แค่หันมาดูแลเสื้อผ้าของเราใส่ได้นานขึ้นจะช่วยลดปริมาณ “ภูเขาขยะเสื้อผ้า” ได้อย่างไร

แค่หันมาดูแลเสื้อผ้าของเราใส่ได้นานขึ้นจะช่วยลดปริมาณ “ภูเขาขยะเสื้อผ้า” ได้อย่างไร

แค่หันมาดูแลเสื้อผ้าของเราใส่ได้นานขึ้นจะช่วยลดปริมาณ “ภูเขาขยะเสื้อผ้า” ได้อย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กองขยะเสื้อผ้ากว่า 39,000 ตัน ที่ถูกทิ้งในทะเลทราย Atacama ทะเลทรายที่มีความแห้งแล้งมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศชิลี กำลังสะท้อนกลับมายังพฤติกรรมการเลือกซื้อและใส่ของมนุษย์ที่อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมไปตลอดกาล

รู้หรือไม่ว่า หากจะทำให้กองขยะที่เห็นนี้หายไปต้องใช้เวลาอย่างต่ำชิ้นละ 200 ปี ในการย่อยสลายหรือถูกกำจัดเองตามธรรมชาติ



Franklin Zepeda ผู้ก่อตั้ง EcoFibra องค์กรที่ผลิตฉนวนเก็บความร้อนจากเสื้อผ้าที่ถูกทิ้ง กล่าวว่า “ปัญหาคือ เสื้อผ้าเหล่านี้ย่อยสลายไม่ได้ และมีสารเคมีอยู่ ดังนั้น จึงไม่สามารถถูกส่งไปฝังกลบในพื้นที่ของเทศบาลได้”

แม้ว่าส่วนหนึ่งของกองขยะเสื้อผ้าปริมาณมหาศาลที่เห็นนี้มาจากประเทศผู้ผลิตที่ต้องโละเสื้อผ้าขายไม่ออกทิ้งให้เป็นขยะ แต่จำนวนไม่น้อยเป็นเสื้อผ้าจากผู้บริโภคที่ใส่ครั้งเดียวทิ้ง หรือซื้อมาแต่ไม่เคยใส่เลย สุดท้ายก็ต้องทิ้งเพราะล้าสมัย ผู้คนเริ่มมีพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าบ่อยและมากเกินความจำเป็น หรืออาจกล่าวได้ว่า การซื้อเสื้อผ้ากลายเป็นค่านิยมหรือความพึงพอใจ จนมองข้ามความจำเป็นและผลกระทบที่จะตามมา มีการสำรวจพบว่า โดยเฉลี่ยแล้วเสื้อผ้าจะถูกโละทิ้งหลังจากใช้ราว 10 ครั้งเท่านั้น

เราในฐานะผู้บริโภคจะมีส่วนร่วมแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง หนึ่งในวิธีที่ทำได้อยู่ในวิดีโอที่คุณกำลังจะดูด้านล่างนี้

 


ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งส่วนใหญ่จะถูกนำกลับมารีไซเคิล ความจริงแล้วเกือบ 73% ถูกนำไปฝังกลบ และมีเพียง 1 % เท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิลเป็นเสื้อผ้าใหม่ แนวคิดการ Upcycle ด้วยการแปลงสภาพของเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้ฟื้นคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้งจึงอาจเป็นทางออกของปัญหานี้

Electrolux แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับโลกจากสวีเดน จึงจับมือกับ Rave Review ดีไซเนอร์ชาวสวีเดน นำเสื้อผ้าจากทะเลทราย Atacama มา Upcycle เป็นคอลเลกชั่นแรกของโลก เพื่อสะท้อนให้เห็นว่ายังมีคุณค่าซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าทุกชิ้นเสมอ แม้ว่ามันจะถูกโละทิ้งแล้วก็ตาม พวกเขาเชื่อว่าคอลเลกชั่นนี้จะส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาเห็นคุณค่าของเสื้อผ้าที่คุณมี มองเสื้อผ้าในตู้ด้วยมุมมองใหม่และคิดว่าจะดูแลเสื้อผ้าที่มีอยู่ให้ดีที่สุดอย่างไร จุดประกายให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งเสื้อผ้านั่นเอง


แต่ก็ยังมีวิธีที่ยั่งยืนกว่าในการลดปริมาณขยะเสื้อผ้าล้นโลก เพราะเมื่อย้อนกลับมาที่พฤติกรรมของผู้บริโภค เหตุผลหนึ่งที่เราโละเสื้อผ้าทิ้งเพราะมันดูเก่า ดูหมอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราอาจไม่รู้วิธีดูแลเสื้อผ้าที่ถูกต้อง ในยุโรป มากกว่า 70% ของเสื้อผ้าที่ทิ้งเป็นเสื้อผ้าที่เกิดจากความเสียหายที่แก้ไขไม่ได้ เช่น สีซีด คราบฝังแน่น และหดตัว

ด้วยเหตุนี้เอง Electrolux ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเสื้อผ้า จึงตั้งเป้าหมายที่จะทำเสื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานยาวขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายในปี 2030 และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ จึงเริ่มต้นด้วยการสร้างความตระหนักรู้ให้คนหันมาดูแลเสื้อผ้าให้ดีกว่าเดิมด้วยการเปลี่ยนพฤติกรมการซักผ้า ไม่ว่าจะเป็น การลดอุณหภูมิในการซักผ้าลงเหลือ 30 องศา ซึ่งจะช่วยลดคาร์บอนลงได้ปีละ 20 กก. และยังช่วยยืดอายุเสื้อผ้า กะจำนวนเสื้อผ้าที่ใส่ลงในถักซักให้พอดี หากน้อยเกินไปก็เปลืองน้ำ ใส่มากไปนอกจากเสื้อจะไม่สะอาดเครื่องซักผ้ายังทำงานหนัก หรือแม้แต่การเปลี่ยนไปใช้ผงซักฟอกแบบน้ำจะช่วยลดปริมาณคาร์บอนได้ 50 กก. ต่อปี งานวิจัยยังเผยว่า หากเราสามารถยืดอายุการใช้งานเสื้อผ้าออกได้ถึง 9 เดือน จะช่วยลดคาร์บอนลงได้ 30%



นอกจากนั้น Electrolux ยังพัฒนาเทคโนโลยีดูแลผ้าขั้นสูง ทั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ที่ใช้งานง่ายช่วยให้ยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า ใช้น้ำและผงซักฟอกน้อยลง เช่น เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่น Ultimate Care Series ที่มีเทคโนโลยี SensorWash ที่ทำให้ซักผ้าได้สะอาด แต่ประหยัดพลังงานทั้งไฟและน้ำ ด้วยการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับคราบสกปรกและคราบผงซักฟอกที่ผ้าเพื่อคำนวณเวลาซักและปริมาณน้ำที่เหมาะสม และยังรักษาเนื้อผ้าและสีสันให้สวยคงทน ยืดอายุเสื้อผ้าของคุณให้นานยิ่งขึ้น



แรงบันดาลใจที่ Electrolux ส่งมอบผ่านคอลเลกชั่น Upcycle จากกองขยะที่ทะเลทราย Atacama ชวนคุณมองเสื้อผ้าเก่าด้วยมุมมองใหม่โดย Rave Review ดีไซเนอร์ชาวสวีเดนก็ดี หรือการนำเสนอวิธีดูแลเสื้อผ้าโดยหวังที่จะให้ผู้คนหันมาดูแลเสื้อผ้าของตัวเองให้ดีขึ้นด้วยการซักที่ถูกต้อง ไปจนถึงการพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัยมาช่วยยืดอายุการใช้งานยาวขึ้นเป็น 2 เท่าเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเราทุกคนไม่ลงมือทำ

เชื่อเถอะว่า แค่หันมาดูแลเสื้อผ้าของตัวเองให้ดีขึ้นก็ช่วยโลกได้แล้ว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ Break The Pattern ได้ที่ http://experience.electrolux.com/breakthepattern/th   

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook