เลือก ครีมกันแดด Chemical และ Mineral อย่างไรและดูตรงไหน?
ในทุกวันนี้ หลายๆท่านคงจะทราบกันอยู่แล้วถึงความสำคัญของ ครีมกันแดด ที่เรียกได้ว่าเป็นปัจจัย 4 ของของสกินแคร์รูทีนเลย เพราะ แต่รู้ไหมว่าครีมกันแดดแต่ละตัวและแต่ละแบรนด์นั้น มีสารกันแดดที่ไม่เหมือนกัน! ซึ่งสารกันแดดที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นมีอยู่ทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน แบ่งเป็น ครีม กันแดด Chemical และ Mineral / Physical แล้วทั้งสองประเภทนั้น สามารถแยกได้ด้วยส่วนผสมที่ระบุอยู่หลังผลิตภัณฑ์นั่นเอง ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไร และมีส่วนผสมที่ต้องดูนั้นคืออะไร? วันนี้ HELLO! จะมาอธิบายให้ฟัง!
ทำความรู้จักแสงแดด
แสงแดดที่เราๆ นั้นเผชิญอยู่ทุกวันนั้น มีรังสีแสง Ultra Violet (UV) อยู่ ซึ่งเป็นรังสีที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาผิวมากมาย และ UV ที่อันตรายต่อผิวเรานั้นมีอยู่สองประเภท นั่นก็คือ UVA ตัวที่ทำลายคอลลาเจนบนผิว ก่อให้เกิดริ้วรอย และ UVB ตัวการการไหม้แดดของผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดปัญหาสิว และเป็นหนึ่งสาเหตุของการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
ครีมกันแดด Chemical
อย่างแรก มาเริ่มทำความเข้าใจก่อนว่าผิวของเรานั้นมี เมลานิน ซึ่งเป็นเซลล์ที่จะคอยสร้างเม็ดสีให้ผิวหนังของเรา และเมื่อผิวของเราโดนแสง UV เมลานินก็จะทำหน้าที่ดูดแสงพวกนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนของสีผิว ซึ่งทำงานของสารกันแดด Chemical นั้น เป็นการดูดซับแสง UV แทนเมลานิน สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ และ UVA บางชนิดได้ ซึ่งกันแดดที่เป็น Chemical ส่วนใหญ่นั้น จะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่าและใช้กับเครื่องสำอางค์ได้ง่ายกว่าโดยไม่ทิ้งคราบขาว โดยส่วนผสมที่เราจะบ่งบอกว่าเป็น ครีมกันแดด เคมีนั้น มีตัวอย่างเช่น Avobenzone, Octinoxate, Tinosorb S, Oxybenzone, DHHB และ Octocrylene
ครีมกันแดด Mineral / Physical
สำหรับครีมกันแดดแบบ Physical หรือ Mineral Sunscreen นั้น จะทำหน้าที่เหมือนกระจก สะท้อนแสง UV ให้ออกไปจากผิว และเนื่องจากการทำงานที่เหมือนกับเกราะป้องกันผิว จะเหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะส่วนผสมอย่าง Titanium Dioxide และ Zinc Oxide นั้น ที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
ในท้ายที่สุด เราขอแนะนำอีก Tip ที่ควรดูเวลาเลือกกันแดด นั้นก็คือเลือกกันแดดที่มีคุณสมบัติ Braod Spectrum ที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB เพื่อป้องกันปัญหาผิวให้ได้ครบถ้วน มีทั้ง กันแดด Chemical และ Mineral ที่สำคัญของการเลือกกันแดดนั้น คือเลือกศึกษาส่วนผสมให้ถี่ถ้วน ให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล