5 พฤติกรรมของพ่อแม่ญี่ปุ่นที่ส่งผลให้ลูกสาวแต่งงานช้า

แม้ว่าผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนมากตัดสินใจใช้ชีวิตโสดมากขึ้น แต่ก็มีผู้หญิงญี่ปุ่นอายุเลย 30 จำนวนไม่น้อยได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาคู่ และร้อยละ 70 ของผู้หญิงที่แต่งงานช้านั้นมาจากการที่พ่อแม่มีอิทธิพลต่อชีวิตมากเกินไป มารู้พฤติกรรมของพ่อแม่ญี่ปุ่นที่ส่งผลให้ลูกสาวแต่งงานช้าหรือไม่ยอมแต่งงานกันค่ะ

พ่อแม่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรักจากประสบการณ์ของตนเอง
พ่อแม่เกิดในยุคก่อนที่วิถีชีวิตและการดำเนินชีวิตรวมถึงการคบหาระหว่างหนุ่มสาวแตกต่างกัน  คำแนะนำเรื่องความรักของคนในยุคก่อนนั้นแตกต่างจากยุคปัจจุบัน ดังนั้นลูกสาวสามารถฟังพ่อแม่ได้แต่ก็ควรใช้วิจารณาญาณในการตัดสินใจเรื่องความรักบนพื้นฐานความสุขและเหตุผลของตนเอง

ความรักและความผูกพันที่มีอย่างล้นเหลือระหว่างแม่และลูกสาว

ความรักและการดูแลเอาใจใส่ในครอบครัวเป็นสิ่งที่ดี แต่หากคุณแม่และลูกสาวติดกันมาก มีความสุขที่จะทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ไปซื้อของ ไปพักผ่อนด้วยกันในวันหยุด ความรักและความผูกพันในครอบครัวที่มากเกินไป ทำให้ลูกสาวเองไม่อยากแสวงหาความรักจากฝ่ายตรงข้าม และอาจส่งผลให้แต่งงานช้าหรืออยากอยู่กับพ่อแม่ไปตลอด

พ่อที่ดูแลใส่ใจลูกสาวอย่างดีเกินไป
การที่คุณพ่อดูแลเอาใจใส่เปลี่ยนผ้าอ้อมและช่วยเลี้ยงดูลูกอย่างดีมาตั้งแต่เล็กเป็นเรื่องดี แต่การดูแลเอาใจใส่ลูกสาวที่มากเกินไป ปฏิบัติกับลูกสาวเหมือนเป็นลูกสาวตัวเล็กๆ อยู่ตลอดเวลา และคอยปกป้องจนเกินเหตุ ทำให้ลูกสาวผู้เติบโตมาด้วยความรักอย่างมากมายตั้งมั่นว่าตนจะไม่แต่งงานหากไม่เจอผู้ชายที่รักเธออย่างไม่มีเงื่อนไขและทำทุกอย่างให้เธอเหมือนคุณพ่อ

แม่ผู้พูดอยู่เสมอว่ายังไม่จำเป็นต้องแต่งงาน
คุณแม่บางคนที่มักพูดถึงข้อเสียของการแต่งงานให้ลูกสาวฟังอยู่เสมอ หรือ พูดเสมอว่าอยู่กับแม่ตลอดไปก็ดี ไม่เห็นจำเป็นต้องแต่งงานเลย หรือหากลูกแต่งงานแล้วแม่จะอยู่อย่างไร เป็นต้น จะทำให้ลูกสาวลังเลและส่งผลให้อยากอยู่เป็นโสดเพื่อได้อยู่ดูแลแม่ในที่สุด

พ่อแม่ที่ขัดขวางความรักของลูก
เป็นเรื่องปกติที่คุณพ่ออาจจะไม่ชอบหน้าแฟนของลูกสาวบ้าง และเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่จะสนับสนุนเรื่องความรักของลูกสาว แต่ในรายที่คุณแม่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับความรักของลูกสาวไปเสียทุกเรื่อง คอยถามไถ่และมีอิทธิพลกับชีวิตรักของลูก อาจส่งผลให้ความรักของลูกสาวไม่ประสบความสำเร็จ และอาจทำให้ลูกสาวไม่อาจพบคนที่ถูกใจได้ เนื่องจากคำปลอบโยนที่ส่งผลในด้านลบ เช่น ผู้ชายคนนั้นไม่ดีพอสำหรับลูก ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของลูกแต่เป็นความผิดของฝ่ายชาย เป็นต้น

สำหรับพ่อแม่ที่รักและเป็นห่วงลูกสาวมากจนยึดมั่นหรือกังวลไม่อยากให้พวกเขาออกไปแต่งงานมีครอบครัว ให้ระลึกว่าเราเองไม่ได้อายุยืนค้ำฟ้า ถึงวันหนึ่งก็ต้องแก่และต้องตายจาก ก็อาจจะทิ้งลูกสาวให้อยู่เดียวดาย เมื่อถึงวัยที่ลูกสาวต้องมีคู่ครองก็ปล่อยให้เขาได้เลือกคู่ชีวิตเองและได้ใช้ชีวิตคู่กันเอง หากมีเรื่องร้ายเกี่ยวกับชีวิตคู่เกิดขึ้นพวกเขาจะเข้มแข็งและเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น ไม่ใช่แต่เฉพาะกับลูกสาว สำหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้รักลูกชายมากเกินจนไปทำร้ายจิตใจคู่รักของลูกก็ให้ระลึกไว้เช่นเดียวกันค่ะ