ขาช้อปต้องรีบเช็ก! 7 อาการ "Shopaholic" เสพติดการช้อปปิ้ง จนอาจล้มละลายไม่รู้ตัว

ขาช้อปต้องรีบเช็ก! 7 อาการ "Shopaholic" เสพติดการช้อปปิ้ง จนอาจล้มละลายไม่รู้ตัว

ขาช้อปต้องรีบเช็ก! 7 อาการ "Shopaholic" เสพติดการช้อปปิ้ง จนอาจล้มละลายไม่รู้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พอเจอดีลเด็ด โปรโมชั่นดี หรือช่วงมหกรรมเซลล์ทีไร ก็อดใจไม่ไหวแล้วต้องซื้อของมาสนองความอยากได้อยากมีทุกครั้งเลยค่ะ!!!

ใครที่เป็นขาช้อปตัวจริงเสียงจริง ชอบซื้อสินค้าทั้งทางหน้าร้านและผ่านช่องทางออนไลน์ ปลดล็อกหน้าจอสมาร์ทโฟนปุ๊บก็เจอแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์เกือบครบทุกแอปฯ ก็คงสังเกตเห็นเหมือนกันแน่ๆ ว่าแต่ละแบรนด์มักจะปล่อยโปรโมชันเด็ดๆ มาล่อตาล่าใจและปล้นเงินในบัญชีได้แทบจะทุกเดือนเลยค่ะ


ซึ่งหากช้อปปิ้งแบบพอดีๆ ก็อาจไม่ได้ส่งผลเสียต่อตัวเราเองเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่มีความต้องการช้อปปิ้งอยู่ตลอดเวลา หรือห้ามใจไม่ให้ซื้อของไม่ได้ ก็อาจเข้าข่ายว่าจะเป็น Shopaholic หรือเสพติดการช้อปปิ้งอยู่ก็ได้นะ เราจึงรวบรวม 7 อาการ "Shopaholic" มาให้เหล่านักช้อปได้ลองเช็กกันว่า เธอทั้งหลายกำลังเสพติดการซื้อของมากเกินไปจนอาจส่งผลเสียในอนาคตรึเปล่าค่ะ


ล้มละลายไม่รู้ตัว! 7 อาการ Shopaholic เสพติดการช้อปปิ้ง

1. ซื้อของที่ไม่จำเป็นหรือไม่ได้วางแผนจะซื้ออยู่บ่อยๆ
 

สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตามมาเช็คอาการ Shopaholic ข้อแรกพร้อมกันได้เลยค่ะ หากลองนึกย้อนดูพฤติกรรมการช้อปปิ้งที่ผ่านมาแล้วพบว่าคุณสาวๆ มักจะซื้อของที่ไม่จำเป็นจนกองล้นบ้านและไม่เคยหยิบมาใช้เลยสักครั้ง หรือรู้ตัวอีกทีก็ซื้อของที่ไม่ได้วางแผนจะซื้ออยู่บ่อยๆ เช่น ซื้อเสื้อผ้าแนวซ้ำๆ กันทั้งที่ตัวเก่ายังไม่ได้หยิบมาใส่ / ซื้อหนังสือเล่มใหม่ทั้งที่มีหนังสือที่ยังไม่ได้เปิดอ่านกองเป็นภูเขา / พอเห็นของถูกก็ตัดสินใจซื้อทั้งที่ไม่จำเป็น เป็นต้น นี่ก็เป็นสัญญาณเตือนถึงอาการเสพติดการช้อปปิ้ง จนไม่สามารถยับยั้งชั่งใจก่อนกดสั่งซื้อหรือเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ได้นั่นเองค่ะ
   

2. ระบายอารมณ์ด้วยการช้อปปิ้งทุกครั้งที่รู้สึกโกรธ
   

เวลาที่คนเรารู้สึกโกรธ โมโห เศร้าใจ หรือผิดหวัง ก็มีวิธีระบายความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้นออกไปแตกต่างกันค่ะ แต่สำหรับคนที่ระบายอารมณ์ด้วยการซื้อของรัวๆ แบบไม่บันยะบันยังทุกครั้งที่รู้สึกไม่ดี โดยไม่สนใจว่าของชิ้นนั้นจะราคาเท่าไหร่ / จำเป็นมากแค่ไหน / อยากได้จริงๆ รึเปล่า เรียกง่ายๆ ว่ายิ่งซื้อของเยอะเท่าไหร่ก็ช่วยระบายความโกรธออกไปได้มากเท่านั้น คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในอาการของเหล่าคนที่เสพติดการช้อปปิ้ง เพราะพวกเธอตัดสินใจซื้อของด้วยอารมณ์มากกว่าที่จะใช้เหตุผล และพฤติกรรมนี้อาจนำไปสู่การใช้จ่ายโดยที่ไม่จำเป็นในที่สุดด้วยค่ะ
   

3. รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเวลาที่ได้ช้อปปิ้ง
   

ขอถามหน่อยสิว่ามีสิ่งไหนที่ทำให้คุณสาวๆ รู้สึกตื่นเต้นดี๊ด๊าจนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่บ้างคะ คำตอบของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน บางคนตื่นเต้นเวลาที่ได้เจอคนที่ชอบ บางคนตื่นเต้นเวลาดูหนังแอคชั่น หรือบางคนตื่นเต้นเวลาเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุก แต่สำหรับคนที่เสพติดการช้อปปิ้ง พวกเธอจะรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ เวลาที่ได้เลือกซื้อของค่ะ โดยขณะที่เดินช้อปปิ้งสินค้าในร้านหรือกดสินค้าใส่ตระกร้าแล้วจ่ายเงิน มันจะกระตุ้นให้ฮอร์โมนอะดรีนาลีนหลั่งออกมามากขึ้นด้วยความตื่นเต้น รวมทั้งผลิตโดพามีนหรือฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดีมากขึ้น จนกลายเป็นคนที่เสพติดการช้อปปิ้งในที่สุดค่ะ

   
4. หลังช้อปปิ้งเสร็จแล้วรู้สึกผิดหรือเสียดายทีหลัง
   

ถึงแม้ว่าเหล่า Shopaholic จะรู้สึกตื่นเต้น เพลิดเพลิน และมีความสุขเวลาที่ได้ช้อปปิ้งก็ตาม แต่หลังจากนั้นสิ่งที่ตามมาก็มักจะเป็นความรู้สึกผิด เสียดาย และละอายใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปในทีหลังค่ะ อย่างที่เราบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าคนที่เสพติดการช้อปปิ้งมักจะซื้อของที่ไม่จำเป็น หรือไม่ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะซื้ออยู่บ่อยๆ แบบนี้พอตั้งสติได้หลังตัดสินใจซื้อไปแล้วและเห็นของเหล่านั้นกองอยู่เต็มบ้าน ก็จะเริ่มรู้สึกเสียดายเงินที่จ่ายไปและคิดว่าไม่น่าซื้อมาเลย แต่ด้วยความที่รู้สึกตื่นเต้นเวลาที่ได้ช้อปปิ้ง ก็อาจทำให้ขาดสติและไม่มีเวลาคิดให้รอบคอบก่อนซื้อ จนพฤติกรรมการช้อปปิ้งวนเวียนซ้ำๆ เหมือนเดิมค่ะ
   

5. วันไหนไม่ได้ช้อปปิ้งแล้วรู้สึกกระวนกระวาย
   

ขอบอกเลยว่าอาการเสพติดการช้อปปิ้ง แทบจะไม่ต่างอะไรจากการเสพติดการเล่นเกม เสพติดแอลกอฮอลล์ หรือเสพติดโซเชียลมีเดียเลยนะคะ โดยคนที่มีอาการเสพติดการช้อปปิ้ง หากวันไหนที่พวกเธอไม่ได้ซื้อของหรือไม่ได้ใช้จ่ายเงินออกไป ก็จะเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ วิตกกังวล นั่งไม่ติด เหมือนบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป นั่นก็เป็นเพราะว่าเหล่า Shopaholic มีความเคยชินกับการซื้อของ และคิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกๆ วัน ส่งผลให้วันไหนที่ไม่ได้ช้อปปิ้งก็จะมีอาการกระวนกระวายค่ะ
   

6. หากไม่ได้ซื้อของที่อยากได้ก็จะโมโหหนัก
   

เวลาซื้อของมีใครถือติดประจำใจว่า “ อยากได้แล้วต้องได้ ” บ้างคะ ยกมือขึ้นเร็ว! ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยนะ หากคุณสาวๆ อยากได้ของชิ้นไหนแต่ไม่ได้ซื้อหรือซื้อไม่ได้ แล้วจะเกิดความรู้สึกผิดหวังหรือเสียดาย แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อของชิ้นที่อยากได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะกดซื้อไม่ทัน มีคนซื้อตัดหน้าไปก่อนแล้ว หรือมีเงินไม่มากพอที่จะซื้อของชิ้นนั้นได้ แล้วเกิดอาการโมโหอย่างหนัก วีนแตกใส่คนรอบข้าง หรือถึงไม่ได้ซื้อของชิ้นนั้นแล้วรู้สึกว่า #ขาดเธอเหมือนขาดใจ นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกค่อนข้างชัดเจนเลยว่า เธอเข้าข่ายจะเป็นคนที่เสพติดการช้อปปิ้งขั้นรุนแรงเชียวละ

   
7. ช้อปปิ้งเก่งจนมีปัญหาการเงินหรือกระทบความสัมพันธ์
   

แล้วก็มาถึงอาการ Shopaholic ข้อสุดท้ายที่ทางเราคิดว่าค่อนข้างร้ายแรง แล้วยังส่งผลกระทบต่อชีวิตในหลายด้านด้วยค่ะ โดยการซื้อของมากจนเกินไปอาจนำไปสู่การเกิดปัญหาการเงินในอนาคตได้ง่ายๆ เลยนะ เพราะหากติดนิสัยใช้จ่ายเกินตัวก็จะทำให้ไม่มีเงินเก็บ รายจ่ายมากกว่ารายรับ และเกิดปัญหาหนี้สินขึ้นได้ในที่สุด นอกจากนี้พฤติกรรมเสพติดการช้อปปิ้งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบตัวได้ด้วยเหมือนกัน เพราะคุณสาวๆ อาจต้องโกหกคนในครอบครัวเพื่อปิดบังพฤติกรรมช้อปเก่งของตัวเองเอาไว้ หรือโดนคนใกล้ตัวตำหนิเกี่ยวกับนิสัยใช้เงินแบบขาดสติได้อีกด้วย


เป็นยังไงบ้างคะ หลังจากที่ได้อ่าน อาการ Shopaholic ไปจนครบทั้ง 7 ข้อและลองเช็คกับตัวเองดูแล้ว สรุปว่าสาวซิสสายช้อปมีอาการตรงตามที่เราบอกไปกี่ข้อเอ่ย? จริงๆ แล้วการซื้อของด้วยเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เพื่อสร้างความสุขและให้รางวัลตัวเองมันไม่ใช่เรื่องผิดหรอกนะคะ แต่ถ้าใช้จ่ายแบบขาดสติ ซื้อของที่ไม่จำเป็นแล้วไม่เคยได้หยิบมาใช้ หรือใช้จ่ายเกินตัวจนถึงขั้นส่งผลกระทบต่อสถานะการเงิน รวมทั้งความสัมพันธ์รอบๆ ตัว แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ทางที่ดีควรตั้งสติและคิดให้รอบคอบทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อของ จะได้ไม่ต้องปวดหัวกับสารพัดปัญหาที่ตามมาทีหลังค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook