พลังรักของซูเปอร์มนุษย์แม่ ผู้ดูแล “ก๊อตจิ เทยเที่ยวไทย” ดุจเจ้าหญิง
พิธีกรอารมณ์ดี “ก๊อตจิ-ทัชชากร บุญลัภยานันท์” ที่ตอนนี้คิวงานแน่นทั้งงานประจำ และรายการส่วนตัว สำหรับรายการ “เกษียณสำราญ” รายการทางยูทูปชาแนล รายการที่ทำให้เราได้เห็นความรัก ความสนิทสนมระหว่าง “ก๊อตจิ กับ คุณแม่ชิ - ชิสากัญญ์” ในวาระวันแม่แห่งชาติ 2565 นี้ Sanook Women จึงชวนคู่แม่-ลูกสุดน่ารักมาพูดคุยถึงความเป็นมนุษย์แม่ และสุดยอดคุณลูก เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่สร้างทั้งรอยยิ้ม และความอบอุ่นให้กับหัวใจ
ความสนิทสนมเต็ม 10
ในวัยเด็กของก๊อตจิเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่ชิยังคงทำงานประจำอยู่ ดังนั้นหน้าที่เลี้ยงดูก๊อตจิหลักๆ จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อ (โรจ บุญลัภยานันท์) และคุณแม่จะกลับมารับช่วงต่อในตอนเย็นหลังเลิกงาน พาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือวันเสาร์ก็พาไปที่ทำงานด้วย
คุณแม่ชิเล่าว่า “ ตอนเด็กๆ ส่วนมากป๊าจะเลี้ยงเขาจนโต แม่ก็ทำงานประจำ หยุดวันอาทิตย์วันเดียว ส่วนมากก็จะพาไปเดินพาหุรัด ซื้อของกระจุกกระจิก ไปกินขนม”
ดูแลลูกดุจเจ้าหญิง
ด้วยเหตุผลการเป็นลูกคนเดียว และคุณแม่คิดว่าตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ตนเองทำงานไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก หลังเกษียณคุณแม่ชิจึงทุ่มเททุกอย่างให้ก๊อตจิอย่างเต็มที่ เพราะคุณแม่ชิดูแลก๊อตจิทุกอย่างโดยเฉพาะระยะหลังที่ก๊อตจิทำงานเยอะขึ้น คุณแม่จะเข้ามาดูแลทุกเรื่องนับตั้งแต่ตื่นนอน
ก็อตจิเล่าเสริมว่า “ คุณแม่คือผู้ดูแลทุกอย่างเลยค่ะ อาหารเช้าคุณแม่ก็เป็นคนทำ ตอนนี้ทำงานประจำและทำงานข้างนอกด้วย วันไหนเข้าออฟฟิศคุณแม่จะเตรียมผลไม้และปอกให้ทาน แม้แต่อยู่บ้าน คุณแม่ก็ดูแลเตรียมให้หมด เหมือนเราเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ คุณแม่จัดการให้ทุกอย่างเลย”
เมาท์มอยความไฮเปอร์ของคุณแม่
จะด้วยนิสัยส่วนตัว หรือก่อนหน้านี้คุณแม่ชิเคยออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน เมื่อเกษียณแล้วพลังความไฮเปอร์ยังคงแรงต่อเนื่อง จนก๊อตจิต้องขอเมาท์ถึงความแอคทีฟทำนั่นทำนี่ตลอดทั้งวัน แม้แต่ตอนนอนยังคิดถึงเรื่องที่จะทำในวันรุ่งขึ้น
“แม่ทำทุกอย่างตั้งแต่ตื่นเช้า เก้าอี้กับโซฟาที่บ้านใหม่มาก เพราะไม่ได้นั่งไม่ได้นอนเลย แม่จะเดิน ทำนั่นทำนี่ตลอดทั้งวัน ตอนเช้าทำกับข้าว สมัยก่อนไปส่งเราที่ทำงานด้วย ส่งเสร็จก็กลับบ้านมาดูแลภายในบ้าน ทำครัวต่อ จัดการเรื่องอาหารว่าตอนเย็นจะกินอะไร ถ้าพอมีเวลาจะออกไปทำต้นไม้นอกบ้าน ทำต้นไม้เสร็จก็มาดูยูทูปว่าคนนั้นคนนี้ไปกินอะไรที่ไหน ทำกับข้าวอะไรก็อยากทำตามเขา หรือแม้แต่เราไปกินอาหารนอกบ้าน กินเสร็จก็อยากกลับมาทำตามเขาอีก เห็นอะไรก็อยากทำ อยากไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ถ้าไม่หลับคือไม่ได้นอน เผลอๆ หลับตาแล้วยังคิดต่ออีกว่าวันพรุ่งนี้จะทำอะไร”
