5 สิ่งสำคัญที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าฝึกให้ลูกเต็มใจช่วยเหลืองานบ้านได้

5 สิ่งสำคัญที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าฝึกให้ลูกเต็มใจช่วยเหลืองานบ้านได้

5 สิ่งสำคัญที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าฝึกให้ลูกเต็มใจช่วยเหลืองานบ้านได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการให้ลูกช่วยเหลืองานบ้าน เพราะการช่วยเหลืองานบ้านนั้นช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจและสมองของเด็กได้ดี อย่างไรก็ดี การฝึกให้ลูกช่วยเหลืองานบ้านอย่างเต็มใจและมีความสุขนั้นไม่ได้ง่ายเลย มารู้เทคนิคสำคัญในการฝึกให้ลูกเต็มใจช่วยเหลืองานบ้านจากที่ปรึกษาให้คำแนะนำการเลี้ยงดูเด็กชาวญี่ปุ่น และงานง่ายๆ ที่เหมาะกับช่วงวัยของเด็กๆ กันค่ะ

สิ่งสำคัญที่จะฝึกให้ลูกเต็มใจช่วยเหลืองานบ้าน

1. อธิบายให้ลูกเข้าใจง่ายพร้อมแสดงตัวอย่างให้ดู
การอธิบายด้วยคำพูดให้ลูกฟังเพียงอย่างเดียวนั้น บางครั้งเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก ดังนั้นพ่อและแม่ควรแสดงตัวอย่าง อธิบายถึงขั้นตอนและวิธีการที่ง่ายให้ลูกเข้าใจ แล้วให้พวกเขาได้ลองทำซักครั้ง จากนั้นจึงปล่อยให้เขาช่วยงานบ้าน


2. แม้จะใช้เวลานานแต่ก็ปล่อยให้ลูกช่วยจนงานเสร็จ
การปล่อยให้ลูกทำงานนั้นใช้เวลานานกว่าการที่พ่อแม่ทำเองเพียงลำพัง บางครั้งพ่อแม่ไม่อาจอดทนรอเวลาได้จนต้องเข้าไปช่วย แต่การเข้าไปช่วยหรือให้ลูกเลิกทำงานที่กำลังช่วยกลางคัน จะไปขัดขวางการสร้างความรู้สึกของความสำเร็จ รวมถึงความรู้สึกรับผิดชอบจะจบลงเพียงแค่ครึ่งๆ กลางๆ


3. ไม่ดุหรือตะโกนใส่เมื่อลูกทำผิดพลาด
ด้วยไม่มีประสบการณ์ ลูกน้อยอาจทำผิดพลาดในระหว่างการช่วยงานบ้าน พ่อแม่ไม่ควรดุหรือตะโกนอย่างอารมณ์เสียใส่ลูก ในทางตรงข้ามควรให้กำลังใจพวกเขาว่าไม่เป็นไร งานผิดพลาดก็เริ่มต้นใหม่ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด แม้ว่าพ่อแม่ต้องใช้เวลาและความพยายามเพิ่มขึ้น แต่ขอให้กอดปลอบประโลมลูกเมื่อพวกเขารู้สึกผิดหวังและท้อแท้จากความผิดพลาดในการช่วยเหลืองานบ้าน


4. ให้ลูกทำงานที่ปลอดภัยและเหมาะกับความสามารถของเด็ก
หลีกเลี่ยงให้ลูกช่วยงานบ้านที่ต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นอันตรายต่อพวกเขา เช่น ใช้มีด ใช้ไฟ หรือของแตกง่าย อีกทั้งต้องใส่ใจว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกนั้นปลอดภัย เมื่อเขามีความคล่องแคล่วในการทำงานหนึ่งๆ แล้วจึงค่อยๆ ฝึกให้ทำงานที่ยากขึ้น แต่ก็ไม่ควรมอบหมายงานที่เป็นอันตรายหรือยากเกินความสามารถของเด็กๆ


5. กล่าวขอบคุณทุกครั้งหลังจากลูกช่วยงานสำเร็จ
คำขอบคุณหลังจากลูกช่วยงานบ้านเสร็จ รวมถึงคำพูดดีๆ เช่น “หนูช่วยแม่ได้เยอะเลย” “เพราะลูกช่วยทำให้งานบ้านแม่เสร็จเร็วขึ้น”  เป็นต้น เหล่านี้เป็นคำพูดที่สร้างความภูมิใจให้แก่เด็กๆ และทำให้พวกเขาอยากช่วยงานบ้านพ่อแม่ด้วยความเต็มใจ

 

งานบ้านที่เหมาะสมสำหรับเด็กในวัยต่างๆ

เด็กวัยก่อนอนุบาล (2 –2 ขวบครึ่ง)
เก็บของเล่นเข้ากล่อง, ทิ้งขยะลงถัง, ขนผ้าที่ซักเสร็จไปให้แม่ตาก, พับผ้าขนาดเล็ก, ช่วยนวดแป้ง และเรียงช้อนหรือตะเกียบ เป็นต้น


เด็กวัยอนุบาล (ประมาณ 4-5 ขวบ)
เช็ดโต๊ะ, ทำความสะอาดบ้านแบบง่าย, พับผ้าที่พับง่ายๆ, ตากผ้าง่ายๆ เช่นผ้าเช็ดหน้า, ดูแลน้อง, จัดวางรองเท้า, รดน้ำต้นไม้, ล้างผัก, ตอกไข่ และขึ้นรูปคุกกี้ เป็นต้น


เด็กวัยประถมศึกษา (ตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป)
แยกและทิ้งขยะ, ดูดฝุ่นทำความสะอาดบ้าน, ล้างห้องน้ำ, ทำกับข้าวง่ายๆ โดยมีพ่อแม่ดูแลการใช้มีดและไฟอย่างใกล้ชิด และหุงข้าว เป็นต้น

 

การให้ลูกช่วยเหลืองานบ้านจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อ และพัฒนาการด้านจิตใจในแง่ของการเรียนรู้ที่จะทำสิ่งที่มอบหมายให้สำเร็จ สร้างแรงบันดาลใจ และความรับผิดชอบ ไปพร้อมกับสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก อย่างไรก็ดี อย่าฝืนใจหรือบังคับให้ลูกช่วยงานบ้านหรือให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เขาทำด้วยความสมัครใจแล้ว อาจทำให้เขาไม่อยากช่วยเหลืองานบ้านในระยะยาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook