็นสุภาพบุรุษ"
"อธิบายไม่ถูกว่าสุภาพบุรุษในที่นี้หมายถึงยังไง ไม่ใช่ว่าจะลงจากรถแล้วต้องวิ่งมาเปิดประตูให้ ไม่ใช่อย่างนั้น"
"แล้วทุกคนที่เข้ามา ไม่ได้ไปเสาะหา เพราะเชื่อว่าถ้าคนแมตช์กัน เจอกันปุ๊บจะรู้สึกดีเลย อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอก็ได้ แต่จะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้"
"แล้วถ้าถามว่าสเปคลดลงไหม สำหรับคริสเพิ่มขึ้นค่ะ"
"มีคำที่บอกว่า Keep your heels and standards high คือผู้หญิงถ้าคิดจะใส่ส้นสูงเพื่อให้ตัวเองดูดี สแตนดาร์ดเราก็ต้องไปตามนั้นด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็ได้"
"อย่างผู้หญิงบอกว่าอยากมีแฟน ต้องดูว่าเพราะอะไร อยากให้เขามาดูแล อยากมีคนโทร.อิ๊อ๊ะ อยากมีคนคอยให้กำลังใจ อย่างนี้คว้าเพื่อนก็ได้ ใครก็ได้"
"สำหรับคริสไม่ใช่แค่ใครก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่เจอแล้วรู้สึก"
"มีคนเคยถามว่าอนาคตคริสจะเป็นยังไง นึกไม่ค่อยออกนะ"
"ถามว่าแล้วจะทำอะไรต่อ คริสก็บอกไม่ได้ เพราะสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ทำ"
"ไม่เคยคิดเพ้อฝันเลยว่าวันหนึ่งฉันจะเป็นดารา แต่อยู่มาวันหนึ่งเหมยลี่ (ตัวละครที่เธอเล่นในภาพยนตร์ "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ") ซึ่งหน้าเยินทั้งเรื่อง เพราะเล่นโดยไม่แต่งหน้าเลยจะได้รับการต้อนรับ"
จนทำให้มีสิ่งต่างๆ นานาเข้ามา
"แล้วก็กลายเป็นคริส หอวัง ที่ใครๆ ก็รู้จักในวันนี้"