คุณแม่ชิขอเสริม “อยากให้สมบูรณ์แบบ ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาด ถ้านอนไม่หลับ ก็จะคิดว่าวันรุ่งขึ้นจะทำเมนูอะไรให้เขากิน”
ซูเปอร์มนุษย์แม่ พลังดุจ The Hulk
โดยรูปร่างแล้วคุณแม่ชิเป็นหญิงร่างเล็ก แต่ถ้าพูดถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และพลังแล้วถือว่ายิ่งใหญ่เกินตัว เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แต่กลับทำงานอื่นนอกเหนือจากทำอาหาร จนก๊อตจิขอเปรียบคุณแม่เป็น The Hulk (เดอะ ฮัลค์)
“ที่เปรียบเทียบแม่เป็น The Hulk เพราะแม่ทำได้ทุกอย่าง แข็งแรง แม่เกินมนุษย์ เขาถึงเรียกว่ามนุษย์แม่ นอกจากทำกับข้าวซึ่งถือว่าปกติ ถ้าในบ้านมีอะไรเสียแม่จะเป็นคนจัดการทั้งเปลี่ยนไฟ ซ่อมท่อน้ำแตก กระทั่งยกเครื่องซักผ้า แม่ก็จะใช้หลักคานบีบคานงัด ต่อท่อน้ำเครื่องซักผ้า ทีวี แอร์เสียช่างไม่ต้องมาดู แค่แม่บอกว่าเสียตรงไหนก็ไปซ่อมตรงนั้นคือจบ หรือบางทีเขาจะคิดประดิษฐ์สิ่งของขึ้นมา เช่นกระถางต้นไม้หนักๆ เขาก็จะหาวิธีแบก เข็น ดึง ลากอะไรของเขาได้หมดเลย”
คุณแม่ชิเพิ่มเติม “เราเรียนรู้จากการฟัง การถามช่างที่เคยมาซ่อมอาการนี้ พอมันเสียครั้งต่อไป อาการมันเหมือนครั้งก่อน เราก็บอกช่าง เขาก็บอกว่าใช่ครับ มันจะได้ซ่อมตรงจุดไม่ต้องรื้อ”
แบบนี้ซิ “แม๊” ของฉัน
หลายๆ บ้านคงชวนกันคุยถึงวีรกรรมลูก แต่สำหรับบ้านนี้ ก็อตจิเป็นคนเรียบร้อยไปเลยหากเทียบกับคุณแม่ ที่นอกจากจะไฮเปอร์ พลังมหาศาลดุจซูเปอร์ฮีโร่ แน่นอนว่าต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้ก๊อตจิถึงกับต้องเอ่ยปากว่า “แม๊” กันมาแล้ว
ก๊อตจิย้อนเล่า “ สมัยก่อนเขาเล่นโยคะ ปกติจะขับรถจากบ้านไปที่สโมสรเพราะไม่ได้ไกลมาก แต่วันนึงเขาขี่จักรยานไปแบบร้อยวันพันปีไม่เคยขี่ วันนั้นอยากจะขี่ และถนนในหมู่บ้านมีหลังเต่าเยอะ สุดท้ายล้ม ถ้าขับรถไปก็หมดเรื่องแล้ว”
คุณแม่ชิเล่าเสริม “ วันนั้นที่ล้มเพราะวางเสื่อโยคะไว้ตะกร้าหน้ารถ พอไปสะดุดหลังเต่ามันเลยล้ม หัวเข่าถลอกเนื้อออกมาเป็นสีแดงเลย พอไปถึงสโมสรครูโยคะเห็นแผลแล้วบอกให้เล่นต่อ พอเล่นเสร็จแล้วค่อยไปหาหมอ”
ก๊อตจิเพิ่มเติมถึงวีรกรรมถัดไป “แม่มีเมตตาต่อสัตว์ เวลาเจอหมาเจอแมวก็ชอบเข้าไปเล่น แม่รักสัตว์ทุกอย่าง มีอยู่บ้านนึงเขาเลี้ยงห่าน ก็เอาใบไม้ไปแหย่ ห่านกัดนิ้วจนต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักที่โรงพยาบาล เรียกว่าทโมนจนลูกดูเรียบร้อยไปเลย”
แบบนี้ซิ “สุดยอดคุณลูก”
ความเป็นสุดยอดคุณลูกของก๊อตจินั้น สำหรับคุณแม่ชิแล้วคิดว่าเป็นเรื่องการเรียนที่ก๊อตจิสามารถเรียนได้ตามที่ก๊อตจิและครอบครัวตั้งใจแบบไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ เนื่องจากก๊อตจิเป็นเด็กที่รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำมาตั้งแต่เด็ก
คุณแม่ชิอธิบาย “ตั้งแต่เด็กป๊าของเขาจะจัดการให้ตั้งแต่สมัยอนุบาลให้เรียนใกล้บ้าน แล้วไปต่อโรงเรียนระดับประถมที่มีชื่อเสียง พอเรียนไปสักระยะหนึ่งป๊าก็ให้ไปสอบสวนกุหลาบ พอติวจนสอบเข้าสวนกุหลาบได้แล้ว ก็อยากให้สอบเข้าเตรียมอุดมฯ เขาก็สอบได้แต่ไม่ไปเพราะติดเพื่อนที่โรงเรียนสวนกุหลาบ จนเรียนจบที่สวนกุหลาบ พอป๊าเห็นเขาเรียนเก่งก็ให้เรียนสายวิทย์ แต่เขาไม่ชอบ อยากขอเปลี่ยนสาย เราก็โอเค ไม่ได้บังคับลูกเรื่องการเรียน เขาเรียนตามที่เขาอยากเรียนแล้วก็สอบเข้าจุฬาฯ ได้ เราภูมิใจที่เขาจัดการตัวเองได้”
พร 1 ข้อที่มอบให้แก่กัน
แด่คนที่เรารักหากขอพรและเป็นจริงได้เราคงอยากขอพรให้กับเขาเหล่านั้นหลายๆ ข้อ และสำหรับแม่ลูกคู่นี้ล่ะ จะขอพร 1 ข้อให้แก่กันและกันอย่างไร
คุณแม่ชิเริ่มก่อน “ส่วนมากที่แม่ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงต่อไปเรื่อยๆ เดินทางไปไหนก็ขอให้ปลอดภัย”
ด้านก๊อตจิ “อยากให้คุณแม่มีความสุขทุกๆ วัน เพราะสมัยนี้ความสุขก้อนใหญ่หายาก และกว่าจะไปถึงความสุขก้อนนั้น เราอาจจะละเลยระหว่างทางไป แต่ถ้าทุกวันๆ เรามีความสุข เรารู้สึกว่าแค่นี้พอแล้ว สำหรับเราไมได้วางแผนในอนาคคว่าต้องเป็นอะไร มีอะไร ต้องไปถึงแค่ไหน เรารู้สึกว่าถ้าในทุกๆ วันเราใช้ชีวิตให้มีความสุข เราก็โอเคแล้ว ซึ่งเราทำแบบนั้นจริงๆ
เราโชคดีมากที่ได้อยู่กับครอบครัวมาตลอด ได้อยู่ทุกวันตั้งแต่เกิดมา รู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าอีกหลายๆ คนที่ต้องออกมาใช้ชีวิต หรืออาจต้องมาทำงานต่างที่ต่างถิ่นแล้วไม่ได้เจอครอบครัว เพราะเรารู้สึกว่าครอบครัวเป็นพลังบวกจริงๆ ที่ทำให้เราต่อสู่กับคนอื่นได้
มันเป็นการชาร์จแบต เหมือนเราออกมาทำงานแล้วแบตหมด แบตเสื่อม ทุกครั้งที่กลับบ้านมันรู้สึกว่าได้ชาร์จแบตนั่นแหละคือความสุขที่เราได้รับในทุกๆ วัน
อยากให้หลายๆ คนหันมามีความสุขง่ายๆ ในครอบครัว บางทีมันอาจจะทำให้เราอยู่ในสังคมปัจจุบันได้มีความสุขมากยิ่งขึ้น”
ในตอนท้ายทั้งคู่ยังส่งต่อความรู้สึกด้วยสิ่งที่อยากบอกกันและกัน โดยก๊อตจิบอกว่า “พูดกันตรงๆ เลยว่าเวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่ได้เยอะ ในทุกๆ วันเรามีความสุขแล้ว เราทำเต็มที่แล้ว เราก็จะไม่รู้สึกเสียดายอะไร อยากให้แม่มีความสุขในทุกๆ วัน ตัวลูกจะพยายามทำให้แม่มีความสุขเหมือนกัน
ด้านคุณแม่ชิ “ชีวิตที่เหลืออีกไม่ถึงครึ่งชีวิต อยากมีความสุขกับลูกให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ พยายามทำตัวให้แข็งแรงเพื่อที่จะอยู่ดูแลลูกได้ตลอด”
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