4 ข้อเสียจากการติดมือถือเกินไป อาจทำลายรักพังไม่รู้ตัว

ยุคปัจจุบันนี้ถูกเรียกว่าสังคมแห่งการก้มหน้า เนื่องจากผู้คนติดมือถือกันมากขึ้นและมีการพูดคุยกันน้อยลง ส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปกับมือถือมากกว่า เรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่ก็ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเล่นทันที ซึ่งการติดมือถือมากเกินไปก็อาจทำลายความรักของหลายคู่ได้เลยทีเดียว เรามาดูกันดีกว่าว่า 4 ผลเสียของการติดมือถือที่ทำให้ความรักแย่ลงนั้นมีอะไรบ้าง

1.การพูดคุยสื่อสารกันน้อยลง
เมื่อเล่นมือถือต่างคนก็ต่างสนใจกันน้อยลง เพราะมัวแต่ก้มหน้ามองมือถืออยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่ค่อยได้พูดคุยสื่อสารกันมากนัก จนกลายเป็นความไม่ใส่ใจและเกิดความห่างเหินกันมากขึ้น ซึ่งหลายคนถึงขนาดแชทคุยกันทั้งที่นั่งอยู่ใกล้กันเลยทีเดียว แสดงให้เห็นได้ว่าการหันหน้าเข้ามาคุยกันของคู่รักนั้นค่อยๆ ลดน้อยลงไปจริงๆ

2.เพิ่มโอกาสในการนอกใจมากขึ้น
การเล่นโซเชียลผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ บนมือถือ ไม่ว่าจะเป็น facebook , IG, Line หรือแอพแชทหาคู่ จะทำให้มีโอกาสนอกใจกันมากขึ้น เพราะเป็นการติดต่อกันผ่านการพิมพ์ข้อความ ทำให้อีกคนไม่มีทางรู้เลยว่ากำลังถูกนอกใจอยู่ เว้นแต่ว่าจะเอามือถือไปดู แต่ก็ไม่ง่ายขนาดนั้นเนื่องจากการแชทสามารถลบข้อความหลังคุยเสร็จได้ หลายคู่จึงต้องเลิกรากันไปด้วยสาเหตุนี้กันมานักต่อนักแล้ว

3.เกิดการเปรียบเทียบจนนำมาซึ่งการทะเลาะกัน
การติดมือถือหรือเล่นโซเชียล จะทำให้เราได้เห็นคู่รักอื่นๆ ที่บางคนก็มีการถ่ายรูปสวีทหวานลงบนเฟสบุ๊ค หรือบางคนก็คอมเมนต์จู๋จี๋กันจนดูน่าอิจฉา เมื่อมองย้อนกลับมาที่คู่ของตัวเองแล้วพบว่าไม่เป็นแบบเขา ก็จะเกิดความรู้สึกอิจฉา น้อยใจ และเกิดข้อเปรียบเทียบขึ้นมา จนกระทั่งกลายเป็นทะเลาะกันนั่นเอง

4.ไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรมบนเตียง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากิจกรรมบนเตียงก็มีความสำคัญต่อคู่รักไม่น้อย เพราะหากทั้งคู่ต่างติดมือถือจนไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรมบนเตียงด้วยกัน ก็จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง ดังนั้นลองวางมือถือลงแล้วให้คุณทั้งคู่ได้มีเวลาจู๋จี๋กันบ้าง ก็จะช่วยสานความรักความสัมพันธ์ของกันและกันได้เป็นอย่างดี

การติดมือถือมากไปไม่ใช่เรื่องดี อย่าปล่อยให้เทคโนโลยีมาทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักต้องแย่ลง ลองหาเวลาว่างหันหน้าพูดคุยแล้วทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันบ้าง เพื่อให้ความรักของคุณแน่นแฟ้นมากขึ้น พยายามใส่ใจกันให้มากที่สุด อย่าปล่อยให้ความรักของคุณต้องพังลงเพียงเพราะมือถือเครื่องเดียว